เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ภาพประกอบไม่เกี่ยวข้องกับข้อมูล
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก สปริงนิวส์
ผวาผีแม่ม่ายอาละวาด ที่บ้านนาขาม ต.นาม่อง อ.กุดบาก จ.สกลนคร ชาวบ้านแห่แขวนเสื้อแดง-เขียนข้อความแก้เคล็ด ด้านชาวบ้านนาเพียงใหม่ ต.นาเพียง อ.กุสุมาลย์ หวั่นอาถรรพ์รื้อโบสถ์เก่า พบมีคนตายแล้ว 2 ราย หลังนำหลังคาออก
วันนี้ (1 มีนาคม) ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งว่า ที่บ้านนาขาม ต.นาม่อง อ.กุดบาก จ.สกลนคร มีชาวบ้านลือว่า ผีแม่ม่ายออกอาละวาด คร่าชีวิตผู้ชายในหมู่บ้านแล้วหลายคน ชาวบ้านจึงแก้เคล็ดด้วยการนำหุ่นฟางสวมเสื้อยืดสีแดง พร้อมแขวนป้ายระบุข้อความว่า บ้านนี้ไม่มีผู้ชายที่เกิดปีมะเมีย มะเส็ง และปีกุน เพื่อป้องกันภัยจากผีแม่ม่าย ตามข่าวลือที่ทราบมาในหลายพื้นที่ว่ามีผู้เสียชีวิตไม่ทราบสาเหตุ
ด้าน นางดารุณ โถตันคำ อายุ 35 ปี เผยว่า ในพื้นที่ อ.กุดบาก คนหลายหมู่บ้านมีอาการนอนไหลตายเป็นจำนวนมาก แม้ว่าในพื้นที่บ้านนาขามยังไม่พบการไหลตายเพราะผีแม่ม่าย แต่เพื่อเป็นการป้องกัน แทบทุกหลังคาเรือนจึงได้นำหุ่นฟางสวมเสื้อแดง พร้อมแขวนป้ายข้อความดังกล่าวมาตั้งไว้ ทั้งนี้ ชาวบ้านบางคนเกรงกลัวผีแม่ม่ายถึงขนาดต้องนอนใส่เสื้อผ้าสีแดงด้วย ดังนั้นเมื่อเข้ามาในพื้นที่หมู่บ้าน จึงพบพ่อค้าแม่ค้าหัวใสที่นำเสื้อแดงมาจำหน่ายในช่วงนี้
นอกจากนี้ ยังมีข่าวลือว่า ชาวบ้านนาเพียงใหม่ ต.นาเพียง อ.กุสุมาลย์ ต่างพากันผวาอาถรรพ์จากการรื้อพระอุโบสถเก่าที่มีอายุกว่า 80 ปี หลังชาวบ้านซึ่งส่วนใหญ่เป็นคนรุ่นใหม่ได้เรียกประชุมกัน เพื่อจะรื้อทุบโบสถ์ทิ้งเพื่อสร้างใหม่ โดยไม่ยอมฟังเสียงทัดทานจากผู้เฒ่าผู้แก่ที่บวชเรียนมาก่อนว่า หากจะสร้างก็ให้สร้างใหม่ อย่าทุบของเก่า หากจะปฏิสังขรณ์ เช่น มุงหลังคาทาสีใหม่ก็ทำได้ แต่ก็แพ้การลงมติเนื่องจากคนรุ่นใหม่มีจำนวนมากกว่า
ทั้งนี้ ภายหลังการรื้อหลังคาออกแค่เพียงสองวันแรก ก็ทำให้คนในหมู่บ้าน เสียชีวิต 2 คน โดยคนล่าสุด คือ นายมิตร อายุ 36 ที่เสียชีวิตจากการนอนไหลตาย ซึ่งชาวบ้านต่างเชื่อว่า เกิดจากอาถรรพ์การรื้อโบสถ์ โดย นายบุญล้อม ยะวังผล ครูวิทยฐานะชำนาญการพิเศษ โรงเรียนนาเพียงวิทยานุกูล กล่าวว่า ตนบวชเรียนจนได้มหาประโยค 4 ศึกษาเรื่องธรรมะตลอดจนทางธรรม จนทราบว่า การรื้อทุบโบสถ์หรือสิ่งปลูกสร้างทางบวรพุทธศาสนา ต้องปรึกษาหารือผู้รู้ก่อน เพราะบางอย่างจะขัดกับทางกฎหมาย หากมีอายุมาก โดยเฉพาะโบส์ถ์ที่มีเขตพัทธสีมา หากจะรื้อทิ้งก็ต้องทำพิธีให้ชัดเจน
อย่างไรก็ตาม เมื่อประมาณ ปี 2547 ก็มีการนอนไหลตายในลักษณะเดียวกัน ในเดือนเดียวกัน ถึง 18 คน จนต้องมีการทำบุญชำระบ้านมาแล้ว ซึ่งเรื่องอย่างนี้ ไม่เชื่ออย่าลบหลู่ ตนก็เคยบอกพวกที่ต้องการรื้อโบสถ์แล้วว่า ต้องศึกษาให้รอบคอบก่อน เพราะเป็นเรื่องละเอียดอ่อน แต่ก็ไม่ฟังและยังดื้อรื้อกันอยู่ ทั้งที่ของเก่าแก่ควรมีการอนุรักษ์ไว้ แต่นี่กลับทุบทิ้ง คิดว่าน่าจะลองพิจารณาดูว่าเหมาะสมหรือไม่
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก