นักโทษเสื้อแดงผู้ต้องหาเผาศาลากลางอุดรฯ ดับคาเรือนจำหลักสี่ คาดมีโรคประจำตัว เตรียมส่งศพชันสูตร
เมื่อคืนวันที่ 27 ธันวาคม ทีมงานของนางธิดา ถาวรเศรษฐ แนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ได้โพสต์ข้อความลงในเฟซบุ๊กส่วนตัว นางธิดา ถาวรเศรษฐ ว่า "ด่วน!!! อ.ธิดาได้รับแจ้งว่าคุณวันชัย รักสงวนศิลป์ ผู้ต้องขังคดีการเมืองที่เรือนจำหลักสี่เพิ่งเสียชีวิต หลังจากร่วมงานกีฬาสีของเรือนจำหลักสี่ ทางราชทัณฑ์แจ้งว่าจะเคลื่อนศพไปทำการชันสูตรที่สถาบันนิติเวชตำรวจในวันพรุ่งนี้ (ทีมงาน)"
ทั้งนี้ เมื่อผู้สื่อข่าวสอบถามไปยัง นายกอบเกียรติ กสิวิวัฒน์ รองอธิบดีกรมราชทัณฑ์ ก็ได้รับทราบว่า มีผู้ต้องขังทางการเมืองรายหนึ่งซึ่งถูกคุมขังอยู่ในเรือนจำชั่วคราวหลักสี่เสียชีวิต 1 ราย หลังจากออกกำลังกาย โดยคาดว่า ผู้ตายน่าจะมีโรคประจำตัว เพราะปกติออกกำลังกายด้วยการเล่นกล้ามเป็นประจำ และเป็นคนมีสุขภาพแข็งแรง
ขณะที่ นายสรสิทธิ์ จงเจริญ ผู้บัญชาการเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร เปิดเผยว่า ก่อนหน้านี้ได้รับแจ้งว่า นายวันชัย รักสงวนศิลป์ อายุ 30 ปี ผู้ต้องขังคดีความผิดพระราชกำหนดสถานการณ์ฉุกเฉิน (พ.ร.ก.ฉุกเฉิน) และวางเพลิงศาลากลาง จ.อุดรธานี ซึ่งมีโทษจำคุก 20 ปี 6 เดือน ได้เป็นลมหมดสติไปบริเวณชั้น 3 ของเรือนจำ ซึ่งเจ้าหน้าที่ก็ได้รีบนำตัวนายวันชัยส่งโรงพยาบาลราชทัณฑ์ทันที โดยแพทย์พยายามปั๊มหัวใจช่วยชีวิตแต่ก็ไม่สามารถยื้อชีวิตไว้ได้ จึงได้แจ้งให้พนักงานสอบสวน อัยการ แพทย์ มาร่วมตรวจสอบตามกฎหมายต่อไป
นายสรสิทธิ์ กล่าวต่อว่า จากการสอบถามเจ้าหน้าที่ที่ดูแลทราบว่า เมื่อช่วงเช้าก่อนเกิดเหตุมีการแข่งขันกีฬา แต่เพราะแดดร้อนก็เลยยุติไป นักโทษทั้งหมดจึงกลับเข้ามาพักผ่อน โดยนายวันชัยได้นั่งเชียร์เพื่อนนักโทษเล่นหมากฮอส ก่อนจะลุกไปเข้าห้องน้ำ และเกิดหน้ามืดเป็นลมหมดสติไป เพื่อนผู้ต้องขังจึงแจ้งเจ้าหน้าที่ให้รีบนำส่งโรงพยาบาล แต่ก็ไม่ทันกาล ทั้งนี้ จากการตรวจสอบประวัติการรักษาพยาบาลก็ไม่พบว่า นายวันชัยป่วยหรือมีโรคประจำตัวอะไร และเมื่อสอบถามเพื่อนร่วมห้องนอนเดียวกับผู้ตาย ก็ทราบว่า ผู้ตายเคยบ่นว่าเจ็บหน้าอกให้ฟัง แต่ไม่ได้แจ้งผู้คุม เพราะเชื่อว่าคงไม่ได้เป็นอะไรมาก อย่างไรก็ตาม ก็จะต้องส่งศพให้สถาบันนิติเวชผ่าตรวจพิสูจน์อีกครั้งในวันที่ 28 ธันวาคมนี้
นอกจากนี้ ผู้สื่อข่าวได้รายงานด้วยว่า นางธิดา ถาวรเศรษฐ ประธาน นปช. เพิ่งจะเดินทางมาเยี่ยมนายวันชัยเมื่อช่วงเช้าก่อนเกิดเหตุ
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก
