เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก รายการวู้ดดี้เกิดมาคุย โพสต์โดย คุณ CiNNtv3 สมาชิกเว็บไซต์ยูทูบดอทคอม
ในการเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร 2556 ที่ผ่านมา หนึ่งในผู้สมัครที่สร้างความฮือฮาได้ตั้งแต่วันแรกที่ปรากฏตัวก็คือ "ธรณี ฤทธีธรรมรงค์" ผู้หญิงวัยเกือบ 70 ปี ที่แต่งกายด้วยชุดขาวทั้งชุด สวมมงกุฎ ดูคล้ายกับเจ้าแม่กวนอิม ในครั้งนั้น เธอประกาศก้องว่าจะไม่หาเสียง ไม่เดินขอคะแนนจากประชาชน เพราะทุกอย่างเป็นไปตาม "บัญชาสวรรค์" และนั่นก็ทำให้คนที่เห็นข่าวเธอในหน้าสื่อรู้สึกประหลาดใจไม่ใช่น้อย รวมทั้ง "วู้ดดี้" ที่สนใจอยากรู้จักสตรีสูงวัยคนนี้ว่าเป็นใครมาจากไหน พร้อมกับค้นหาคำตอบที่ทุกคนสงสัยว่า เธอ "เพี้ยน" หรือไม่...ติดตามชมได้ในรายการ "วู้ดดี้เกิดมาคุย"
เริ่มต้นรายการ "วู้ดดี้" ขอไปล้วงลึกชีวิตส่วนตัว "ธรณี ฤทธีธรรมรงค์" ด้วยการตามเธอไปนั่งทานอาหารที่ภัตตาคารสุดหรู ซึ่งเธอจะนั่งรถลีมูซีนมาคนเดียวทุกวันพุธ แต่ที่ทำให้ "วู้ดดี้" แปลกใจก็คือ เธอบอกว่า จริง ๆ เธอไม่ได้มาคนเดียว แต่เธอมานั่งทานอาหารกับคุณพ่อที่ตอนนี้อายุ 93 ปี และก็ขึ้นไปอยู่บนสวรรค์แล้ว เธอจึงนั่งคุยทางจิตกับคุณพ่อที่อยู่ตรงเก้าอี้ว่าง ๆ ข้างหน้า และแม้แต่ขณะนี้ คุณพ่อก็ยังนั่งยิ้มอยู่ข้าง ๆ วู้ดดี้ด้วย
ระหว่างการสนทนา "วู้ดดี้" ก็เหลือบไปเห็นคุณธรณีมีอาสนะของตัวเองวางทับเก้าอี้นั่งอยู่ จึงเกิดความสงสัย คุณธรณีจึงบอกว่า ก็เธอเป็นเจ้าแม่ธรณี จึงต้องมีที่นั่งของตัวเอง และตัวเธอก็ดูดวงได้แม่นมาก เพราะมีองค์ลงมาบอก และเธอก็มีองค์อยู่เสมอ ส่วน "วู้ดดี้" ก็มีองค์เช่นกัน ไม่เช่นนั้นคงไม่สามารถมาเจอกันได้แน่นอน
เห็นเธอใช้ชีวิตหรูหราแบบนี้แล้ว ก็อดสงสัยไม่ได้ว่าเธอจะมีค่าใช้จ่ายมากขนาดไหน...คุณธรณี บอกว่า ค่าอาหาร ค่าเครื่องเพชรอะไรต่าง ๆ ที่เธอใช้นั้น เธอไม่ได้เป็นคนจ่ายเงินซื้อเอง แต่สวรรค์เป็นคนจ่ายให้ เงินที่เธอใช้ก็เป็นเงินของสวรรค์ เพราะเธอไม่ได้หาเงินเอง สามีก็หาเงินได้แต่ก็ใช้ส่วนของเขา ทำเอาวู้ดดี้งงไม่น้อย
หลังทานอาหารเสร็จ "วู้ดดี้" ก็ขอนั่งสัมภาษณ์สตรีสูงวัยแบบตัวต่อตัว โดยยิงคำถามแรกที่ว่า "ทำไมวันนี้ไม่เห็นเธอสวมมงกุฎเหมือนตอนที่ไปสมัครรับเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.?" คุณธรณี จึงชี้แจงว่า เป็นเพราะสิ่งศักดิ์สิทธิ์สั่งให้ใส่มงกุฎไปเฉพาะวันที่ลงสมัคร ซึ่งการจะเจอสิ่งศักดิ์สิทธิ์ได้นั้นก็ต้องหมั่นทำบุญ สวดมนต์ ทำสมาธิ ใครทำคนนั้นก็ได้ ที่เธอติดต่อกับองค์เทพได้ก็เพราะหมั่นทำบุญ ไหว้พระ สวดมนต์ วินาทีนี้ท่านก็อยู่ด้วยกัน ท่านไม่ได้มาเป็นตัวตน แต่มาเป็นกระแส เป็นพลัง บางครั้งก็มีเสียงมาด้วย
ขณะเดียวกัน หลายคนก็สงสัยว่า ทำไมคุณธรณีจึงเรียกตัวเอง "คุณธรณี" ตลอดเวลา...เธอจึงอธิบายว่า เพราะพระนามนี้ท่านให้อัญเชิญมาเปลี่ยนเป็นร่างของเธอ จริง ๆ แต่ก่อนเธอชื่อ "นันทนา เภกะนันทน์" แต่เปลี่ยนมาเป็นชื่อ-นามสกุลปัจจุบัน เพราะเบื้องบนเป็นผู้ให้มา และท่านจะมาใช้นามของเรา
ทั้งนี้ คุณธรณี เคยลงสมัครรับเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. มาแล้ว 2 ครั้ง ก่อนจะมาลงสมัครอีกครั้งในปี พ.ศ. 2556 ที่เป็นครั้งล่าสุด ซึ่งเธอก็ไม่ได้รับเลือกตั้งทั้งสามครั้ง แต่ทั้งสามครั้ง คุณธรณีมักจะพูดว่า "สวรรค์สั่งให้มาสมัคร" วู้ดดี้จึงอดถามไม่ได้ว่า "สวรรค์บอกหรือไม่ว่าเธอจะแพ้" ... คุณธรณี บอกว่า
"จริง ๆ แล้วคำว่าแพ้หรือชนะไม่เคยอยู่ในใจ โดยในมงคล 38 ประการ มีข้อหนึ่งบอกว่า "จิตย่อมไม่หวั่นไหวในโลกธรรม 8" โลกธรรม 8 ก็คือ ลาภ ยศ สรรเสริญ สุข เสื่อมลาภ เสื่อมยศ นินทา ทุกข์ ที่ลงสมัครไม่ใช่เพื่อเป็นสีสัน แต่เป็นเนื้อหา เป็นฝ่ายคุณธรรม ไม่ใช่สีสัน" วู้ดดี้เลยถามต่อว่า "แล้วทำไมฝ่ายคุณธรรมจึงแพ้" คุณธรณี ตอบทันทีว่า "กว่าฝ่ายธรรมะจะชนะ หนังหรือละครก็เข้าตอนอวสานแล้วไม่ใช่หรือ" ส่วนอีก 4 ปีจะลงสมัครอีกครั้งหรือไม่นั้น ก็ต้องดูว่าเบื้องบนสั่งหรือไม่
ด้วยคำตอบในหลาย ๆ เรื่องที่ดูอ้างเบื้องบนเป็นส่วนใหญ่ ทำให้ "วู้ดดี้" สงสัยว่า "เคยมีคนบอกว่าคุยกับคุณธรณีไม่รู้เรื่องบางหรือไม่" ซึ่งคุณธรณีก็สวนคำถามนี้กลับไปยังวู้ดดี้เช่นกัน ก่อนจะตอบในภายหลังว่า เธอไม่สนใจว่าใครจะคุยกับเธอไม่รู้เรื่อง ส่วนที่มีกระแสว่าเธอเพี้ยน หรือสติไม่เต็มนั้น เธอตอบอย่างฉะฉานว่า "เพี้ยนแต่ในมนุษย์ แต่ประเสริฐสุดในหมู่เทพ"
เมื่อเห็นคุณธรณีพูดเรื่ององค์เทพ และสามารถติดต่อกับเบื้องบนได้ "วู้ดดี้" เลยถามว่า ตอนนี้ "สตีฟ จ็อบส์" อยู่ไหน เธอบอกว่า เธอไม่รู้ว่าสภาวะจิตของสตีฟ จ็อบส์ เป็นอย่างไร เคยได้ยินว่าเขาทำบุญเยอะ แต่ถึงแม้จะทำบุญเยอะ ก็ต้องดูว่าวินาทีสุดท้ายก่อนตายนั้น จิตของ สตีฟ จ็อบส์ ตกอยู่ในสภาวะไหน ถ้าอารมณ์จิตสูงส่ง สว่าง สตีฟ จ็อบส์ ก็ไปข้างบน แต่ถ้าอารมณ์จิตหดหู่ หม่นหมอง ตกต่ำ ไปคิดถึงบาปกรรม สิ่งที่ค้างคาอยู่ สตีฟ จ็อบส์ ก็ลงไปข้างล่างก่อน เพราะสวรรค์ก็ไม่ได้สนใจในทุก ๆ เรื่อง เหมือนกับในบ้านหลังหนึ่งมีหลายห้อง ถ้าเราไม่ไปเปิดห้องดูก็ไม่มีทางรู้ว่าใครทำอะไรอยู่ในห้องบ้าง
ต่อกันด้วยคำถามแรง ๆ ที่ว่า "คุณธรณีเคยได้เช็กไอคิวตัวเองบ้างไหม" เธอปฏิเสธทันที โดยบอกว่า ไม่เคย และไม่คิดจะไปเช็กไอคิวด้วย เพราะเธอเป็นคนไม่เคยไปตรวจร่างกาย ไม่เคยหาหมอ ยกเว้นเวลาที่ดวงจะให้ไปผ่าตัด ชีวิตที่ผ่านมาเธอผ่าตัดมาแล้ว 5 ครั้ง แต่ถ้าเจ็บป่วยเล็ก ๆ น้อย ๆ ก็จะใช้พลังจิตรักษาเอา ไม่กินยา ไม่เคยใช้พาราเซตามอล ใช้อยู่ 2 หมอ คือ "หมอเฉย" ที่หมายถึง "อุเบกขา" การวางเฉย และ "หมอยิ้ม" คือให้ยิ้มแย้มอยู่เสมอ
เห็นคุณธรณีมีลักษณะนิสัยและท่าทางแบบนี้แล้ว อดสงสัยไม่ได้ว่า "ดร.สารสิน วีระผล" สามีที่อยู่กินกันมากว่า 45 ปี จะเคยมองว่าภรรยาของตัวเองเพี้ยน ๆ บ้างหรือไม่ ซึ่งคุณธรณียืนยันว่า สามีเธอไม่เคยคิดเช่นนั้นแน่ และไม่กล้าพูดแบบนั้นกับเธอด้วย ก่อนจะบอกว่า สามีของเธอคือ "บุคคลที่มีคุณค่าและมีพระคุณ"
หลังคุยกันเรียบร้อย คุณธรณี ก็เปิดบ้านที่เธอเรียกว่า "วิมาน" ให้วู้ดดี้ได้เข้าชมเป็นรายการแรก เพราะปกติเธอจะปิดบ้าน ไม่รับแขก ทั้งนี้ ภายในบ้านมีการตกแต่งแบบหรูหรา และมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์วางไว้ตามมุมต่าง ๆ มากมาย ซึ่งเธอบอกว่า การตกแต่งภายในบ้านนี้เธอเป็นผู้ออกแบบเอง แต่ก็ยังไม่ลืมที่จะย้ำว่า สวรรค์ให้มาทั้งนั้น
ก่อนจบรายการ คุณธรณีได้ชวนวู้ดดี้มาตีเทนนิส ซึ่งเป็นกีฬาโปรดของเธอด้วยกัน แต่ที่ทำเอาวู้ดดี้ตะลึงก็คือ แม้แต่ชุดเล่นเทนนิสของคุณธรณีก็ยังไม่เหมือนชาวบ้าน ซึ่งชุดเหล่านั้นเธอออกแบบเองทั้งหมด หลังจากตีเทนนิสไปได้พักใหญ่ สุดท้าย คุณธรณีซึ่งเล่นเทนนิสมานานกว่า 14 ปี ก็เป็นฝ่ายชนะวู้ดดี้ แต่ก็กระซิบบอกด้วยว่า ทุกครั้งเธอจะเลือกคู่ต่อสู้ที่ไม่ได้เก่งไปกว่าเธอ เพราะเธอจะรับไม่ได้ หากเธอเล่นแล้วแพ้
และนี่ก็คือเรื่องราวของ คุณธรณี ฤทธีธรรมรงค์ ที่ต้องบอกว่าเธอเป็นผู้หญิงที่ไม่ธรรมดาจริง ๆ แต่เธอก็เป็นหนึ่งในตัวอย่างของคนกล้าคิด และกล้าลุกขึ้นมาทำตามความเชื่อมั่นของตัวเอง
