เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก คุณ WSJDigitalNetwork สมาชิกเว็บไซต์ยูทูบดอทคอม
เมื่อวันที่ 4 กุมภาพันธ์ สำนักข่าวรอยเตอร์ส รายงานว่า นักโบราณคดีจากมหาวิทยาลัยเลสเตอร์ในประเทศอังกฤษ แถลงข่าวยืนยันว่าโครงกระดูกที่พบมีการขุดพบใต้พื้นดินของลานจอดรถในเมืองเลสเตอร์เมื่อเดือนกันยายนปี 2012 เป็นของกษัตริย์ริชาร์ดที่ 3 แห่งอังกฤษ ซึ่งหายสาบสูญไปนานกว่า 500 ปี
โดย นายริชาร์ด บัคลีย์ นักโบราณคดีจากมหาวิทยาลัยเลสเตอร์เผยว่า ผลจากการตรวจพิสูจน์รหัสพันธุกรรม หรือ ดีเอ็นเอจากโครงกระดูกดังกล่าว กับดีเอ็นเอจาก ไมเคิล อิบเซน ช่างไม้ชาวแคนาดาวัย 55 ปี ซึ่งอาศัยอยู่ในกรุงลอนดอน และเป็นทายาทรุ่นที่ 17 ที่สืบเชื้อสายมาจากพระเจ้าริชาร์ดที่ 3 พบว่า โครงกระดูกที่พบที่ลานจอดรถเมืองเลสเตอร์ เป็นของกษัตริย์ริชาร์ดอย่างไม่ต้องสงสัย โดยจากการศึกษาพบว่าโครงกระดูกมีอายุในช่วงปี 1455-1540 สอดคล้องกับข้อมูลของโบสถ์เลสเตอร์ที่ระบุว่า กษัตริย์ริชาร์ดถูกปลงพระชนม์ในการปฏิวัติเมื่อปี ค.ศ. 1485
นอกจากนี้ ทางด้านดอกเตอร์โจ แอพเพิลบีย์ นักโบราณคดีด้านโครงกระดูก จากคณะโบราณคดีวิทยาและประวัติศาสตร์โบราณ แห่งมหาวิทยาลัยเลสเตอร์ ยังระบุว่า กระดูกดังกล่าวเป็นของชายอายุราว 20-30 ต้น ๆ ซึ่งสอดคล้องกับกษัตริย์ริชาร์ดที่สิ้นพระชนม์ขณะมีพระชนมายุได้ 32 พรรษา โดยกะโหลกชิ้นนี้ความสมบูรณ์มากอย่างไม่น่าเชื่อ เนื่องจากยังมีฟันเหลือครบทุกซี่ โดยมีจุดที่น่าสังเกตคือ รอยที่เกิดจากหัวลูกศรตรงปลายคาง และบาดแผลบริเวณด้านหลังของกะโหลก
ทั้งนี้ กษัตริย์ริชาร์ดที่ 3 ขึ้นครองราชย์ในปี 1483 โดยยึดราชบัลลังก์จากพระนัดดา (หลาน) กษัตริย์เอ็ดเวิร์ดที่ 5 และเสด็จสวรรคตระหว่างการปฏิวัติของเฮนรี ทิวดอร์ เอิร์ลที่ 2 แห่งริชมอนด์ ในปี 1485 และพระศพของพระองค์ถูกฝังอยู่ใต้โบสถ์ฟรานซิสกัน แฟรรีย์ ออฟ เกรย์ แฟร์ส ใจกลางเมืองเลสเตอร์ ซึ่งถูกรื้อทิ้งในช่วงทศวรรษ 1530 และไม่มีใครทราบตำแหน่งที่ตั้งของมันจนทุกวันนี้
