ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ
นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ออกมาท้าทาย น.ต.ประสงค์ สุ่นศิริ ให้เผยรายชื่อนักการเมือง 30 คน ที่ ภตช. ระบุว่า มีการไซฟ่อนเงินที่เกาะฮ่องกง เพราะยังไม่พบหลักฐานอ้างอิงชัดเจนดังที่ ภตช. ให้ข้อมูลกับสื่อมวลชน
เมื่อวันที่ 18 ตุลาคม ที่ผ่านมา นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และแกนนำ นปช. แถลงถึงกรณีนายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ เลขาธิการภาคีเครือข่ายต่อต้านการทุจริตคอร์รัปชั่นของชาติ (ภตช.) ระบุมีนักการเมือง 30 คน ไซฟ่อนเงินไปยังเกาะฮ่องกง 1.6 หมื่นล้านบาท ว่า จนถึงขณะนี้ยังไม่เห็นว่า ภตช. หรือกลุ่มบุคคลใด จะแสดงหลักฐานที่ชัดเจนว่ามีการลักลอบนำเงินของหน่วยงานรัฐไปใช้ดังที่กล่าวอ้าง แต่กลับออกมาแถลงข่าวรายวัน สร้างความสับสนให้กับประชาชน ทั้งที่ส่วนราชการของไทย และฮ่องกง ต่างระบุว่า ไม่พบการกระทำดังกล่าว
นายณัฐวุฒิ กล่าวต่อว่า ได้ตรวจพบเอกสารที่ทาง ภตช. ลงนามโดยนายมงคลกิตติ์ส่งไปเชิญบุคคลต่าง ๆ รวมทั้ง พ.ต.อ.ดุษฎี อารยวุฒิ อดีตเลขาฯ ป.ป.ท. โดยอ้างว่าเป็นการเดินทางไปสัมมนาปราบทุจริต ตั้งแต่วันที่ 5-8 กันยายน ที่ไอซีเอซี ฮ่องกง ลงนามวันที่ 30 สิงหาคมนั้น แท้จริงเป็นโปรแกรมการเดินทางไปเพื่อการท่องเที่ยวชัดเจน
โดยในวันแรกใช้ชื่อโปรแกรมว่า "ลัดฟ้า เดินทางสู่ฮ่องกง" ซึ่งเป็นนัดความพร้อมของคณะ ในวันที่สองมีกิจกรรมท่องเที่ยวเขาวิคตอเรีย พีค ชมเมืองฮ่องกง เดินถนนนาธาน-จิมซาจุ่ย และวันที่สามจึงจะมีการสัมมนา แลกเปลี่ยนข้อมูลการทุจริตของแต่ละประเทศ ซึ่งมีนายมงคลกิตติ์ เข้าร่วมด้วย ดังนั้น การที่ออกมาอ้างว่าได้ข้อมูลเรื่องการไซฟ่อนเงิน จึงไม่ใช่ความจริง แต่กลับมาถึงเมืองไทย กลับนำเรื่องมาขยายความ สร้างประเด็นจนเกิดความวุ่นวาย
นายณัฐวุฒิ ยังกล่าวว่า หากเอกซเรย์ตัวบุคคลที่เป็นสมาชิก ภตช. เริ่มตั้งแต่ผู้ก่อตั้ง คือ พล.อ.กิตติศักดิ์ รัตนประเสริฐ สมาชิกพรรคการเมืองใหม่, น.ต.ประสงค์ สุ่นศิริ ที่ปรึกษากิตติมศักดิ์, พล.ร.อ.บรรณวิทย์ เก่งเรียน รองประธาน ภตช. และนายชนาพัทธ์ ณ นคร ประธานเครือข่ายเตมูจิน จะเห็นชัดว่า จุดยืนทางการเมืองของคนกลุ่มนี้เป็นอย่างไร ดังนั้นตนจึงขอเรียกร้องให้คนกลุ่มนี้ ที่อยู่ตรงข้ามกับรัฐบาล พูดมาเลยว่า มีใครบ้างที่เกี่ยวข้อง เพราะบุคคลที่ถูกอ้างถึง จะได้ฟ้องร้องดำเนินคดีตามกฎหมาย และขอให้ประชาชนเข้าใจที่มาของคนกลุ่มนี้ จะได้ไม่เกิดความสับสน
เมื่อถามว่า ล่าสุดนายมงคลกิตติ์ ชี้แจงว่า ได้ทำหนังสือลาออกจากตำแหน่งเลขาฯ ภตช. ไปตั้งแต่วันที่ 8 สิงหาคม แต่หนังสือเชิญลงวันที่ 30 สิงหาคม ซึ่งถือว่าคณะกรรมการหมดสภาพตามไปด้วย จากนั้นมีการแต่งตั้งนายนายธีรพัฒน์ คำคูบอน ซึ่งเป็นประธาน นปช.แปดริ้ว และมีกระแสข่าวว่าเป็นบุคคลที่ทำงานใกล้ชิด พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ขึ้นมารักษาการประธาน ภตช. นายณัฐวุฒิ กล่าวว่า ไม่รู้จักนายธีรพัฒน์ แต่เมื่อมีการอ้างถึง ก็ขอเรียกร้องให้มาปรากฏตัว เพื่อชี้แจงในกรณีดังกล่าว จะมาอ้างว่าใกล้ชิดกับ พ.ต.ท.ทักษิณไม่ได้ เพราะบางคนที่เคยใกล้ชิดก็ไปอยู่กับฝ่ายตรงข้าม ดังนั้น ขอเรียกร้องให้นำหลักฐานมาเปิดเผย เพื่อที่รัฐบาลจะได้ตรวจสอบ และดำเนินการกับบุคคลนั้น ๆ
ส่วนกรณีที่มีการเปิดเผยอักษรย่อว่าเกี่ยวข้องกับการไซฟ่อนเงินนั้น นายณัฐวุฒิ กล่าวว่า คงไม่เพียงพอ เพราะเรื่องนี้สำคัญระดับชาติ คนได้ยินกันทั้งโลก ทำให้ประเทศเกิดความเสียหาย และเกิดความสงสัยว่า นักการเมือง 30 คน เป็นใคร ทางที่ดี น.ต.ประสงค์ สุ่นศิริ ควรจะออกมาแสดงตัว ไม่น่าแอบอยู่ข้างหลัง เพราะทำอะไรก็ควรจะเปิดเผย ซึ่งวิธีการที่ทำอยู่เป็นการลอบกัด หรือตีกินทางการเมือง และรัฐบาลคงไม่ยอมให้ใครมาหาเศษหาเลยเช่นนี้
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก