เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก ครอบครัวข่าว 3
จับแล้ว! 2 คนร้ายขี่ จยย. กระชากกระเป๋าไฮโซกลางซอยทองหล่อ กวาดทรัพย์ไป 5 ล้านบาท เผย ทำมาหลายครั้งแล้ว สอบประวัติมีคดีติดตัวเพียบ
จากกรณีที่ นางประทุม รัตนาวะดี อายุ 71 ปี เข้าแจ้งความ สน.ทองหล่อ ว่าถูกคนร้ายวิ่งราวกระเป๋าไปบริเวณหน้าซอยทองหล่อ 20 โดยภายในกระเป๋ามีทรัพย์สินรวมมูลค่ากว่า 5 ล้านบาท เหตุเกิดเมื่อเวลา 11.00 น. ของวันที่ 25 มีนาคมที่ผ่านมา ทำให้ พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ผบช.น. สั่งการให้เร่งติดตามตัวคนร้ายมาดำเนินคดีให้ได้นั้น
ความคืบหน้าล่าสุด เมื่อวันที่ 29 มีนาคม พล.ต.ต.ปริญญา จันทร์สุริยา และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ได้ร่วมกันแถลงข่าวจับกุม นายกุลบุตร ประเทืองสิน อายุ 30 ปี และนายสมพงษ์ มาพลับ อายุ 31 ปี ผู้ต้องหาวิ่งราวทรัพย์สิน นางประทุม รัตนาวะดี ได้แล้ว พร้อมของกลางเครื่องประดับแหวนมุก 1 วง, ต่างหูมุก 1 คู่, พระสมเด็จนางพญา 1 องค์, สร้อยข้อมือทองคำหนัก 2 บาท (คนร้ายนำสร้อยคอทองคำหนัก 2 บาทไปขาย และซื้อสร้อยข้อมือทองคำ 2 บาทแทน), พระนาคปรกเจ้าคุณนร 1 องค์ และยึดรถจักรยานยนต์คันก่อเหตุ ยี่ห้อ ฮอนด้า รุ่น เวฟ-125 สีแดง-ดำทะเบียน คขก-472 นครสวรรค์ ที่ใช้ก่อเหตุไว้ 1 คัน
ทั้งนี้ พล.ต.ต.ปริญญา กล่าวว่า หลังจากได้รับแจ้งเหตุ ฝ่ายสืบสวนก็ได้เร่งออกติดตามตัวคนร้าย และหลังจากตรวจสอบกล้องวงจรปิดก็พบว่า หลังจากก่อเหตุ คนร้ายได้ขี่รถจักรยานยนต์หลบหนีไปยังซอยเสือใหญ่อุทิศ แขวงจันทรเกษม เขตจตุจักร และเข้าไปในห้องพักเลขที่ 301 ของพีแอนด์บี แมนชั่น เจ้าหน้าที่จึงได้ออกหมายจับคนร้ายทั้งสอง ก่อนที่ภายหลังทั้งคู่จะหลบหนีไปที่อื่น เจ้าหน้าที่จึงเร่งติดตามตัว และสามารถจับกุม นายกุลบุตร ได้ที่หน้านิคมอุตสาหกรรมโรจนะ อ.บางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา ส่วนนายสมพงษ์นั้นถูกจับกุมที่ อ.บรรพตพิสัย จ.นครสวรรค์
จากการสอบสวน คนร้ายทั้งสองคนให้การรับสารภาพว่า เป็นเพื่อนร่วมวิ่งวินรถจักรยานยนต์ในซอยเสือใหญ่อุทิศ รู้จักกันมานาน 10 ปีแล้ว และระยะหลังเป็นหนี้พนันฟุตบอล จึงได้ร่วมกันก่อเหตุวิ่งราวทรัพย์ในย่านซอยสุขุมวิท 55 มาประมาณ 5 ครั้ง แต่ประสบความสำเร็จ 3 ครั้ง ซึ่งครั้งล่าสุดคือ เหตุการณ์กระชากกระเป๋า นางประทุม เมื่อวันที่ 25 มีนาคมที่ผ่านมา โดยเมื่อได้ทรัพย์สินแล้วก็ขับรถกลับมายังที่พัก และนำเงิน พระเครื่อง เครื่องประดับมาแบ่งกัน ก่อนจะแยกย้ายกันหลบหนี เจ้าหน้าที่จึงได้แจ้งข้อหา "ร่วมกันวิ่งราวทรัพย์โดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำผิด หรือการพาทรัพย์นั้นไป" และส่งตัวดำเนินคดีต่อไป
นอกจากนี้ ยังมีรายงานด้วยว่า เจ้าหน้าที่ได้ตรวจสอบประวัติทั้งคู่ ทราบว่า นายกุลบุตร เคยถูกจับคดีวิ่งราวทรัพย์ เมื่อปี 2549 ถูกจำคุกนาน 3 ปี 7 เดือน ก่อนจะออกมาก่อเหตุวิ่งราวอีก ขณะที่ นายสมพงษ์ เคยถูกจับ 4 ครั้ง ในข้อหาลักทรัพย์ที่จังหวัดกำแพงเพชร เมื่อปี 2546, คดีบุกรุกเคหสถานในเวลากลางคืนโดยใช้กำลังประทุษร้ายที่จังหวัดนครสวรรค์ เมื่อปี 2549, ข้อหามีอาวุธปืนในครอบครองที่จังหวัดนครสวรรค์ เมื่อปี 2554 รวมทั้งคดีลักลอบเล่นการพนันไฮโล ในท้องที่ สน.พหลโยธิน เมื่อปี 2555
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก
