เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก สปริงนิวส์
อียู บรรลุข้อตกลง 1 หมื่นล้านยูโร กอบกู้วิกฤติธนาคารของไซปรัสแล้ว เผยจำกัดคนในประเทศกดเอทีเอ็ม ไม่เกิน 120 ยูโร หรือไม่เกิน 4,800 บาทต่อวัน ทำให้ตลาดหุ้นเอเชียดีดตัวขึ้นทันที
วันนี้ (25 มีนาคม) ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวต่างประเทศ รายงานว่า ที่ประชุมรัฐมนตรีการคลังในกลุ่มยูโรโซนได้เปิดเผยถึงการร่างข้อตกลงเพื่อกอบกู้วิกฤติภาคธนาคารช่วยเหลือไซปรัสให้รอดพ้นจากวิกฤติภาวะล้มละลายในประเทศได้แล้ว โดย 1 ในร่างข้อตกลงดังกล่าว มีมติเห็นพ้องต้องกันคือ จะเรียกเก็บภาษีจากบัญชีในธนาคารที่มีเงินฝากกว่า 1 แสนยูโร หรือประมาณ 4 ล้านบาทขึ้นไป ในธนาคาร Laika ซึ่งเป็นธนาคารที่ใหญ่ที่สุดเป็นอันดับ 2 ของประเทศ
ทั้งนี้ ผู้มีบัญชีเงินฝาก อาจจะต้องยินยอมเสียภาษีมากกว่า 40 เปอร์เซ็นต์ เพื่อที่จะระดมเงินได้ให้ 5,800 ล้านยูโร เพื่อให้เข้าเงื่อนไขการรับเงินช่วยเหลือด้านการเงินจากธนาคารกลางยุโรป หรือ ECB มูลค่า 1 หมื่นล้านยูโร หรือประมาณ 4 แสนล้านบาท ภายในวันนี้ ซึ่งเป็นวันสุดท้าย
อย่างไรก็ตาม ประธานาธิบดี นิโคส อนาตาเซียเดส ผู้นำไซปรัส ได้เข้าเจรจาหารือกับอียู อีซีบี และไอเอ็มเอฟ อย่างตึงเครียด โดยผู้นำไซปรัส เครียดจัดถึงกับต้องออกมาระบุว่า "ต้องให้เขาลาออกหรือไม่ ถึงจะกอบกู้วิกฤติการเงินในประเทศได้ เนื่องจากหมดหนทางแก้ไขแล้วจริง ๆ"
ส่วนทางด้านธนาคารต่าง ๆ ในไซปรัส ยังคงปิดทำการอย่างต่อเนื่องไปจนถึงพรุ่งนี้ (26 มีนาคม) จึงทำให้นักลงทุนชาวต่างชาติหลายคนกังวลว่า เงินฝากของเขาในธนาคาร จะถูกนำมาคิดภาษีด้วยหรือไม่ ขณะที่ธนาคารไซปรัสได้จำกัดการถอนเงินจากเอทีเอ็มได้เพียง 120 ยูโรต่อวันเท่านั้น จากเดิมที่เคยอนุญาตให้ถอนได้วันละ 260 ยูโร ส่วนร้านค้าก็ต้องทำการใช้จ่ายด้วยเงินสด
แต่ถึงกระนั้น ด้านบรรดาชาวต่างชาติที่ทำงานอยู่ในไซปรัส ต่างพากันวิตกว่า แม้ว่ารัฐบาลไซปรัสจะลงมติรับรองมาตรการฉุกเฉิน ด้วยการจัดตั้งกองทุนรวม และปรับโครงสร้างธนาคารแต่ถึงอย่างไร ไซปรัสก็อาจจะประสบภาวะล้มละลายได้อยู่ดี
อนึ่ง ไซปรัสเป็นประเทศที่ 4 ที่อยู่ในกลุ่มยูโรโซน ที่จะต้องขอความช่วยเหลือฉุกเฉินทางการเงินจากอียู เพราะที่ผ่านมาวิกฤติการเงินในไซปรัส ได้สร้างความวิตกกังวลให้แก่นักลงทุนทั่วโลก แต่ทั้งนี้ จากการขอความช่วยเหลือดังกล่าว ทำให้ตลาดหุ้นเอเชียดีดตัวขึ้นทันทีในช่วงเช้าวันนี้
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก
