เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก เฟสบุ๊ก Yingluck Shinawatra
นายกรัฐมนตรี ต้อนรับนางออง ซาน ซูจี ระหว่างเป็นเจ้าภาพเลี้ยงอาหารค่ำแก่ผู้เข้าร่วมประชุมเวทีเศรษฐกิจโลกว่าด้วยเอเชียตะวันออก ก่อนที่ นางออง ซาน ซูจี จะขอเข้าพบ ร.ต.อ.เฉลิม เพื่อถกปัญหาแรงงานพม่าในไทย
เมื่อวันที่ 31 พฤษภาคม 2555 นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้ต้อนรับ นางออง ซาน ซูจี ผู้นำเรียกร้องประชาธิปไตย และหัวหน้าพรรคฝ่ายค้านเอ็นแอลดี ประเทศพม่า ระหว่างเป็นเจ้าภาพเลี้ยงอาหารค่ำแก่ผู้เข้าร่วมประชุมเวทีเศรษฐกิจโลกว่าด้วยเอเชียตะวันออก หรือ เวิลด์ อีโคโนมิค ฟอรั่ม ออน อีสต์ เอเชีย ณ หอประชุมกองทัพเรือ กรุงเทพมหานคร ซึ่งหลังจากนั้น นางออง ซาน ซูจี ได้เดินทางเข้าเยี่ยมคารวะ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรีเพื่อถกปัญหาเกี่ยวกับแรงงานพม่าในประเทศไทย
โดย ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า แรงงานพม่าในไทยมีอยู่ราว 2 ล้านคน แต่ลงทะเบียนไว้เพียง 8 แสนคน อีก 1.2 ล้านคน อยู่ระหว่างการพิสูจน์สัญชาติ โดยรัฐบาลไทยได้ให้รัฐบาลพม่ามาตั้งศูนย์พิสูจน์สัญชาติใน 5 จังหวัด ที่มีแรงงานพม่าจำนวนมาก ทั้งจังหวัดภูเก็ต สุราษฎร์ธานี สมุทรสาคร สมุทรปราการ และกรุงเทพฯ เพราะแรงงานที่ได้รับการพิสูจน์สัญชาติว่าเป็นคนพม่าแล้วลงทะเบียนตามกฎหมาย จะได้รับค่าแรงขั้นต่ำวันละ 300 บาท เท่ากับแรงงานไทย พร้อมกับสวัสดิการต่าง ๆ นอกจากนี้ รัฐบาลไทย-พม่ายังเตรียมทำบันทึกว่าด้วยความเข้าใจ (เอ็มโอยู) เพื่อให้คนพม่าได้เรียนในโรงเรียนไทยด้วย
ด้านนางออง ซาน ซูจี กล่าวว่า มีเรื่องอยากฝากให้รัฐบาลเข้าไปช่วยดูแลสำหรับแรงงานพม่า จำนวน 3 ข้อ คือ...
1. ผู้ประกอบการบางส่วนไม่ดูแลเอาใจใส่แรงงานพม่าเท่าที่ควร แถมบางรายยังยึดพาสปอร์ต ทำให้ไม่สามารถเดินทางไปทำงานที่อื่นได้
2. ผู้ประกอบการไม่จ่ายเงินชดเชยกรณีที่แรงงานพม่าเกิดอุบัติเหตุ
3. แรงงานพม่าบางส่วนไม่รู้กฎหมาย และอ่านภาษาพม่าไม่ออก เพราะมาจากชนเผ่าที่แตกต่างกัน จึงอยากให้ลูกหลานแรงงานพม่าได้เรียนที่โรงเรียนในไทย เพราะเด็ก ๆ เหล่านี้จะเป็นสะพานเชื่อมความสัมพันธ์ระหว่าง 2 ประเทศ และช่วยเสริมสร้างความเข้าใจระหว่างแรงงานพม่ากับผู้ประกอบการชาวไทย
ทั้งนี้ ช่วงหนึ่งของการสนทนา ร.ต.อ.เฉลิม ได้กล่าวถึงการแก้ปัญหายาเสพติด โดยระบุว่าจะหาโอกาสไปที่ประเทศพม่าเพื่อขอตัว พล.อ.นะคะมวย ผู้นำชนกลุ่มน้อยในพม่า โดย นางออง ซาน ซูจี กล่าวว่า ต้องยึดกฎหมาย เพราะกฎหมายไทยดี และศาลไทยก็ดี เพราะเท่าที่คุยกับแรงงานพม่า หลายคนก็บอกว่าศาลไทยให้ความยุติธรรมดีมาก ต่างกับพม่าที่กฎหมายดีแต่ศาลยังต้องปรับปรุง