เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก ครอบครัวข่าว 3
ตำรวจขังลืมนักศึกษาหนุ่มในแคลิฟอร์เนีย นาน 5 วัน หลังตกเป็นผู้หา ต้องดื่มปัสสาวะประทังชีวิต เตรียมฟ้องร้องเรียกค่าเสียหาย 20 ล้านดอลลาร์
เมื่อวันที่ 2 พฤษภาคม 2555 สำนักข่าวเอเอฟพี รายงานว่า หน่วยปราบปรามยาเสพติดสหรัฐฯ ออกมาขออภัย หลังจากที่ขังลืมนักศึกษาอเมริกันรายหนึ่งในคุกนานถึง 5 วัน โดยไม่ให้ข้าวให้น้ำ จนต้องดื่มปัสสาวะ เพื่อประทังชีวิต รายงานระบุว่า แดเนียล ชอง นักศึกษามหาวิทยาลัยแห่งรัฐแคลิฟอร์เนีย (ยูซี) วัย 23 ปี ถูกส่งเข้าเรือนจำเมืองซานดิเอโก หลังเจ้าหน้าที่สำนักงานปราบปรามยาเสพติด (ดีอีเอ) บุกรวบตัวเขาและเพื่อนอีก 8 คน พร้อมของกลางอาวุธปืน, วัตถุระเบิด และยาเสพติดจำนวนหนึ่ง หลังจากนั้นเขาจึงถูกควบคุมตัวไปขังไว้ แต่กลับไม่มีทั้งอาหารและน้ำดื่มนานถึง 5 วัน จึงตัดสินใจดื่มปัสสาวะตนเอง และรับประทานผงสีขาวชนิดหนึ่งที่ตกอยู่ภายในห้องขัง ซึ่งภายหลังมาทราบว่าเป็นยาบ้า เขาต้องทนทุกข์ทรมานในห้องขังจนน้ำหนักหายไปถึง 7 กิโลกรัมทีเดียว
โดย ชอง เรียกร้องค่าเสียหาย 20 ล้านดอลลาร์สหรัฐ พร้อมทั้งระบุว่า เขาถูกทิ้งไว้ในห้องขังขนาด 5 ×10 ฟุต โดยไม่มีเจ้าหน้าที่มาเหลียวแล เขาจำเป็นต้องพึ่งตัวเองทุกวิถีทาง พอวันที่ 3 ก็เริ่มมีอาการประสาทหลอนคล้ายคนบ้า และพยายามฆ่าตัวตายในคุกด้วยการทุบกระจกแว่นตาตัวเอง แล้วนำมากรีดแขนเป็นข้อความ "แม่ ผมขอโทษ" ซึ่งภายหลังพยาบาลยังพบเศษแก้วในลำคอของเขาด้วยเช่นกัน แสดงให้เห็นว่า ชอง พยายามจะกลืนเศษแก้วเข้าไป ซึ่งเจ้าตัวบอกว่า เขารู้สึกแปลกใจมากที่เจ้าหน้าที่ลืมเขาไว้ในห้องขังโดยไม่กลับมาดู และไม่สนใจเสียงร้องเรียกของเขาด้วย
อย่างไรก็ตาม ทางสำนักงานปราบปรามยาเสพติด กล่าวว่า "มีการจับกุมนักศึกษาเกิดขึ้นจริง จากนั้นเราได้นำตัวผู้ต้องหาทั้งหมดกลับมาที่สำนักงานเพื่อพิมพ์ลายนิ้วมือ, ถ่ายรูป และสอบสวน ระหว่างนั้นผู้ต้องหาแต่ละคนจะถูกย้ายไปตามห้องขัง 5 ห้อง แต่ละคนจะถูกสอบสวนแยก และมีการย้ายตัวผู้ต้องหาไปตามห้องต่าง ๆ หลายครั้ง เมื่อสอบสวนเสร็จแล้ว ผู้ต้องหา 7 คน ถูกนำส่งสถานพินิจประจำรัฐ อีก 1 คน ได้รับการปล่อยตัว ส่วนนักศึกษาคนนี้เจ้าหน้าที่ลืมทิ้งไว้ในห้องขังโดยไม่เจตนา"
ทั้งนี้ วิลเลียม อาร์ เชอร์แมน เจ้าหน้าที่พิเศษประจำสำนักงาน ดีอีเอ เมืองซานดิเอโก กล่าวขอโทษต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่า "ผมเสียใจอย่างยิ่ง และขออภัยอย่างสุดซึ้งต่อนักศึกษาคนนั้นด้วย ทั้งนี้ ขอยืนยันว่า เหตุการณ์นี้ไม่ได้สะท้อนถึงมาตรฐานการทำงานที่ผมสั่งสอนผู้ใต้บังคับบัญชา เนื่องจากผมได้สั่งให้ทบทวนนโยบายและกระบวนการทำงานทั้งหมดแล้ว"
