เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก รายการเรื่องเล่าเช้านี้ โพสต์โดย คุณ CiNNtv2 สมาชิกเว็บไซต์ยูทูบดอทคอม
สภากรรมการสมาคมฟุตบอลฯ ตัดสินโทษ มานพ ปานสาคร แบน 4 ปี โดยให้ยืนอุทธรณ์ลดโทษภายใน 15 วัน หลังตัดสินผิดพลาดเกมบีอีซี-ชัยนาท
จากกรณีการแข่งขันฟุตบอลไทยลีก ระหว่าง บีอีซี-เทโรศาสน กับ ชัยนาท เอฟซี โดยทางบีอีซี เทโรศาสนพ่ายต่อชัยนาทไป 1 ประตูต่อ 2 เมื่อวันที่ 21 พฤษภาคม 2555 ที่ผ่านมา ซึ่งกลายเป็นประเด็นที่วิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวาง เกี่ยวกับพฤติกรรมของ นายมานพ ปานสาคร ผู้ตัดสิน ที่ได้ตัดสินผิดพลาดหลายจังหวะ รวมไปถึง สุรเชษฐ์ งามทิพย์ และ ณภัทร ทัพเกตุแก้ว นักเตะชัยนาททั้งสองคนสไลด์ และเตะอัดทีมตรงข้ามเข้าอย่างจัง จนสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย ก็ได้ผลสรุปบทลงโทษ ตามที่ได้นำเสนอข่าวไปแล้วนั้น
ล่าสุด เกี่ยวกับเรื่องนี้ ทาง พล.ต.อ.วรพงษ์ ชิวปรีชา ในฐานะประธานคณะกรรมการฝ่ายป้องกันและปราบรามการประพฤติมิชอบในวงการฟุตบอล (คปบ.) ได้รายงานต่อที่ประชุมสภากรรมการสมาคมฟุตบอลฯ ถึงการทำหน้าที่ของ นายมานพ ปานสาคร ผู้ตัดสินที่ลงทำหน้าที่ในเกมระหว่าง ชัยนาท เอฟซี กับ บีอีซี เทโรศาสน ซึ่งคำตัดสินเกิดข้อผิดพลาด ก่อนมีการนำตัว นายมานพ เข้าเครื่องจับเท็จ โดยมีบทสรุปออกมาว่า เป็นผู้ต้องสงสัย พร้อมกับเสนอแนวทางบทลงโทษต่อสภากรรมการฯ 3 กรณี ได้แก่...
1. หากผู้ตัดสินมีความพลาดผิดโดยตั้งใจ โทษแบนไม่เกิน 1 ปี2. ผู้ตัดสินมีความบกพร่องแบบมีนัยสำคัญ โทษแบนไม่เกิน 10 ปี3. ผู้ตัดสินผิดพลาด ซึ่งมีหลักฐานอย่างชัดเจน โทษแบน 10 ปีขึ้นไปทั้งนี้ หลังจากการประชุม นายถิรชัย วุฒิธรรม ประธานพัฒนาฟุตซอลแห่งชาติ ซึ่งได้รับแต่งตั้งให้เป็นโฆษกของสมาคมฟุตบอลฯ ออกมาแถลงต่อสื่อมวลชน ว่า สภากรรมการฯ มีมติว่าการทำหน้าที่ของ นายมานพ ในเกมดังกล่าวอยู่ในข่ายข้อที่ 2 (มีความบกพร่องแบบมีนัยสำคัญ) โดยผู้ตัดสินรายนี้จะถูกลงโทษห้ามทำหน้าที่เป็นระยะเวลา 4 ปี อย่างไรก็ตาม สภากรรมการฯ ได้เสนอแนวทางเพิ่มเติม โดยให้เจ้าตัวสามารถยื่นอุทธรณ์ได้ภายในระยะเวลา 15 วัน
ขณะที่ พล.ต.อ.วรพงษ์ ประธาน คปบ. ก็กล่าวอีกว่า สภากรรมการฯ เชื่อว่าเครื่องจับเท็จที่เรานำมาช่วยในการสอบสวนครั้งนี้ มีความน่าเชื่อถือสูง จากคำยืนยันของผู้เชี่ยวชาญ และมีการนำไปใช้แพร่หลายในประเทศต่าง ๆ ทั่วโลก สำหรับการสืบสวนคดีสำคัญ ๆ มาแล้ว อย่างไรก็ตาม เรายังไม่มีหลักฐานที่สามารถเอาผิดได้อย่างชัดเจน ซึ่งตรงนี้ ทาง คปบ. จะดำเนินการสืบสวน และหลักฐานต่อไป เพราะเจ้าตัวยังยืนกรานปฏิเสธข้อกล่าวหาแต่ยอมรับว่าเป็นเรื่องยาก
ส่วนประเด็นเรื่องผู้จัดการทีมชาติไทยชุดใหญ่ หรือสปอนเซอร์ชุดแข่งขันรายใหม่ของทีมชาติไทย ซึ่งมีข่าวว่าจะได้ข้อสรุปในการประชุมวันนี้นั้น ทางโฆษกสมาคมฟุตบอลฯ ยืนยันว่า เรื่องดังกล่าวไม่ได้ถูกนำมาเข้าที่ประชุมสภากรรมการฯ ในครั้งนี้แต่อย่างใด
