เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
กลุ่มแนวร่วมคนไทยรักชาติ รักษาแผ่นดิน เคลื่อนขบวนจากลานพระบรมรูปทรงม้า สู่สำนักงาน ยูเอ็น และกองทัพบก เพื่อยื่นหนังสือคัดค้านอำนาจศาลโลกกรณีปราสาทเขาพระวิหารแล้ว ก่อนที่จะตัดสินใจยุติการชุมนุมเมื่อภารกิจเสร็จสิ้น
สืบเนื่องจากกรณีที่ กลุ่มแนวร่วมคนไทยรักชาติ รักษาแผ่นดิน (นทด.) ได้มาปักหลักที่ลานพระบรมรูปทรงม้าเพื่อเตรียมเดินขบวนไปยื่นหนังสือต่อประธานศาลฎีกา ผู้นำเหล่าทัพ และองค์การสหประชาชาติประจำประเทศไทย (ยูเอ็น) เพื่อคัดค้านอำนาจของศาลโลก ในการตีความเรื่องข้อพิพาทของพื้นที่โดยรอบปราสาทเขาพระวิหาร ระหว่างไทยกับกัมพูชาในช่วงเช้าวันนี้ (21 มกราคม)
ล่าสุด มีรายงานว่า การชุมนุมครั้งนี้เป็นไปอย่างคึกคัก โดยมี นายไชยวัฒน์ สินสุวงศ์ เป็นแกนนำ ซึ่งนายไชยวัฒน์ ได้แถลงว่า ขณะนี้มีรายชื่อที่เข้าร่วมคัดค้านอำนาจศาลโลก มากถึง 1,300,000 รายชื่อ ในการตีความเรื่องข้อพิพาทปราสาทเขาพระวิหาร ก่อนที่กลุ่มแนวร่วมได้เริ่มเคลื่อนออกจากบริเวณลานพระบรมรูปทรงม้า เพื่อมุ่งหน้าไปยังสำนักงานองค์การสหประชาชาติ เป็นที่แรก เพื่อยื่นหนังสือคัดค้านและรายชื่อดังกล่าว ก่อนจะไปยื่นต่อศูนย์บัญชาการกองทัพบก และประธานศาลฎีกา
ทั้งนี้ เมื่อผู้ชุมนุม นทด. ไปถึงยังสำนักงานองค์การสหประชาชาติ และกองทัพบก บริเวณถนนราชดำเนินนอก เพื่อยื่นหนังสือคัดค้านอำนาจของศาลโลก ทางองค์การสหประชาชาติ ได้ส่งตัวแทนออกมารับหนังสือดังกล่าว ท่ามกลางการรักษาความปลอดภัยอย่างเข้มงวดของเจ้าหน้าที่ตำรวจ เช่นเดียวกับทางกองทัพบก ที่ได้ส่งตัวแทนออกมารับหนังสือคัดค้านดังกล่าวด้วยเช่นกัน ซึ่งสร้างความพึงพอใจให้กับประชาชนที่มาชุมนุมเป็นอย่างมาก โดยประชาชน ต่างตะโกนด้วยความดีใจ ที่ทางองค์การสหประชาชาติ และทางกองทัพบก ได้ให้ความสำคัญออกมารับหนังสือดังกล่าว ก่อนจะเดินทางมุ่งหน้าไปยังศาลฎีกา เพื่อยื่นรายชื่อคัดค้านต่อไป
โดย พล.อ.อ. สุกำพล สุวรรณทัต รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ยืนยัน กลุ่มแนวร่วมคนไทยรักชาติ รักษาแผ่นดิน สามารถออกมาชุมนุมได้ โดยรัฐบาลยินดีรับฟังทุกความคิดเห็น และพร้อมชี้แจงในทุกประเด็น ยืนยัน รัฐบาลตั้งใจสู้ในคดีเขาพระวิหารให้ดีที่สุด และเชื่อว่าไม่มีใครอยากให้ประเทศชาติเสียดินแดน พร้อมกันนี้ ยังเชื่ออีกว่า การชุมนุมต่าง ๆ จะไม่กระทบต่อความสัมพันธ์ระหว่างไทยกับกัมพูชา เพราะทางกัมพูชา เข้าใจดีว่าประเทศไทยมีความเป็นประชาธิปไตยสูง ทางกองทัพ ได้ทำความเข้าใจกับประชาชนมาโดยตลอด ซึ่งหากประชาชนมีการเรียกร้องให้ทหารออกมาเดินหน้าทำอะไร ทางทหารก็จะยึดหลักความถูกต้อง
ทางด้าน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก กล่าวถึง กรณีข้อพิพาทปราสาทเขาพระวิหารว่า ต้องต่อสู้กันตามขบวนการยุติธรรมและรอให้ศาลโลก มีผลการตัดสินออกมาก่อนแล้วจึงพิจารณาว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อไป ทั้งนี้ส่วนตัวหวังว่า ศาลโลก คงไม่ตัดสินให้ไทยเสียดินแดนดังกล่าว ขณะเดียวกัน ผู้บัญชาการทหารบก ระบุถึงการชุมนุมของ กลุ่มคนไทยหัวใจรักชาติ ที่ชุมนุมกันที่ลานพระบรมรูปทรงม้าว่า ขอให้ชุมนุมกันอย่างสงบและอย่านำประเด็นดังกล่าวมาเป็นคดีทางการเมือง
นอกจากนี้ พล.อ.ประยุทธ์ ย้ำว่า หากสถานการณ์เริ่มบานปลาย หรือมีความรุนแรงเกิดขึ้น พวกทหารก็พร้อมที่จะตัดสินใจว่าจะทำอย่างไรต่อไป เนื่องจากพร้อมรบอยู่แล้ว แต่เรื่องนี้มันมีกติกาอยู่ ต้องนั้นต้องทำรอให้มันชัดเจนก่อน ซึ่งทหารจะดูแลรักษาแผ่นดินทุกตารางนิ้ว และมีความพร้อมรบอยู่เสมอ แต่อย่างไรก็ตาม ต้องต่อสู้กันตามกติกากฎหมายและมีการพูดคุยกันก่อน พร้อมยืนยันว่า การปฏิบัติตามมาตรการคุ้มครองชั่วคราวไม่ได้เป็นการยอมรับมาตราส่วนแผนที่ของกัมพูชาแต่อย่างใด
กระทั่งเวลา 14.30 น. นายไชยวัฒน์ ก็ได้ขึ้นเวทีปราศรัย หลังจากที่กลุ่ม นทด. ยื่นหนังสือต่อศาลฎีกาเสร็จเรียบร้อยแล้วว่า ทางแกนนำขอฉันทามติจากประชาชนถึงแนวทางการเคลื่อนไหว เนื่องจากเห็นว่าตอนนี้ได้ยื่นหนังสือถึงเจตนารมณ์ไม่ยอมรับอำนาจของศาลโลกต่อหน่วยงานต่าง ๆ ได้เสร็จสิ้นตามแผนแล้ว ดังนั้น นทด. จะขอยุติการเคลื่อนไหวในวันนี้แต่เพียงเท่านี้ เพื่อให้หน่วยงานที่รับหนังสือไป นำแนวคิดไปปฏิบัติได้
อย่างไรก็ตาม นายไชยวัฒน์ ปราศรัยต่อไปว่า ภารกิจต่อไปทาง นทด. จะจัดแรลลี่ให้ความรู้แก่ประชาชน ในวันที่ 2 กุมภาพันธ์ที่เกาะกูด จ.ตราด โดยที่จะรวมตัวที่ลานพระบรมรูปทรงม้าในเวลา 08.00 น. ก่อน ก่อนที่จะเดินทางถึง จ.ตราดในช่วงบ่ายต่อไป
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก
