เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
กระทรวงพาณิชย์เข้มงวดตรวจราคาสินค้าในตลาด หลังนโยบายขึ้นค่าแรง 300 บาททั่วประเทศ มีผลแล้วตั้งแต่ 1 มกราคม 2556 ด้านผู้บริโภคหวั่นเงินเฟ้อ ทำสินค้าแพงกระฉูด
หลังจากนโยบายปรับขึ้นราคาค่าแรงขั้นต่ำวันละ 300 บาททั่วประเทศ เริ่มมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2556 จนทำให้หลายฝ่ายเป็นกังวลถึงราคาค่าครองชีพที่จะสูงขึ้นตามไปด้วยนั้น
นางวัชรี มุกตายน ปลัดกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ภาพรวมราคาสินค้าอุปโภคและบริโภคในปี 2556 นั้น ไม่ต่างจากปีที่ผ่านมามากนัก ซึ่งผู้ผลิตเองก็จะยังไม่มีการปรับขึ้นราคาสินค้าในช่วงนี้ เพราะราคาวัตถุดิบต่างประเทศยังทรงตัว และปริมาณยังไม่ขาดแคลน อย่างไรก็ตามจะมีการจับตาราคาสินค้าในตลาดอย่างเข้มงวดเป็นพิเศษ เพื่อตรวจสอบราคาสินค้าที่อาจมีการฉวยโอกาสปรับราคาขึ้น
ด้าน นายธนิต โสรัตน์ รองประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ระบุว่า การปรับขึ้นราคาค่าแรง 300 บาท จะทำให้ราคาสินค้าขยับขึ้นในช่วงปลายไตรมาสที่ 1 ของปี 2556 (ประมาณเดือนมีนาคม) โดยเฉพาะสินค้าอุปโภคบริโภคพื้นฐาน เช่น อาหาร ข้าว เนื้อสัตว์ เป็นต้น เนื่องจากผู้บริโภคมีกำลังซื้อมากขึ้น
ทั้งนี้คาดว่าสินค้าประเภท ข้าว ธัญพืช มันสำปะหลัง ข้าวโพด จะมีต้นทุนเพิ่มขึ้นร้อยละ 3-5 ผัก ผลไม้ ต้นทุนเพิ่มขึ้น ร้อยละ 2 ส่วนเนื้อหมู และไข่ไก่ ต้นทุนจะเพิ่มขึ้น ร้อยละ 1
ขณะที่ นายสมชาย พรรัตนเจริญ นายกสมาคมค้าส่ง-ปลีกไทย กล่าวว่า ผู้บริโภคต้องทำใจยอมรับกับราคาสินค้าที่อาจขยับตัวสูงขึ้น และอาจต้องปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการจับจ่ายใช้สอย
อย่างไรก็ตามประชาชนหลายคนยังคงเป็นกังวลถึงค่าครองชีพที่อาจสูงขึ้น ตามการขึ้นค่าแรง โดยอาจทำให้เงินเฟ้อ ข้าวของราคาแพง จนทำให้การปรับขึ้นค่าแรง 300 บาท ไม่ได้ประโยชน์เท่าที่ควร
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก
