เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ภาพประกอบไม่เกี่ยวข้องกับข้อมูล
ดูเหมือนว่ายิ่งใกล้วันที่ 21 ธันวาคมมากเท่าไหร่ ก็ยิ่งมีข่าวแพร่สะพัดตามหน้าสื่อมากมายว่าผู้คนจำนวนมากทั่วโลกต่างตื่นกลัวและพากันเสาะแสวงหาที่หลบภัยกันให้วุ่น ซึ่งแม้ว่าผู้เชี่ยวชาญหลายรายจะออกมาเปิดเผยว่าคำทำนายวันสิ้นโลกของชาวมายันนั้น เป็นแค่คำทำนายที่ถูกตีความออกมาผิด ๆ รวมทั้งนาซาเองจะออกมายืนยันว่า จะไม่มีเหตุการณ์ใด ๆ เกิดขึ้นในวันที่ 21 ธันวาคมนี้แล้วก็ตาม แต่คำยืนยันจากผู้เชี่ยวชาญเหล่านี้ก็ไม่อาจลบล้างความเชื่อของผู้คนจำนวนมากที่เชื่อกันมาหลายปีดีดักได้เลย
เมื่อวันที่ 18 ธันวาคมที่ผ่านมา ผู้เชี่ยวชาญจากองค์การบริหารการบินและอวกาศสหรัฐฯ หรือนาซา ได้ออกมาเปิดเผยว่า ตอนนี้ชาวอเมริกันไม่ต่ำกว่า 25 ล้านคน ต่างพากันเตรียมตัวรับมือกับวันสิ้นโลก แทนที่จะเตรียมตัวฉลองเทศกาลคริสต์มาสเหมือนกับทุก ๆ ปี เพราะพวกเขาเชื่อว่า ในปีนี้จะไม่มีเทศกาลคริสต์มาส เพราะโลกจะสิ้นสุดลงก่อนหน้านั้น ดังนั้น สิ่งที่ผู้คนที่เชื่อเรื่องวันสิ้นโลกทำในตอนนี้ ก็คือกักตุนเสบียงอาหาร อาวุธต่าง ๆ และบางส่วนก็หาที่หลบภัย
โดยนายเดวิด มอร์ริสัน นักวิทยาศาสตร์จากนาซา เปิดเผยว่า "ผู้คนตื่นกลัวกับวันสิ้นโลกกันมาก โดยเฉพาะเด็ก ๆ ผมได้ยินมาว่า เด็ก ๆ หลายคนถึงขั้นกินไม่ได้ นอนไม่หลับ และคิดที่จะฆ่าตัวตายก่อนวันสิ้นโลกจะมาถึง ยิ่งไปกว่านั้น มีผลสำรวจชิ้นหนึ่งระบุว่าชาวอเมริกันกว่า 25 ล้านคนเชื่อเรื่องวันสิ้นโลกอย่างสนิทใจ และไม่คิดว่าจะได้ฉลองคริสต์มาสในปีนี้ ผมกังวลกับผู้คนเหล่านี้มากเลย มันน่ากลัวนะ เพราะมีผู้คนจำนวนมากแห่กักตุนอาวุธปืน กระสุน และมีดต่าง ๆ ไว้ ผมก็หวังว่าพวกเขาคงจะอยู่ในที่หลบภัยของพวกเขาในวันนั้น ไม่ถืออาวุธออกมานอกบ้าน หรือก่ออาชญากรรมใด ๆ"
จากคำพูดของมอร์ริสัน เป็นที่น่าขบคิดว่าเขาเองก็พูดถูก เพราะถ้าหากผู้คนเชื่อว่าวันพรุ่งนี้หรือวันนี้เป็นวันสิ้นโลก คนทั้งโลกจะตายกันหมด มันก็เป็นเรื่องง่ายมากเลยที่ผู้คนเหล่านี้จะก่ออาชญากรรม ฆ่าผู้คน ปล้นจี้ และกระทำความผิดต่าง ๆ อันขัดต่อกฎหมาย เพราะอย่างไรพวกเขาก็เชื่อว่าตัวเองจะไม่มีชีวิตอยู่แล้วในวันพรุ่งนี้ ก็ไม่ต้องมารับโทษใด ๆ
ทั้งนี้ ก่อนหน้านี้กระแสความเชื่อเรื่องวันสิ้นโลก ได้ทำให้หลายคนแตกตื่นกันอย่างมาก บางคนก็คิดค้นสร้างที่หลบภัยแบบลอยน้ำได้ บางคนก็สร้างหลุมหลบภัยใต้ดิน บางคนก็เตรียมกักตุนเสบียงอาหารและอาวุธ และผู้คนบางกลุ่มก็แห่กันไปที่หมู่บ้านบริเวณเขาบูกาคาจในฝรั่งเศส รวมถึงหมู่บ้านเล็ก ๆ แห่งหนึ่งในตุรกี เพราะเชื่อว่าเป็นบริเวณที่จะหลุดพ้นจากภยันตรายในวันสิ้นโลก
อย่างไรก็ดี เมื่อเดือนตุลาคมที่ผ่านมา ชาวมายันก็ได้ออกมาเปิดเผยด้วยตัวเองว่า ปฏิทินเก่าแก่ของบรรพบุรุษพวกเขา ไม่ได้ทำนายวันสิ้นโลกอย่างที่แปลความกันไปผิด ๆ แต่วันที่ 21 ธันวาคมเป็นวันสิ้นสุดปฏิทินรอบนี้ และการสิ้นสุดปฏิทินแต่ละรอบนั้น หมายถึงการเริ่มต้นใหม่ จะมีการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่เกิดขึ้นกับตัวเอง ครอบครัว และสังคม และจะเกิดความสมดุลระหว่างมนุษย์กับธรรมชาติ ไม่ได้มีความหมายอื่นใดนอกเหนือจากนี้เลย
ขณะที่นาซา ก็ได้ออกมายืนยันบ่อยครั้งตลอดช่วง 2 เดือนที่ผ่านมาว่า โลกไม่มีทางวิบัติ และไม่มีวันสิ้นโลกในวันที่ 21 ธันวาคมนี้แน่นอน และเรื่องของพายุสุริยะที่เป็นที่พูดถึงกันบ่อยครั้ง ก็ไม่ได้น่ากลัวและส่งผลกระทบร้ายแรงอย่างที่วิตกกังวลกัน ส่วนเรื่องความเชื่อเกี่ยวกับดาวนิบิรุ ที่ชาวสุเมเรียนค้นพบตั้งแต่โบราณกาล และมีความเชื่อว่าดาวดวงนี้จะชนกับโลกในวันที่ 21 ธันวาคม 2012 นั้น ปัจจุบันนาซาไม่พบว่ามีดาวนิบิรุตามความเชื่อแต่อย่างใด และเร็ว ๆ นี้ ก็จะไม่มีดาวหรืออุกกาบาตที่ไหนพุ่งชนโลกด้วย เพราะถ้าหากจะมีดาวหรืออุกกาบาตพุ่งชนโลกจริง ๆ ป่านนี้คนบนโลกคงจะได้เห็นจุดเล็ก ๆ ปรากฏขึ้นบนฟ้าช้า ๆ และขยายขนาดใหญ่ขึ้นเรื่อย ๆ ให้เราได้เห็นเป็นเวลานานนับสัปดาห์หรือเป็นเดือนเลยทีเดียว ดังนั้น คนทุกคนบนโลกควรเลิกกังวลเรื่องโลกวิบัติเสียที แล้วเอาเวลามาใส่ใจและหาทางแก้ไขปัญหาใหญ่ที่โลกกำลังเผชิญ นั่นคือ ภาวะโลกร้อน จะดีกว่า
