แฟ้มภาพ
เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
แฝดมือต่อยอาจารย์ นิติราษฎร์ถูกล็อกขณะคุมบ่อนไก่ย่านคลองสี่ แฝดเบนซ์ โดนรวบฐานพกพาอาวุธปืนโดยไม่ได้รับอนุญาต ขณะแฝดแบงค์รอด หลังค้นไม่พบสิ่งผิดกฎหมาย
เมื่อเวลา 16.00 น. ของวานนี้ (18 พฤษภาคม 2556) เจ้าหน้าที่ตำรวจจังหวัดปทุมธานี และ สภ.คลองหลวง กว่า 100 นาย ร่วมกันนำหมายศาลจังหวัดธัญบุรีเข้าตรวจค้นบ่อนตีไก่ชนคลองสี่ หมู่ 6 ต.คลองสี่ อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี หลังได้รับเรื่องร้องเรียนว่ามีคนพกพาอาวุธปืนเข้ามาเล่นพนันตีไก่ชนในบ่องไก่ขนาดใหญ่
หลังการเข้าตรวจภายในบ่อน ได้พบตัว นายสุพัฒน์ ศิลารัตน์ หรือนายเบนซ์ อายุ 32 ปี ผู้ต้องหาคดีร่วมกับนายสุพจน์ ศิลารัตน์ หรือนายแบงค์ พี่น้องฝาแฝด ในข้อหาทำร้ายร่างกายนายวรเจตน์ ภาคีรัตน์ อาจารย์มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์และแกนนำนักวิชาการนิติราษฎร์ และคดียิงนายจงกล พิจิตรพลากาศ หรือทนายเปี๊ยก ได้รับบาดเจ็บ
จากการตรวจค้นพบว่า นายสุพัฒน์ได้พกพาอาวุธปืนโดยไม่ได้รับอนุญาตจำนวน 2 กระบอก ส่วนนายสุพจน์ ฝาแฝดอีกคน ที่ยืนคุมเชิงอยู่ปากทางเข้าหน้าบ่อนไก่ ไม่พบสิ่งผิดกฎหมายใด ๆ ขณะที่จากการตรวจค้นรถยนต์ที่จอดอยู่ในบ่อน เจ้าหน้าที่ก็ได้ตรวจพบอาวุธปืนอีก 6 กระบอก พร้อมควบคุมตัวผู้ต้องหาอีก 6 คนนำมาสอบสวนที่โรงพัก โดยแจ้งข้อหาร่วมกันมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต พกพาอาวุธปืนติดตัวเข้าไปในเมือง หมู่บ้านหรือทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควรเร่งด่วนแก่พฤติการณ์
ด้าน พ.ต.อ.สุนทร ผกก.สส.ภ.จว.ปทุมธานี หัวหน้าชุดจับกุม เปิดเผยว่า บ่อนไก่แห่งนี้เป็นของผู้ใหญ่ลี อดีตผู้ใหญ่บ้านผู้กว้างขวางในวงการตีไก่ ร่วมหุ้นกับ ส.จ.เมืองนนทบุรีคนหนึ่ง เปิดมาราว 5-6 เดือนแล้ว ทั้งคู่จึงได้นำนายสุพจน์และนายสุพัฒน์ มาคอยติดตามและคุมบ่อนไก่ดังกล่าว ซึ่งที่ผ่านมามีชาวบ้านร้องเรียนว่าเห็นพี่น้องฝาแฝดพกพาอาวุธปืนและข่มขู่ผู้เล่นอยู่เป็นประจำ เกรงจะเกิดเหตุไม่คาดคิด จึงรีบแจ้งให้เจ้าหน้าที่รีบนำกำลังเข้ามาตรวจค้นเสียก่อน
โดย พ.ต.อ.สุนทร เผยว่า จากการตรวจสอบ นายสุพัฒน์มีอาวุธปืนขนาด 9 ม.ม.อย่างถูกต้อง โดยเพิ่งจะขอใบอนุญาตเมื่อวันที่ 17 พฤษภาคมที่ผ่านมา ส่วนอีกกระบอกเป็นขนาด 11 มม. ซึ่งยังไม่ทราบว่าเป็นของใคร แต่นายสุพัฒน์รับว่าเป็นของตัวเองทั้ง 2 กระบอก
ขณะที่ พ.ต.อ.สามารถ รอง ผบก.ภ.จว.ปทุมธานี ระบุว่า การตรวจค้นและจับกุมครั้งนี้เป็นการตรวจค้นเพื่อป้องกันและปรามปรามอาชญากรรมในปทุมธานี เนื่องจากสถานที่ดังกล่าวมีคนและอาวุธปืนจำนวนมากซึ่งเสี่ยงต่อการก่อเหตุอาชญากรรม อย่างไรก็ตาม ได้ตรวจสอบแล้วพบว่าเป็นสนามชนไก่มีเอกสารใบอนุญาตถูกต้อง นอกจากนี้ ที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่ตำรวจยังได้พยายามประชาสัมพันธ์เรื่องการควบคุมอาวุธเพื่อป้องกันเหตุอาชญากรรม รวมทั้งกวดขันในเรื่องอาวุธปืน เพราะช่วงหลังการก่อเหตุต่าง ๆ ไม่ว่าจะปล้นธนาคาร จี้ชิงทรัพย์ พยายามฆ่า หรือแม้กระทั่งการก่อนเหตุทะเลาะวิวาทนั้น ล้วนนำไปสู่การใช้อาวุธปืนยิงกัน
สำหรับ นายสุพัฒน์และนายสุพจน์ พี่น้องฝาแฝดคู่นี้มีคดีถูกจับกุมข้อหาทำร้ายร่างกายมาแล้วในหลายท้องที่ และ ก่อนหน้านี้ก็ได้ถูกจับกุม เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555 หลังร่วมกันก่อเหตุบุกชกต่อยทำร้ายร่างกายนายวรเจตน์ ภาคีรัตน์ แกนนำกลุ่มนิติราษฎร์ ที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ โดยอ้างว่าไม่พอใจที่นายวรเจตน์เคลื่อนไหวสนับสนุนการแก้ไขกฎหมายอาญามาตรา 112 และอยู่ในระหว่างประกันตัวสู่คดี
ล่าสุด เมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา ก็ได้เข้ามอบตัวสู้คดี ใช้ปืน 9 ม.ม.ยิงนายจงกล พิจิตรพลากาศ หรือทนายเปี๊ยก ซึ่งก็อยู่ระหว่างประกันตัวสู้คดีเช่นกัน สาเหตุสอบเบื้องต้นพบว่าฝาแฝดมาแก้แค้นให้กับอดีตผู้ใหญ่บ้าน ซึ่งเป็นเจ้าของบ่อนไก่ที่ ตร.เข้าตรวจค้นวันนี้ หลังจากนายจงกลรับว่าความให้อดีตผู้ใหญ่บ้านแล้วทำเรื่องประกันตัวให้ไม่ได้
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก