เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก คุณ Lakornhd Thaitv สมาชิกเว็บไซต์ยูทูบดอทคอม
ชาวสุพรรณบุรี ถูกจระเข้งับบาดเจ็บ หลังไปเก็บหน่อไม้ใกล้ที่วางไข่ เจ้าหน้าที่ช่วยเหลือจนจับได้ 1 ตัว แต่พบว่ายังไม่ใช่ตัวก่อเหตุ เบื้องต้น ชาวบ้านคาดว่า น่าจะหลุดมาจากฟาร์มผิดกฎหมาย เพราะใช้ปืนยิงตายไปแล้วหลายตัว
สืบเนื่องจากเมื่อวานนี้ (28 พฤษภาคม 2556) เวลา 09.30 น. ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งเหตุ มีคนถูกจระเข้กัดได้รับบาดเจ็บไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลดอนเจดีย์ จึงไปตรวจสอบพร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ดอนเจดีย์ จ.สุพรรณบุรี โดยพบนายประสิทธิ์ ดาวเรือง อายุ 56 ปี ชาว ต.ดอนเจดีย์ มีบาดแผลถลอกที่แข้งขวา
ทั้งนี้ นายประสิทธิ์ เล่าว่า ก่อนเกิดเหตุได้ไปขุดหาหน่อไม้ไผ่ ที่ริมแม่น้ำท่าคอย หมู่ 2 ต.ดอนเจดีย์ เพียงลำพังคนเดียว แต่ขณะกำลังเดินหาหน่อไม้ใกล้กอไผ่ ก็มีจระเข้พุ่งเข้ามากัดที่ขา โชคดีที่ถอยหลังทัน จึงแค่ถูกจมูกของจระเข้ชนเข้าที่หน้าแข้งจนหงายท้อง จากนั้นจระเข้ได้หนีลงไปในแม่น้ำ ก่อนกลับขึ้นมาอีก นายประสิทธิ์จึงใช้มีดยาวประมาณ 150 เซนติเมตร ฟันลงไปที่ปลายจมูกจระเข้จนมันหนีไป
หลังเกิดเหตุนายประสิทธิ์ได้นำเรื่องดังกล่าวไปเล่าให้ชาวบ้านฟัง แต่ไม่มีใครเชื่อ ดังนั้นนายประสิทธิ์จึงกลับไปที่เกิดเหตุอีกครั้ง จนพบว่า จระเข้ตัวดังกล่าวทำรังไข่เอาไว้ และภายในรังมีไข่จระเข้อยู่ถึง 20 ฟอง ทั้งนี้ ชาวบ้านต่างคาดว่า จระเข้ที่กัดนายประสิทธิ์น่าจะเป็นจระเข้ที่หลุดจากฟาร์มลักลอบเลี้ยงผิดกฎหมายในช่วงน้ำท่วม เพราะเคยมีชาวบ้านใช้ปืนยิงตายมาแล้วหลายตัว
ส่วนสาเหตุที่มันทำร้ายคน อาจเป็นเพราะคิดว่านายประสิทธิ์ เป็นศัตรูที่จะเข้ามาขโมยไข่ ดังนั้น ชาวบ้านจึงประสานไปยังเจ้าหน้าที่ประมงให้มาตรวจสอบ จนกระทั่งในเวลา เวลา 17.30 น. นายสงวน จำปาศักดิ์ ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 2 ต.ดอนเจดีย์ พร้อมลูกบ้านได้นำเครื่องสูบน้ำมาตั้งสูบน้ำออกจากบ่อซึ่งอยู่ติดกับรังของจระเข้ โดยมีเจ้าหน้าที่ประมงจังหวัด และเจ้าหน้าที่ตำรวจ มาร่วมรักษาความปลอดภัย พร้อมประชาสัมพันธ์ไม่ให้ชาวบ้านใช้อาวุธปืนยิงจระเข้ เนื่องจากเกรงอาจเกิดอันตรายกับประชาชน รวมทั้งเป็นเรื่องที่ผิดกฏหมาย เพราะจระเข้เป็นสัตว์คุ้มครอง
หลังจากสูบน้ำเกือบแห้งบ่อ ก็สามารถจับจระเข้เพศเมียได้ 1 ตัว ยาวประมาณ 2.50 เมตร หนักประมาณ 60 กิโลกรัม แต่จระเข้ตัวดังกล่าวไม่ใช่ตัวที่กัดนายประสิทธิ์ เนื่องจากตัวที่กัดนายประสิทธิ์มีขนาดใหญ่กว่านี้ และต้องมีรอยถูกมีดฟันที่จมูก แต่เพราะใกล้มืดค่ำและเกรงว่าจะไม่ปลอดภัย เจ้าหน้าที่จึงสั่งหยุดการค้นหาจระเข้ตัวดังกล่าวไว้ชั่วคราว พร้อมกับจัดเวรยามเฝ้าไว้รอให้สว่างจึงเริ่มค้นหากันอีกครั้ง ส่วนจระเข้ที่จับได้และไข่ที่พบนั้น เจ้าหน้าที่ประมงจังหวัดได้นำไปไว้ที่ศูนย์วิจัยและพัฒนาประมงน้ำจืดสุพรรณบุรีแล้ว
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก
