เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก DaillyMail สมาชิกเว็บไซต์ยูทูบดอทคอม
เมื่อวันที่ 27 พฤศจิกายนที่ผ่านมา เว็บไซต์เดลิเมลของอังกฤษ เปิดเผยเหตุการณ์สุดสลดของนักศึกษาชาวไนจีเรีย 4 ราย ที่ตั้งใจไปทวงหนี้กับลูกหนี้ในหมู่บ้านแห่งหนึ่ง แต่กลับถูกชาวบ้านทำร้ายและเผาทั้งเป็น เพราะเข้าใจผิดคิดว่าเป็นโจร
รายงานระบุว่า เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นในหมู่บ้านอาลูในประเทศไนจีเรีย เมื่อนายอูกอนนา โอบูเซอร์ นักศึกษาหนุ่มในมหาวิทยาลัยไนจีเรีย ได้ชวนเพื่อนทั้ง 3 คน คือ นายชีอาดิกา บิริงกา, นายลอยด์ โทคู, และนายเทเกนา เอลคานาห์ เข้าไปหาลูกหนี้ไปหมู่บ้าน โดยไม่รู้ตัวเลยว่า กำลังเอาตัวเองและเพื่อนเดินไปสู่จุดจบของชีวิต
เพราะเมื่อทั้ง 4 หนุ่มย่างกรายเข้าไปในหมู่บ้าน ปรากฏว่าพวกเขาก็ถูกชาวบ้านเข้าทำร้ายทันที ก่อนที่ชาวบ้านจะถอดเสื้อผ้าพวกเขา และทุบตีซ้ำ ๆ จนพวกเขาไม่อาจต่อสู้ได้ และแทบหมดสติ จากนั้นชาวบ้านก็ได้ลากร่างกายเปลือยเปล่าของพวกเขาผ่านโคลนตม แล้วนำยางรถราดด้วยน้ำมันเบนซินมาสวมไว้รอบคอของพวกเขา และจุดไฟเผายางรอบคอ ให้ลุกไหม้พวกเขาทั้งเป็น หรือที่เรียกว่าการประชาทัณฑ์แบบ "คล้องสร้อย" (Necklacing) ต่อหน้าต่อตาชาวบ้านที่มาดูการประชาทัณฑ์อย่างโหดเหี้ยมในครั้งนี้
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ยังไม่ทราบสาเหตุของการทำร้ายนักศึกษาหนุ่มทั้ง 4 คนอย่างชัดเจน แต่จากคำให้การของแม่นายอูกอนนา ระบุว่า ก่อนเกิดเหตุอูกอนนาได้พาเพื่อน 3 คน ไปทวงหนี้กับลูกหนี้ในหมู่บ้านแห่งนี้ แต่ลูกหนี้ตัวแสบของเขาได้เป่าหูคนทั่วหมู่บ้านให้เข้าใจผิดคิดว่าเขาและเพื่อน ๆ เป็นขโมย ที่เข้าไปยังหมู่บ้านเพื่อขโมยแล็ปท็อปและโทรศัพท์มือถือ คนในหมู่บ้านก็เลยเชื่ออย่างนั้น และรุมทำร้าย 4 หนุ่ม ก่อนเผาทั้งเป็นด้วยวิธีการสุดโหดเหี้ยมดังกล่าว
อย่างไรก็ตาม ล่าสุดเจ้าหน้าที่ตำรวจได้จับกุมคนในหมู่บ้านอาลูไม่ต่ำกว่า 19 คน รวมทั้งหัวหน้าหมู่บ้านมาสอบสวนเพื่อดำเนินคดีต่อไป ขณะที่แม่ของอูกอนนาก็เดินหน้าเรียกร้องความเป็นธรรมอย่างถึงที่สุด พร้อมยืนยันความบริสุทธิ์ของทั้ง 4 หนุ่มว่า พวกเขาไม่ใช่โจร และไม่ใช่คนชั่วร้ายแต่อย่างใด
