อดีตครูมือยิงเซียนพระดับคารถ ดอดเข้ามอบตัวหลังรู้ว่าถูกออกหมายจับ อ้างลงมือป้องกันตัว เพราะถูกผู้ตายเล่นงานก่อน
เมื่อวันที่ 8 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ผบช.น. พร้อมด้วย พ.ต.อ.นภัณต์วุฒิ เลี่ยมสงวน ผกก.สส.บก.น.2, พ.ต.อ.สำราญ นวลมา ผกก.สน.ดอนเมือง และ พ.ต.ต.ศิรณวิชญ์ อินทร สว.สส. แถลงข่าวการมอบตัวของ นายสุชิน พ่วงไพบูลย์ อายุ 63 ปี ชาว จ.ชัยนาท อดีตอาจารย์รับข้าราชการครู ซึ่งเป็นผู้ต้องหาในคดีฆ่าผู้อื่น โดยมีของกลางเป็นอาวุธปืนรีวอลเวอร์ ขนาด .38 ไม่มีทะเบียน
พล.ต.ท.คำรณวิทย์ กล่าวว่า สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 5 พฤศจิกายน เวลาประมาณ 02.00 น. ตำรวจ สน.ดอนเมือง ได้รับแจ้งว่าพบศพ นายตุลยดิษฐ์ สวนแก้ว อายุ 33 ปี อาชีพรับซื้อของเก่าและซื้อขายพระ ถูกยิงเสียชีวิตในรถกระบะ บริเวณลานจอดรถสนามกอล์ฟดอนเมืองไดร์ฟวิ่งเร้นจ์ ซอยวิภาวดีรังสิต 84 ฝ่ายสืบสวนจึงหาเบาะแสและรวบรวมพยานหลักฐานจนทราบว่าคนร้าย คือ นายสุชิน ซึ่งมีความขัดแย้งกับผู้ตายเรื่องการซื้อขายพระ จึงขออำนาจศาลออกหมายจับ แต่เมื่อนายสุชินรู้ข่าวก็รีบติดต่อเพื่อขอมอบตัวดังกล่าว
จากการสอบสวน นายสุชิน ให้การว่า ก่อนเกิดเหตุผู้ตายได้โทรศัพท์มาขอเช่าพระเครื่อง โดยนัดเจอกันที่ห้องพักของตน ภายในแกรนด์โมเดิร์นคอนโด ห้องเลขที่ 208 จากนั้นผู้ตายได้เลือกเช่าพระสมเด็จวัดระฆังพิมพ์ใหญ่ ราคา 5 แสนบาท หลวงพ่อคูณ รุ่นสร้างบารมี ปี 19 และหลวงพ่อเดิม วัดหนองโพ ตีราคารวม 1.7 ล้านบาท แต่ผู้ตายอ้างว่ามีเงินมาแค่ 5 แสนบาท ก่อนจะพาตนไปกดเงินที่ตู้เอทีเอ็มข้างคอนโด
นายสุชิน กล่าวอีกว่า จู่ ๆ ผู้ตายกลับวิ่งไปที่รถ และพยายามจะขับหลบหนีไป ตนจึงรีบกระโดดขึ้นท้ายรถกระบะเพื่อติดตามไปด้วย กระทั่งมาถึงบริเวณโทลล์เวย์ช่วงขาขึ้น ผู้ตายได้จอดรถลงมาชกต่อย และจะชักปืนออกมายิง ตนจึงพยายามต่อสู้ เมื่อปืนกระเด็นตกพื้น ตนจึงรีบเก็บขึ้นมา และยิงใส่นายตุลยดิษฐ์ ไป 3 นัด จนเสียชีวิต
จากนั้นตนได้ขับรถของผู้ตายไปจอดที่ข้างสนามไดรฟ์กอล์ฟ และพยายามหาพระคืน แต่ไม่พบ จึงเรียกแท็กซี่กลับคอนโดฯ ก่อนขับรถยนต์หลบหนีไปที่ จ.พระนครศรีอยุธยา โดยนำกระสุนปืนที่อยู่ในลูกโม่ พร้อมเสื้อผ้าที่สวมใส่โยนทิ้งแม่น้ำเจ้าพระยา ส่วนอาวุธปืนนำติดตัวไว้ และได้มอบให้ตำรวจไว้เป็นของกลาง ทั้งนี้ ตนขอยืนยันว่า ตนทำไปเพราะป้องกันตัว และเป็นฝ่ายถูกกระทำก่อน
ด้าน พ.ต.ต.ศิรณวิชญ์ กล่าวว่า เบื้องต้นคำให้การของนายสุชิน ฟังดูเป็นเหตุเป็นผล และเชื่อได้ว่าเป็นเรื่องจริง เนื่องจากรูปคดี และที่เกิดเหตุสอดคล้องกับคำให้การดังกล่าว นอกจากนี้ นายสุชิน ยังเป็นครูอยู่ที่โรงเรียนแห่งหนึ่งจนเกษียณอายุราชการ อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่จะทำการรวบรวมพยานหลักฐานอีกครั้ง เพื่อสรุปข้อเท็จจริงต่อไป
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก
