x close

นพดล ร่ายยาว 10 ข้อ โต้แถลงการณ์ประชาธิปัตย์


นพดล ปัทมะ
 

เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก ไทยพีบีเอส

          นพดล ปัทมะ ร่ายยาว 10 ข้อ ตอบโต้แถลงการณ์พรรคประชาธิปัตย์ ย้ำ ทักษิณรวยก่อนเล่นการเมือง ซัด รัฐประหารทำประเทศไม่เป็นประชาธิปไตย

          เมื่อวันที่ 10 พฤษภาคม นายนพดล ปัทมะ ที่ปรึกษากฎหมาย พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ได้ออกแถลงการณ์ตอบโต้แถลงการณ์ของพรรคประชาธิปัตย์ที่ส่งให้กับสถานทูตประเทศต่าง ๆ ประจำประเทศไทย โดยระบุว่า ข้อกล่าวหาที่พรรคประชาธิปัตย์อ้างนั้นไม่มีหลักฐานสนับสนุน และเป็นเรื่องเท็จ ตนจึงต้องออกมาแก้ข้อกล่าวหาดังกล่าว เพื่อให้ชาวโลกได้รับทราบความจริง

          ทั้งนี้ ในแถลงการณ์ของ นายนพดล ได้ชี้แจงสาระสำคัญไว้ 10 ประเด็น สรุปได้ดังนี้

          1. พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ร่ำรวยมานานก่อนเข้าสู่การเมือง ในปี 2537 ความร่ำรวยของครอบครัวได้ถูกประเมินไว้ไม่ต่ำกว่า 6 หมื่นล้านบาท พ.ต.ท.ทักษิณ เข้ารับตำแหน่งนักการเมืองครั้งแรกในตำแหน่ง รมว.ต่างประเทศ ในปี 2537 ท่านเป็นนายกรัฐมนตรีไทยคนแรกและคนเดียวที่ชนะการเลือกตั้งทั่วไป 2 ครั้งติดต่อกันในปี 2544 และ 2548 ธุรกิจโทรคมนาคมที่ครอบครัวเป็นเจ้าของ ไม่ได้เป็นกิจการผูกขาด เพราะมีผู้แข่งขันรายอื่น และสัมปทานได้มาโดยชอบด้วยกฎหมาย จากรัฐบาลพลเรือนในปี 2532 ไม่ใช่จากรัฐบาลทหาร ตามคำกล่าวหาเท็จโดยพรรคประชาธิปัตย์

          2. ข้อกล่าวอ้างว่ามีการวิสามัญฯ หลายพันรายในสมัย พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ดำเนินนโยบายสงครามต่อต้านยาเสพติด เป็นเรื่องจินตนาการและเป็นเท็จอย่างสิ้นเชิง เพราะจากรายงานที่เป็นทางการของ ป.ป.ส. มีผู้เสียชีวิตเพียง 50 รายเท่านั้นที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติด ตัวเลขการตาย 2,500 ศพ เป็นตัวเลขการเสียชีวิตจากทุกสาเหตุ และจากทุกอาชญากรรมในช่วงเวลาหนึ่ง พ.ต.ท.ทักษิณ ไม่เคยมีนโยบายยิงเพื่อสังหารผู้ค้ายา และไม่เคยสั่งให้เจ้าหน้าที่ผู้รักษากฎหมายไปฆ่าใคร

          3. ในเดือนกันยายน 2549 มีการรัฐประหารเพื่อล้ม พ.ต.ท.ทักษิณ หัวหน้าพรรคไทยรักไทย และล้มรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งตามระบอบประชาธิปไตยออกจากตำแหน่ง ซึ่งเป็นการลบล้างคะแนนเสียงของประชาชนชาวไทยกว่า 14 ล้านคน คณะรัฐประหารได้ฉีกรัฐธรรมนูญฉบับปี 2540 ที่ถือว่าเป็นรัฐธรรมนูญที่มีความเป็นประชาธิปไตยมากที่สุด จนถูกเรียกว่ารัฐธรรมนูญฉบับประชาชน และคณะรัฐประหารได้ร่วมมือกับพันธมิตรกลุ่มอื่น ๆ ในกลุ่มชนชั้นอำมาตย์ เพื่อประกาศใช้รัฐธรรมนูญที่ไม่เป็นประชาธิปไตย ฉบับปี 2550 ซึ่งประเทศไทย ยังอยู่ใต้รัฐธรรมนูญฉบับนี้จนปัจจุบัน

          เป็นเรื่องที่ไม่น่าเชื่อและน่าละอาย ที่พรรคประชาธิปัตย์จะพูดถึงการรัฐประหารในเดือนกันยายน 2549 ว่าเป็นเพียงการแทรกแซงโดยทหาร เพราะมันคือการทำลายประชาธิปไตยอย่างชัดแจ้ง พรรคประชาธิปัตย์ควรจะตระหนักว่าการออกเสียงลงประชามติ เพื่อเห็นชอบร่างรัฐธรรมนูญในปี 2550 ได้กระทำขึ้นภายใต้บรรยากาศของการข่มขู่และความหวาดกลัวว่า รัฐบาลทหารอาจเลือกรัฐธรรมนูญฉบับใดมาประกาศใช้ ถ้าการออกเสียงลงประชามติล้มเหลว

            4. คนไทยไม่ยอมรับการรัฐประหารเมื่อปี 2549 โดยแสดงให้เห็นในการเลือกตั้งปี 2550 ที่รัฐบาลพรรคพลังประชาชนได้รับชัยชนะ ทั้ง ๆ ที่การเลือกตั้งเกิดขึ้นภายใต้รัฐธรรมนูญที่ไม่เป็นประชาธิปไตย และทั้ง ๆ ที่มีการพยายามโดยคณะรัฐประหารที่จะป้องกันไม่ให้คนไทยใช้สิทธิ์เลือกตั้งพรรคฝ่าย พ.ต.ท.ทักษิณ

          ทั้งนี้ ในปี 2551 รัฐบาลพรรคพลังประชาชนที่นำโดย นายสมัคร สุนทรเวช เผชิญกับแรงกดดันให้ลงจากอำนาจ ท่ามกลางการประท้วงและการก่อความวุ่นวายโดยกลุ่มพันธมิตรฯ พรรคพลังประชาชนสนับสนุนการแก้ไขรัฐธรรมนูญปี 2550 ในขณะที่กลุ่มพันธมิตรกล่าวหาว่า เป็นความพยายามที่จะนิรโทษกรรมทางการเมืองให้แก่ พ.ต.ท.ทักษิณ

          จากนั้น กลุ่มพันธมิตรได้ยึดทำเนียบรัฐบาลและสนามบินสุวรรณภูมิในเดือนพฤษภาคม 2551 เพื่อล้มรัฐบาลให้ได้ ส.ส. หลายคนจากพรรคประชาธิปัตย์เข้าร่วมการประท้วง รวมทั้งนายกษิต ภิรมย์ ซึ่งต่อมาได้รับการเสนอชื่อแต่งตั้งเป็น รมว.ต่างประเทศ และถูกตั้งข้อกล่าวหาก่อการร้าย ท้ายที่สุดนายสมัคร ถูกตัดสินโดยศาลรัฐธรรมนูญว่าขาดคุณสมบัติที่จะเป็นนายกรัฐมนตรี เนื่องจากการออกรายการทีวีทำกับข้าว ซึ่งก่อให้เกิดความประหลาดใจเป็นอย่างมากในหมู่ผู้สนับสนุน ก่อนที่ นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ จะเข้ารับตำแหน่งเป็นนายกรัฐมนตรีคนต่อไป

สมชาย วงศ์สวัสดิ์

            5. ศาลรัฐธรรมนูญได้สั่งยุบพรรคพลังประชาชนและพรรคเล็กอื่น ๆ ในเดือนธันวาคม 2551 พร้อมตัดสิทธิ์เลือกตั้งนักการเมือง 109 คน เป็นเวลา 5 ปี ทำให้นายสมชาย ต้องพ้นจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี จากข้อหาที่ว่ากรรมการบริหารพรรค 1 คน ได้จ่ายเงินประมาณ 20,000 บาท แก่ผู้นำท้องถิ่นก่อนวันเลือกตั้ง ทั้ง ๆ ที่กรรมการบริหารเพียงคนเดียวถูกตัดสินว่ากระทำความผิดตามกฎหมายเลือกตั้ง แต่กรรมการบริหารที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใด ๆ ก็ต้องถูกตัดสิทธิ์เลือกตั้งไปด้วย

            6. นายสมัคร และนายสมชาย ไม่เคยพยายามที่จะออกกฎหมายนิรโทษกรรมเพื่อช่วยเหลือ พ.ต.ท.ทักษิณ ตามที่พรรคประชาธิปัตย์กล่าวหา ข้อกล่าวหาของพรรคประชาธิปัตย์ที่ว่านายสมัคร และนายสมชาย พยายามที่จะออกกฎหมายนิรโทษกรรม เพื่อนำ พ.ต.ท.ทักษิณ กลับบ้านโดยไม่มีความผิด จนก่อให้เกิดการประท้วงบนท้องถนนนั้น เป็นความเท็จ เพราะทั้งสองท่านไม่เคยดำเนินการดังกล่าว

          7. ในเดือนธันวาคม 2551 พรรคเพื่อไทยถูกตั้งขึ้นแทนพรรคพลังประชาชน และเป็นพรรคที่ใหญ่ที่สุดในประเทศขณะนั้น แต่ ส.ส.ฝ่าย พ.ต.ท.ทักษิณ ถูกบังคับและเสียสิทธิ์ในการตั้งรัฐบาล เพราะมีการรัฐประหารเงียบเกิดขึ้น โดยพรรคเล็กพรรคน้อยได้ถูกบังคับให้ไปสนับสนุนพรรคประชาธิปัตย์ เพื่อให้เป็นแกนนำในการตั้งรัฐบาล ซึ่งตลอดระยะเวลา 20 ปีที่ผ่านมา พรรคประชาธิปัตย์ไม่เคยชนะการเลือกตั้ง และขาดอาณัติจากประชาชนที่จะทำเช่นนั้น ทำให้พรรคเพื่อไทย พี่น้องเสื้อแดง และคนไทยนับล้านไม่ยอมรับความชอบธรรมของรัฐบาลนี้

เสื้อแดง

          8. คนเสื้อแดง ประชาชนชาวไทย ต้องการเพียงประชาธิปไตยและหลักนิติธรรม คัดค้านการรัฐประหารเพื่อล้มล้าง พ.ต.ท.ทักษิณ บุคคลเหล่านี้เชื่อว่ารัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบัน ได้พรากสิทธิทางการเมืองไป จนเกิดระบบสองมาตรฐาน ความอยุติธรรม นอกจากนี้ พวกเขาเห็นว่า รัฐบาลนายอภิสิทธ์ เวชชาชีวะ ไม่มีความชอบธรรม เพราะเข้าสู่อำนาจโดยผลของการกดดันทางการเมือง และการเจรจาลับหลังจากที่มีการตัดสินของศาล

          ดังนั้น คนเสื้อแดงจึงได้ชุมนุมประท้วงกันนาน 2-3 เดือน กระทั่งรัฐบาลนายอภิสิทธิ์สั่งให้ทหารพร้อมอาวุธสงครามสลายการชุมนุมในวันที่ 19 พฤษภาคม 2553 และก่อให้เกิดการเสียชีวิตและบาดเจ็บจำนวนมาก มีการใช้กระสุนจริงเพื่อสลายผู้ชุมนุมที่ใช้สิทธิ์ชุมนุมภายใต้รัฐธรรมนูญ และการสลายการชุมนุมไม่เป็นไปตามขั้นตอนและมาตรฐานสากล ส่งผลให้มีผู้ประท้วงและทหารเสียชีวิตราว 91 ศพ และบาดเจ็บนับพันราย ศาลอาญาได้ตัดสินในหลายคดีว่าการเสียชีวิตเกิดจากกระสุนจริงที่ใช้โดยเจ้าหน้าที่ของรัฐ

          9. ข้อกล่าวคดีอาญา และคดีก่อการร้ายทั้งหมดของ พ.ต.ท.ทักษิณ เกิดขึ้นภายหลังการรัฐประหาร และผู้ที่สอบสวนคือ คตส. ซึ่งคณะรัฐประหารเป็นผู้แต่งตั้ง อันประกอบด้วยบุคคลที่เป็นปฏิปักษ์ทางการเมืองเป็นอย่างมาก ดังนั้นจึงขัดกับหลักนิติธรรม คดีที่ดินรัชดาฯ ที่เป็นคดีเดียวที่ตัดสินว่า พ.ต.ท.ทักษิณ มีความผิด ก็อยู่ในคดีดังกล่าวเหล่านี้ด้วย

          นอกจากนี้ ยังมีข้อกล่าวหาว่าเป็นผู้ชักใยการประท้วง ซึ่ง พ.ต.ท.ทักษิณ ก็พูดเสมอว่า ท่านเพียงแค่ให้กำลังใจผู้ชุมนุม เพราะเห็นด้วยกับที่ผู้ชุมนุมเรียกร้องเท่านั้น เพราะนั่นก็คือประชาธิปไตยและความยุติธรรมสำหรับคนไทยทุกคน สิ่งที่รัฐบาลนายอภิสิทธิ์ใช้เป็นหลักฐานสนับสนุนข้อหาก่อการร้ายของ พ.ต.ท.ทักษิณ มีเพียงแค่วิดีโอที่พูดกับคนเสื้อแดงว่า "ถ้าทหารใช้ความรุนแรงต่อคนเสื้อแดง ให้พี่น้องคนเสื้อแดงไปรวมตัวที่ศาลากลางจังหวัด" ซึ่ง พ.ต.ท.ทักษิณ ไม่เคยสั่งหรือขอให้ใครกระทำการที่ผิดกฎหมาย และได้ปฏิเสธข้อกล่าวหาก่อการร้ายที่ถูกตั้งขึ้น เพราะมีเหตุจูงใจทางการเมือง

ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร

          10. ในการเลือกตั้งเมื่อวันที่ 3 กรกฎาคม 2554 พรรคเพื่อไทย ได้รณรงค์อย่างชัดเจนว่า นโยบายที่นำเสนอนั้น พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นคนคิด และพรรคเพื่อไทยเป็นคนทำ ก่อนที่ประชาชนคนไทยส่วนใหญ่จะลงคะแนนให้พรรคเพื่อไทยชนะการเลือกตั้ง ได้ 265 ที่นั่ง จากจำนวน 500 ที่นั่ง ส่งผลให้ นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ได้รับเลือกเป็นนายกรัฐมนตรีของประเทศไทย ทั้งในทางข้อกฎหมายและข้อเท็จจริง และท่านก็เป็นผู้ตัดสินใจในฐานะนายกรัฐมนตรี นายกฯ ยิ่งลักษณ์ เข้าประชุมสภาฯ ตามที่เห็นว่าจำเป็น และไม่เคยมีเจตนาที่จะละเลยหน้าที่นี้

          ส่วนข้อกล่าวหาที่ว่า พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นผู้ครอบงำ นางสาวยิ่งลักษณ์ และปรารถนาจะครอบงำ 3 อำนาจ คือ นิติบัญญัติ บริหาร ตุลาการ นั้น เป็นสิ่งที่พรรคประชาธิปัตย์กล่าวหาด้วยความเท็จ ทั้งนี้ นายกฯ ยิ่งลักษณ์ มีความเห็นว่าฝ่ายตุลาการ ฝ่ายบริหาร และฝ่ายนิติบัญญัติ ควรถ่วงดุลและตรวจสอบซึ่งกันและกันแทนที่จะครอบงำอำนาจอื่น

          ขณะที่การที่ศาลรัฐธรรมนูญรับคำร้องของ ส.ส. และ ส.ว. เรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญนั้น ทำให้ประชาชนกังวลอย่างมาก เพราะนักกฎหมายชั้นนำในประเทศ รวมทั้งคนไทยหลายล้านคนมองว่า เป็นการใช้อำนาจของศาลรัฐธรรมนูญที่เกินเลยไป และอาจจะเป็นการละเมิดต่อหลักการแบ่งแยกอำนาจ

          ทั้งนี้ ปัญหาการเมืองในประเทศไทยจะยังคงมีอยู่ต่อไป ตราบใดที่เจตจำนงและการตัดสินใจของประชาชนส่วนใหญ่ของประเทศไม่ได้รับการเคารพ ไม่ควรมีพรรคการเมืองใดได้ประโยชน์จากการรัฐประหาร หรือจากรัฐธรรมนูญที่ไม่เป็นประชาธิปไตย เฉพาะประชาธิปไตย หลักนิติธรรม และความยุติธรรมเท่านั้น ที่จะสามารถประกันให้มีสันติภาพ และความมั่งคั่งของประเทศไทย และของโลกได้


 

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก
 




เรื่องที่คุณอาจสนใจ
นพดล ร่ายยาว 10 ข้อ โต้แถลงการณ์ประชาธิปัตย์ โพสต์เมื่อ 11 พฤษภาคม 2556 เวลา 14:33:13 1,199 อ่าน
TOP