เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก เฟซบุ๊ก Korn Chatikavanij
กรณ์ จาติกวณิช โผล่ชิงเก้าอี้ผู้ว่าฯ กทม. หลังที่ประชุมพรรคประชาธิปัตย์วิเคราะห์ว่า พรรคเพื่อไทยจะไม่ส่งคนลงสมัครเอง แต่กำลังเล่นเกมหนุนผู้สมัครอิสระ เพื่อทำให้ประชาธิปัตย์เสียคะแนน
เมื่อเวลา 14.00 น. ของวานนี้ (24 ธันวาคม) ที่พรรคประชาธิปัตย์ นายบัญญัติ บรรทัดฐาน ประธานคณะกรรมการคัดเลือกพิจารณาผู้สมัครลงรับเลือกตั้งในนามพรรคประชาธิปัตย์ ได้เรียกประชุมคณะกรรมการฯ โดยเชิญผู้แสดงความจำนงในการลงสมัคร ที่เหลืออีก 2 คน มาแสดงวิสัยทัศน์ คือนายอภิชัย เตชะอุบล และนายกอร์ปศักดิ์ สภาวสุ อดีตกรรมการบริหารพรรค โดยหลังการประชุมใช้เวลาประมาณ 3 ชั่วโมง ต่อมา รายงานข่าวจากที่ประชุมแจ้งว่า หลังจากที่คณะกรรมการรับฟังการแสดงวิสัยทัศน์เสร็จสิ้น ได้มีการประชุมเพื่อวิเคราะห์ถึงจุดอ่อนและจุดแข็งของผู้เสนอตัวทั้ง 4 ดังนี้
- ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าฯ กทม. มีจุดแข็งเป็นคนทำงาน ไม่มีความขัดแย้ง แม้ว่าจะเป็นคนเก่าที่สานงานต่อได้ ก็ต้องยอมรับว่าการทำงานที่ผ่านมามีทั้งคนชอบและไม่ชอบ
- นายประกอบ จิรกิติ ส.ส. บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์นั้น มีปัญหาเรื่องอ่อนประชาสัมพันธ์ เพราะเป็นรองผู้ว่าฯ กทม. มาถึง 1 ปี แต่ไม่มีใครรู้เลยว่ามีผลงานอะไรบ้าง แต่ในการแสดงวิสัยทัศน์ก็ถือว่าเข้าตาระดับหนึ่ง เพราะได้เสนอแนวคิดด้านวิศวกรรมในการทำให้ กทม. เป็นระเบียบ
- นายกอร์ปศักดิ์ สภาวสุ อดีตกรรมการบริหารพรรค ถือว่านำเสนอเก่งมาก อธิบายให้กรรมการเข้าใจว่า หากฝนตกแล้วทำอย่างไร กทม. จะรถไม่ติด ซึ่งหากเดินตามที่นายกอร์ปศักดิ์เสนอก็จะแก้ปัญหาได้
- นายอภิชัย เตชะอุบล อดีตกรรมการบริหารพรรค มีข้อดี เนื่องจากมีมาดเป็นนักธุรกิจ และได้ชูสโลแกน "ทันใจ ทันสมัย ใกล้ชิด" เน้นทำกิจกรรมร่วมกับชุมชน และคนเมือง
อย่างไรก็ตาม รายงานข่าวจากที่ประชุม แจ้งว่า คณะกรรมการคัดเลือกได้ประเมินภาพรวมว่า ขณะนี้ความนิยมในตัวพรรคประชาธิปัตย์มีมากกว่าพรรคเพื่อไทย ไม่ว่าพรรคจะส่งใครลงสมัครก็มีโอกาสชนะพรรคเพื่อไทย เพราะคน กทม. ไม่ชอบพรรคเพื่อไทย และคนเสื้อแดง แต่คณะกรรมการเป็นกังวลว่า หากพรรคเพื่อไทยเล่นเกมด้วยการไม่ส่งใครลงสมัครในนามพรรค แต่หันไปสนับสนุนผู้สมัครในนามอิสระ เช่นกรณีที่ พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ รองผบ.ตร. อาจจะประกาศลงในนามอิสระ ก็จะทำให้พล.ต.อ.พงศพัศ ได้คะแนนจากทั้งพรรคเพื่อไทย คนเสื้อแดง และคะแนนจากคน กทม. ที่ยังไม่ตัดสินใจว่าจะเลือกใคร ซึ่งจะทำให้พรรคประชาธิปัตย์เสียคะแนนในส่วนนี้
และจากการประเมินสถานการณ์ดังกล่าว ทำให้ที่ประชุมมีการตั้งข้อสังเกตว่า หากเสนอชื่อนายกรณ์ จาติกวณิช รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เข้าชิงตำแหน่ง ผู้ว่าฯ กทม. อาจจะมีความเหมาะสมในการลงสมัคร ซึ่งนายกรณ์ก็ไม่ได้ปฏิเสธ โดยระบุเพียงว่า แล้วแต่มติของกรรมการบริหารพรรค นอกจากนี้ นายกรณ์ยังเปิดใจในช่วงท้ายของการประชุมว่า ที่ผ่านมาได้เคยประสานให้นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ เสนอตัวลงสมัคร เพราะมีความสด ใหม่ และไม่เคยลงสมัครผู้ว่ามากกว่า อีกทั้งยังไม่ค่อยมีปัญหากับใคร แต่นายองอาจเกรงใจ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ จึงไม่กล้าที่จะเสนอตัวเอง แต่หากพรรคมีมติก็พร้อมปฏิบัติตาม ส่วนสาเหตุที่นายกรณ์ไม่ได้เสนอตัวก่อนหน้านี้ เป็นเพราะเกรงใจ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ เช่นกัน
ทั้งนี้ จากการประเมินถึงเสียงสนับสนุน พบว่า คณะกรรมการคัดเลือกต่างสนับสนุนนายกรณ์ เพียงแต่ตามข้อบังคับพรรค เมื่อนายกรณ์ไม่เสนอตัวในกระบวนการคัดเลือก ก็ไม่สามารถหยิบยกขึ้นมาพิจารณาได้ แต่ในชั้นกรรมการบริหารพรรคที่ถือเป็นขั้นตอนสุดท้ายสามารถหยิบยกชื่อบุคคลอื่นขึ้นมาพิจารณาได้ ซึ่งก็ขึ้นอยู่กับกรรมการบริหารพรรคว่าจะมีแนวคิดอย่างไร แต่เป็นที่น่าสังเกตว่า คณะกรรมการคัดเลือกส่วนใหญ่ก็เป็นคณะกรรมการบริหารพรรคด้วย และในการประชุมคณะกรรมการบริหารพรรค ผู้ที่เป็นกรรมการคัดเลือกก็จะถือโอกาสเสนอชื่อนายกรณ์ในที่ประชุมกรรมการบริหารพรรคด้วย
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก
