ชาวบ้านแหยง ค่าครองชีพ สูงสุดในรอบ 2 ปี (ไทยโพสต์)
ภาพประกอบไม่เกี่ยวข้องกับข้อมูล
ภาพประกอบไม่เกี่ยวข้องกับข้อมูล
ดัชนีเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนเมษายน สูงสุดรอบ 7 เดือน หลังประชาชนมีความหวังจากค่าแรงขั้นต่ำ แต่คนยังกังวลสินค้าแพง ดัชนีค่าครองชีพพุ่งสูงสุดรอบ 21 เดือน หอการค้าคาใจพาณิชย์ เงินเฟ้อลง 1% จี้แจงเหตุผล
วันนี้ (3 พฤษภาคม) นายธนวรรธน์ พลวิชัย ผู้อำนวยการศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยว่า ผลสำรวจความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือน เมษายน 2555 จากตัวอย่าง 2,255 ราย พบว่า ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคในเดือนเมษายน อยู่ที่ 77.6 เพิ่มขึ้นจาก 76.6 ในเดือนมีนาคม ที่ผ่านมา โดยดัชนีความเชื่อมั่นทุกรายการปรับตัวขึ้นต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 5 และยังเป็นระดับสูงสุดในรอบ 7 เดือนนับจากเดือนตุลาคม 2554
"ความเชื่อมั่นทุกรายการในเดือนเมษายน 2555 ที่สูงสุดในรอบ 7 เดือน เป็นผลจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจและธุรกิจหลังน้ำท่วมที่เริ่มปรับตัวดีขึ้น นอกจากนี้ ผู้บริโภคยังมีความหวังว่าภาวะเศรษฐกิจและรายได้น่าจะดีขึ้นจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล และการปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ ทำให้เห็นการซื้อบ้าน ซื้อรถยนต์ และท่องเที่ยวมากขึ้น เห็นได้จากดัชนีความเหมาะสมการซื้อรถยนต์อยู่ที่ 101.1 สูงขึ้นจากเดือนมีนาคม 2555 และสูงเกินระดับ 100 ครั้งแรกในรอบ 7 เดือนเช่นกัน ส่วนดัชนีซื้อบ้านอยู่ที่ 78 เพิ่มจาก 75.3 และดัชนีความเหมาะสมในการท่องเที่ยวอยู่ที่ 99.5 เพิ่มจาก 96.4" นายธนวรรธน์กล่าว
อย่างไรก็ตาม ผู้บริโภคยังมีความกังวลเกี่ยวกับปัญหาค่าครองชีพสูง และราคาสินค้าแพง ความไม่แน่นอนทางการเมือง และความผันผวนของเศรษฐกิจโลก โดยเห็นได้จากดัชนีภาวะค่าครองชีพอยู่ที่ 50.7 สูงสุดในรอบ 21 เดือน นับจากเดือนกรกฎาคม 2553 เพราะรายได้ยังไม่เพิ่มสูงขึ้นเท่ากับค่าครองชีพ และคาดว่าในอีก 3 เดือนข้างหน้าค่าครองชีพจะยิ่งแย่ลงอีก เพราะราคาพลังงานมีแนวโน้มสูงขึ้น และราคาสินค้าเพิ่มขึ้นตามไปด้วย ส่งผลให้ค่าดัชนีภาวะค่าครองชีพในอนาคตอยู่ที่ 70.5 ต่ำสุดในรอบ 23 เดือน นับตั้งแต่เดือนมิุถุนายน 2553
นายธนวรรธน์กล่าวถึงภาวะเงินเฟ้อในเดือนเมษายน 2555 ที่ลดลงเหลือ 2.47% จากเดือนมีนาคม ที่สูงถึง 3.45% ว่า เป็นไปไม่ได้ที่ในเดือนเดียวอัตราเงินเฟ้อจะลดลงมากถึง 1% เพราะราคาสินค้าไม่ได้ลดลงมากขนาดนั้น แต่ในการสำรวจราคาสินค้าทั่วประเทศ เชื่อว่ากระทรวงพาณิชย์ออกสำรวจจริง แต่คงสำรวจในตลาดที่ราคาไม่แพงมาก และไม่ได้สำรวจตลาดใหญ่ ๆ จึงทำให้ผลที่ออกมาไม่สะท้อนความเป็นจริง ทั้งที่ในสินค้ากว่า 400 รายการที่นำมาคำนวณเงินเฟ้อ มีสินค้ามากถึง 187 รายการที่ราคาเพิ่มขึ้น และ 69 รายการที่ราคาลดลง อย่างไรก็ตาม กระทรวงพาณิชย์จะต้องตอบคำถามเหล่านี้ให้ได้ว่าการที่เงินเฟ้อลดลงมากนั้นเป็นเพราะอะไร
ขอขอบคุณข้อมูลจาก
