เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก sajnoticias.com.br
เจด สตริงเจอร์ เด็กสาววัย 14 จากเมืองบิวรี่ มณฑลเกรทเทอร์ แมนเชสเตอร์ ประเทศอังกฤษ แขวนคอตัวเองด้วยผ้าพันคอกับราวบันไดในบ้าน หลังทะเลาะกับพ่อเรื่องยึดโทรศัพท์ เนื่องจากพ่อต้องการเช็กข้อความในโทรศัพท์ของเธอ เธอถูกส่งตัวต่อไปโรงพยาบาลอย่างเร่งด่วน แต่ก็เสียชีวิตในอีก 6 วันต่อมา
นับตั้งแต่การเสียชีวิตของเด็กสาวในวันที่ 16 มิถุนายน 2012 ศาลเพิ่งได้อ่านผลพิจารณาคดีของเจด เมื่อวันที่ 19 มีนาคมที่ผ่านมา โดยให้การเสียชีวิตของเธอเป็นการฆ่าตัวตาย โดยไม่มีผู้ต้องสงสัยอื่นใด รายงานจากเว็บไซต์เดลิเมลระบุ
การเสียชีวิตของเธอยังความช็อกให้กับเพื่อนร่วมโรงเรียนเป็นอย่างมาก ซึ่งเพื่อน ๆ ล้วนบอกว่าเธอเป็นเด็กที่ค่อนข้างป๊อบปูลาร์ทั้งในหมู่เพื่อนหญิงและชาย แต่ก็เป็นเป้าของการถูกกลั่นแกล้งด้วยเช่นกัน โดยนายเดวิดและนางนาตาลี พ่อกับแม่ของเจดซึ่งแยกกันอยู่ กล่าวว่า เจดเป็นเด็กที่เข้ากับเพื่อนได้ดี และก็เติบโตเป็นวัยรุ่นตามวัย เธอเริ่มแต่งหน้าและปาร์ตี้กับเพื่อนตอนกลางคืนเมื่ออายุ 12-13 ปี ซึ่งแม่ของเจดเห็นว่าเป็นเรื่องปกติของเด็กวัยรุ่นสมัยนี้
ต่อมา เมื่อต้นปี 2011 แม่พบว่าเจดมีความสัมพันธ์เกินเลยกับเพื่อนชาย และได้คุยกับทางครอบครัวฝ่ายชายเพื่อให้มั่นใจว่าเด็กทั้งสองยังคงอยู่ภายใต้การดูแลในสายตาของผู้ใหญ่ และในช่วงปลายปีเดียวกันนั้น เจดถูกพาส่งโรงพยาบาลเพื่อล้างท้อง เนื่องจากกินยาแก้ปวดไปเกินขนาด และยังไม่ทราบแน่ชัดถึงสาเหตุที่ทำให้เธอทำเช่นนั้น แต่แม่ของเธอเชื่อว่าน่าจะมาจากเรื่องเพื่อนชาย ในช่วงนั้นเด็กสาวให้แม่ใช้โทรศัพท์ของเธอได้ และปล่อยให้แม่เช็กดูข้อความในโทรศัพท์ของเธอด้วย โดยนางนาตาลีกล่าวว่าข้อความส่วนใหญ่มาจากเพื่อนผู้ชาย และในช่วงเดียวกันนั้นเธอก็ได้รู้เรื่องจากเพื่อนของลูกว่า มีรูปหลุดของเจดซึ่งมาจากงานปาร์ตี้คืนหนึ่งที่เจดมีความสัมพันธ์เกินเลยกับคนที่ตัวเองไม่ได้คบเป็นแฟน
เหตุการณ์เริ่มน่าตึงเครียดขึ้นในช่วงฤดูร้อนที่ผ่านมา เมื่อเจดระบุว่าเธอถูกเพื่อนชายคนหนึ่งข่มขืน เรื่องนี้ถูกแจ้งต่อเจ้าหน้าที่ และโทรศัพท์ของเจดก็ถูกยึดไปเพื่อระงับการใช้งานไม่ให้เด็กคนดังกล่าวติดต่อกับเจดได้อีก
เด็กสาวได้โทรศัพท์กลับคืนมาในเดือนมิถุนายน 2012 จากนั้นทั้งพ่อและแม่ของเจดได้เจรจากับลูกว่า จะให้เธอใช้โทรศัพท์ได้ แต่มีเงื่อนไขคือเธอต้องให้พวกเขาสามารถเช็กโทรศัพท์ของเธอได้ด้วย เพราะพวกเขาต้องการทราบว่าเจดยังได้รับข้อความข่มขู่ หรือคุกคามอยู่อีกหรือไม่ ซึ่งเมื่อได้ยินดังนั้น เจดก็ไม่พอใจอย่างมาก และเมื่อพ่อกับแม่ถามหาที่ชาร์จโทรศัพท์ เธอก็ปฏิเสธจะมอบให้ และบอกว่าไม่ต้องการให้ใครก็ตามดูโทรศัพท์ของเธอ
หลังจากทะเลาะขัดใจกัน เจดขังตัวอยู่ในห้องนอน ก่อนที่ เดวิด พ่อของเธอจะขึ้นไปตามในอีกครึ่งชั่วโมงให้หลัง และพบว่าลูกได้แขวนคอตัวเองกับราวบันไดเสียแล้ว ซึ่งแม้เจดจะถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลอย่างเร่งด่วน แต่ก็ยื้อชีวิตออกไปได้อีกเพียง 6 วันเท่านั้น
อย่างไรก็ดี แม้จะเชื่อว่าการเสียชีวิตของเด็กสาวรายนี้จะเป็นการฆ่าตัวตาย แต่เจ้าหน้าที่ก็จะยังสืบค้นหาแรงผลักดันและต้นเหตุของปัญหาที่ทำให้เธอตัดสินใจหนีมันด้วยการปลิดชีวิตของตัวเองต่อไป และน่าจะเป็นอุทาหรณ์ให้แก่พ่อแม่ที่กำลังมีลูกที่กำลังก้าวเข้าสู่ช่วงวัยรุ่น ว่าควรต้องสอดส่องดูแลลูกให้ดียิ่งขึ้นด้วย
