สรุปประเด็นข่าวโดยกระปุกดอทคอม
เจ้าของโรงเรียนอนุบาลและครูพี่เลี้ยง พบตำรวจสภ.บางปู รับข้อหาทิ้ง "น้องเอย" บนรถตู้ จ่อโดนประมาททำคนเจ็บสาหัส แม่-ปวีณา รุดเจรจา
วันนี้ (8 เม.ย.) นางอนงค์ คีรีวงษ์ อายุ 77 ปี เจ้าของโรงเรียนอนุบาลอนงค์เวท จังหวัดสมุทรปราการ พร้อมด้วยบุตรสาว ซึ่งเป็น ผู้อำนวยการโรงเรียน, นางสาวดาวรอง ศรีสมุ้ง อายุ 37 ปี ครูพี่เลี้ยง ซึ่งเป็นครูเวรประจำรถตู้ในวันเกิดเหตุ และนายสันติภาพ หวานใจ ครูสอนคอมพิวเตอร์ ซึ่งเป็นผู้ขับรถตู้วันเกิดเหตุ เดินทางเข้าพบ พลตำรวจตรีธัชชัย หงษ์ทอง ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสมุทรปราการ และพนักงานสอบสวน สภ.บางปู เพื่อรับทราบข้อกล่าวหากระทำการโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับบาดเจ็บสาหัส จากกรณีลืมนักเรียน เด็กหญิงมนัสนันท์ ทองภู่ หรือ น้องเอย อายุ 3 ขวบ ทิ้งไว้ในรถตู้ของโรงเรียนนานกว่า 5 ชั่วโมง จนเกิดอาการสมองบวม เนื่องจากขาดออกซิเจน เป็นเวลานาน โดยในวันนี้ นางรัตนา มารดาน้องเอย พร้อมครอบครัว และนางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณา หงสกุล เพื่อเด็กและสตรี ได้เดินทางมาเพื่อเจรจาเป็นครั้งแรก
ทั้งนี้ นางอนงค์ กล่าวว่า โรงเรียนอนุบาลเปิดมากว่า 20 ปีแล้ว ซึ่งมีนักเรียนระดับอนุบาลกว่า 80 คน ส่วนรถตู้คันที่เกิดเหตุได้ซื้อมาร่วม 4 ปีแล้ว และใช้รับส่งนักเรียนทุกวัน ซึ่งรถตู้เป็นชื่อของบุตรสาว แต่ได้ยกให้เป็นทรัพย์สินของโรงเรียน
ทางด้าน พนักงานสอบสวน กล่าวว่า หลังจากนี้จะดำเนินการตรวจสอบรถตู้คันดังกล่าวว่า ได้รับอนุญาตให้เป็นรถนักเรียนหรือไม่ จากกรมการขนส่งทางบกอีกครั้ง และตรวจสอบระบบภายในรถตู้ พร้อมจำลองสถานการณ์ในเวลาที่ใกล้เคียงกับเวลาเกิดเหตุ เพื่อสาเหตุที่ทำให้ น้องเอย ขาดอากาศหายใจ อย่างไรก็ตาม ขณะนี้อยู่ระหว่างการเจรจาของทั้งสองฝ่าย ซึ่งไม่อนุญาตให้สื่อมวลชนเข้าร่วมฟังแต่อย่างใด
แม่น้องเอยบนทานเจ 100 วัน เชื่อทำให้ลูกอาการดีขึ้นนางรัตนา นครโสภา มารดาของน้องเอย เปิดเผยถึงอาการล่าสุดของลูกสาวว่า จากการดูสีหน้าน้องรู้สึกว่าดีขึ้นกว่าวันก่อน ๆ ที่ดูเศร้าหมอง แม้จะไม่มาก ส่วนการขับถ่ายดีกว่าเดิม แต่ช่วงเช้าที่ผ่านมาทางแพทย์ก็ยังไม่ได้รายงานอาการอะไร อย่างไรก็ตาม เบื้องต้นทางโรงเรียนก็รับผิดชอบเรื่องค่ารักษาอยู่แล้ว แต่ก็อยากเรียกร้องเรื่องค่าเสียเวลาเพราะตอนนี้ครอบครัวก็ทำอะไรไม่ได้เลย ต้องมาดูแลน้องเพียงอย่างเดียว ทั้งนี้ ได้ไปทำบุญและบนบานสิ่งศักดิ์สิทธิ์ไว้ว่า ขอให้น้องเอยหายดี โดยได้เริ่มทานเจไปจนถึง 100 วัน และจะทานเจทุกวันพระไปตลอด เชื่อว่าจะทำให้น้องดีขึ้น ก็ยังหวังให้น้องกลับมา แต่ก็กลัวว่าจะไม่เหมือนเดิม อย่างน้อยก็ขอให้น้องเรียกแม่ได้ ก็ถือว่าดีมากแล้ว
ปวีณา ชี้ปัญหารถรับส่งนักเรียนควรมีใบอนุญาตเฉพาะขณะที่ นางปวีณา หงสกุล มูลนิธิปวีณา หงสกุล เพื่อเด็กและสตรี เปิดเผยว่า ขอให้ทางโรงเรียนออกมายอมรับผิด เพราะเป็นความไม่ตั้งใจ สังคมน่าจะให้อภัยได้ แต่ก็ควรปรับปรุงเรื่องครูที่ดูแลเด็ก ต้องอบรมให้ดีและเป็นเยี่ยงอย่างให้ทุกโรงเรียนได้เห็นช่องว่างจากความผิดพลาดที่เกิดขึ้น อย่างไรก็ตาม มองว่าปัญหาเรื่องรถรับส่งนักเรียนนั้น เป็นเรื่องที่สำคัญ และเป็นปัญหาในขณะนี้ เพราะส่วนใหญ่จะจ้างคนขับรถตู้โดยสาร ซึ่งจะขับรถด้วยความเร็วเพื่อไปรับงานต่อ จนทำให้เกิดอุบัติเหตุกับนักเรียนได้ ซึ่งก็เคยปรากฏมาแล้ว เรื่องนี้ควรวางแนวทางป้องกันไม่ให้เกิดซ้ำซาก ควรจัดให้มีการอบรม หรือมีการออกใบอนุญาตเฉพาะ รวมทั้งครูที่ดูแลเด็กก็ควรจบปริญญาในด้านนี้มาโดยตรง
