พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียาเวส ลุยเดินหน้าหาเสียงทั่วกรุง เน้นเจาะกลุ่มคนหน่ายพรรคการเมือง 2 ขั้ว โดยเผยความมั่นใจว่า น่าจะได้ครองตำแหน่งผู้ว่าฯ กทม. หากมีคนมาใช้สิทธิ์ถึง 60 %
เมื่อเวลา 12.00 น. ของวานนี้ (19 พฤศจิกายน) พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียาเวส อดีต ผบ.ตร. ผู้เสนอตัวลงสมัครรับเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) สมัยหน้า ในนามอิสระ กลุ่มพลังกรุงเทพ นำทีมงานกว่า 100 ชีวิต และเครื่องขยายเสียง เดินทางลงพื้นที่หาเสียง และแจกเอกสารแนะนำตัวบริเวณตลาดนัด ซอยละลายทรัพย์ ถนนสีลม ท่ามกลางการต้อนรับจากกองเชียร์ กลุ่มแฟนคลับ พ่อค้าแม่ค้า และพนักงานบริษัทเป็นอย่างดี
พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เปิดเผยว่า จากสถานการณ์ทางการเมืองโดยเฉพาะในพื้นที่ กทม. ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ทุกคนทราบดีว่าฝ่ายรัฐบาลเป็นของพรรคเพื่อไทย ขณะที่ฝั่งผู้ว่าฯ กทม. นั้น มักมาจากพรรคประชาธิปัตย์ที่เป็นคู่แข่งกัน ส่งผลทำให้เกิดปัญหาความขัดแย้งขึ้นบ่อยครั้ง จนถึงปัจจุบันที่กำลังจะมีการชุมนุมเคลื่อนไหวขับไล่รัฐบาล ก็นับเป็นผลพวงจากความขัดแย้งระหว่างขั้วการเมืองที่แบ่งฝักแบ่งฝ่าย ซึ่งทำให้ประชาชนเกิดอาการเบื่อหน่ายการเมืองเป็นอย่างมาก
ทั้งนี้ เหตุการณ์ความวุ่นวายทางการเมืองต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในพื้นที่ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2552 เป็นต้นมา ทำให้ กทม. ไม่ได้รับการพัฒนาและแก้ปัญหาอย่างจริงจังหรือสำเร็จเห็นผลอย่างเป็นรูปธรรม มีเพียงการใช้คน กทม. เป็นตัวประกันระหว่างกลุ่มการเมือง 2 ฝ่าย ที่คิดแต่จะแย่งชิงฐานเสียงและคะแนนในการเลือกตั้ง สุดท้ายต่อให้ทั้ง 2 พรรคใหญ่ส่งเสาโทรเลขมาลงสมัครผู้ว่าฯ กทม. คนกรุงก็ต้องจำใจเลือกอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ กล่าวต่อว่า คนกรุงต้องยอมรับสภาพที่ว่า ผู้ว่าฯ กทม. มาจากพรรคไหนก็ต้องฟังคำสั่งของพรรคการเมืองต้นสังกัดก่อนฟังเสียงประชาชน ซึ่งการลงสมัครอิสระในครั้งนี้ ตนเชื่อว่าจะสามารถแก้ปัญหาต่าง ๆ เหล่านี้ได้ อีกทั้งที่ผ่านมา จากการลงพื้นที่พบว่ากระแสตอบรับค่อนข้างดี ด้วยความที่คน กทม. เริ่มเบื่อพรรคการเมืองจนใกล้ถึงขีดสุดแล้ว ดังนั้นจึงไม่กังวลเรื่องที่ 2 พรรคใหญ่ จะส่งใครลงสมัคร และตนยังเชื่อด้วยว่าจะไม่แพ้ แม้จะถือว่ายากที่จะชนะคะแนนของ 2 พรรคใหญ่ แต่หากจำนวนผู้มาใช้สิทธิมีถึง 60% ของผู้มีสิทธิ ตนก็มั่นใจว่าจะชนะ เพราะการเลือกตั้งครั้งที่แล้ว มีคนที่ออกมาลงคะแนนเพียง 51 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก
