เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก io9.com
เมื่อวันที่ 4 ตุลาคมที่ผ่านมา สำนักข่าวเอพีรายงานว่า เตาปฏิกรณ์นิวเคลียร์เกือบทุกแห่งในยุโรป จำเป็นต้องได้รับการปรับปรุงซ่อมแซมอย่างเร่งด่วน เพราะหลายแห่งมีอายุการใช้งานนาน เสี่ยงรั่วไหล หรือก่ออันตราย
รายงานระบุว่า ทางสหภาพยุโรป หรืออียู ได้ตรวจสอบมาตรฐานของเตาปฏิกรณ์นิวเคลียร์ทุกแห่งในยุโรป พบว่าเตาปฏิกรณ์นิวเคลียร์เกือบทุกแห่ง อาจต้องได้รับการปรับปรุงซ่อมแซม โดยเฉพาะเตาปฏิกรณ์หลายแห่งที่มีอายุการใช้งานนาน ยิ่งเพิ่มความเสี่ยงที่จะก่ออันตรายมากขึ้น
จากรายงานจากทางสหภาพยุโรป เปิดเผยว่า ปัจจุบันนี้มีเตาปฏิกรณ์นิวเคลียร์ทั่วยุโรปประมาณ 132 เตา ในจำนวนนี้ มีเตาปฏิกรณ์นิวเคลียร์ 111 เตาที่ตั้งอยู่ในรัศมี 30 กิโลเมตรใกล้กับชุมชนที่มีประชาชนอาศัยอยู่ไม่ต่ำกว่า 10,000 คน และหลายเตานั้น ใช้อุปกรณ์ที่มีอายุการใช้งานนาน และอาจจะทำให้เตาปฏิกรณ์เกิดการรั่วไหลได้ โดยเฉพาะในกรณีที่เกิดภัยพิบัติ เช่นเดียวกับที่เคยเกิดขึ้นกับเตาปฏิกรณ์นิวเคลียร์ในเมืองฟุกุชิมะของญี่ปุ่น ในช่วงเกิดสึนามิเมื่อปีที่แล้ว
ขณะเดียวกันหลายฝ่ายคาดว่า การปรับปรุงซ่อมแซมเตาปฏิกรณ์ครั้งใหญ่นี้ อาจจะต้องใช้งบประมาณสูงถึงเกือบล้านล้านบาทเลยทีเดียว
ทั้งนี้ สำหรับการตรวจสอบมาตรฐานของเตาปฏิกรณ์ มีขึ้นหลังจากได้บทเรียนจากเหตุสึนามิในญี่ปุ่นครั้งล่าสุด ที่ทำให้เตาปฏิกรณ์รั่วไหล สร้างความตื่นตระหนกตกใจไปทั่ว และปัจจุบันนี้ เหตุการณ์แผ่นดินไหว พายุ และน้ำท่วม ก็เกิดขึ้นบ่อยครั้งทั่วโลก จึงต้องยิ่งให้ความสำคัญกับความปลอดภัยของเตาปฏิกรณ์นิวเคลียร์ เพื่อป้องกันอันตรายที่อาจจะเกิดขึ้นกับผู้คนเป็นวงกว้างในอนาคต
