แฟ้มภาพ
เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก ครอบครัวข่าว 3
ทุกหน่วยงานร่วมหารือแก้ปัญหาหมอกควันปกคลุมจังหวัดเชียงใหม่ พร้อมตั้งรางวัลนำจับผู้กระทำความผิด หลังพบผู้ฝ่าฝืนเผาหญ้า เผาฟาง จนทำให้ค่าเฉลี่ยฝุ่นละอองในอากาศยังคงเกินระดับมาตรฐาน และมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น
เมื่อเวลา 08.00 น. ของวานนี้ (26 มีนาคม) มีรายงานว่า ในพื้นที่อำเภอฝาง จังหวัดเชียงใหม่ และอำเภอใกล้เคียง ยังมีการลักลอบเผาป่าและเผาขยะ ส่งผลกระทบเรื่องของมลภาวะหมอกควันหนักขึ้นทุกวัน ทำให้ทัศนวิสัยในการมองเห็นไม่ถึง 800 เมตร ส่วนบริเวณภูเขาทั้งดอยผ้าห่มปกและดอยอ่างขางถูกหมอกควันบังมิด ขณะที่การสัญจรทางรถบนถนนหลวงต้องใช้ความระมัดระวัง เพราะในช่วงเช้ามืดและช่วงเย็นจะมืดมากกว่าปกติ และยังส่งผลเสียให้กับประชาชนในพื้นที่เกิดโรคทางเดินหายใจและโรคตา เพิ่มจำนวนมากขึ้น
โดย นพ.วิชญ์ สิริโรจน์พร ผู้อำนวยการโรงพยาบาลฝาง แจ้งว่า จากที่ทางฝ่ายสถิติข้อมูลของโรงพยาบาลแจ้งให้ทราบพบว่า ในช่วงที่เกิดหมอกควันจะมีผู้ป่วยกลุ่มทางเดินหายใจ กลุ่มโรคหัวใจและหลอดเลือด กลุ่มหอบหืด เพิ่มมากขึ้น และผู้ป่วยมาขอรับการรักษาถี่ขึ้น วันละมากกว่า 100 ราย แม้ทางหน่วยงานราชการได้สั่งห้ามและมีการประกาศเสียงตามสายในทุกหมู่บ้านแทบทุกวัน แต่ก็ยังมีเผาฟางอย่างต่อเนื่อง รวมไปถึงพื้นที่ข้างเคียงและเพื่อนบ้านด้วย จึงส่งผลให้กลุ่มควันจากชายแดนเข้าในพื้นที่อำเภอฝางและพื้นที่ใกล้เคียงเพิ่มมากขึ้น
ด้าน นายศักดิ์ชาย วงศ์กนิษฐ์ นายอำเภอเชียงดาว จ.เชียงใหม่ และนายสุรพล สัตยารักษ์ ปลัดจังหวัดเชียงใหม่ ร่วมประชุมเจ้าหน้าที่ส่วนราชการ และหน่วยงานต่าง ๆ ในพื้นที่ อ.เชียง เพื่อร่วมกันหาแนวทางในการแก้ไขปัญหามลพิษ หมอกควัน และไฟป่าในพื้นที่ โดยให้ถือเป็นวาระแห่งชาติ 100 วัน
นายศักดิ์ชาย เปิดเผยว่า เนื่องด้วยทาง อ.เชียงดาว พบ (PM10) มีค่าเฉลี่ยอยู่ระหว่าง 100-116 ซึ่งมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น ส่งผลกระทบต่อคุณภาพสิ่งแวดล้อมและสุขภาพอนามัยของประชาชน รวมทั้งเศรษฐกิจในเชิงอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว ดังนั้นจึงเชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งหมดมาประชุมร่วมกัน เพื่อร่วมรณรงค์ป้องกัน และควบคุมแก้ไขปัญหาหมอกควันและไฟป่าให้เกิดผลสำเร็จ
ทั้งนี้ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน แต่ละหมู่บ้าน ต้องเฝ้าระวังไฟป่า พร้อมจัดชุดติดตามสถานการณ์อยู่ตลอดเวลา พร้อมกับมีการควบคุมมิให้มีการเผาสิ่งใดในที่โล่งทุกประการ หากมีการฝ่าฝืนจะต้องถูกดำเนินคดี นอกจากนี้จะมีการประชาสัมพันธ์ผ่านสื่อต่าง ๆ เช่น วิทยุ สิ่งพิมพ์ เสียงตามสาย หอกระจายข่าว รวมถึงการประชาสัมพันธ์ในชุมชน เกี่ยวกับการดูแลรักษาสุขภาพ พร้อมติดป้ายประกาศ/ประชาสัมพันธ์ เบอร์โทรสำหรับติดต่อผู้รับผิดชอบ เกี่ยวกับการป้องกันไฟป่า ที่จะมีการบูรณาการร่วมกันตลอด 24 ชั่วโมง พร้อมกับมีการตั้งรางวัลนำจับผู้กระทำความผิดด้วย
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก
