เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก luangpunenkham.com
โฆษก หลวงปู่เณรคํา ฉัตติโก แจงหลวงปู่ไม่ได้มี ฮ. ส่วนตัว แต่ญาติโยมเช่าให้หากมีกิจนิมนต์ ยันหลวงปู่เณรคํา ฉัตติโก นำเงินมาสร้างพระแก้วมรกตองค์ใหญ่ที่สุดในโลก ด้านเสี่ยก้าวหน้า ลูกศิษย์คนสนิท ย้ำ หลวงปู่เณรคำ ไม่ได้ติดหรู ไม่มีเงินในบัญชีถึงพันล้าน
เมื่อวันที่ 19 มิถุนายน 2556 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายภาณุ สุขวัลลิ โฆษกฝ่ายฆารวาส ประจำตัวหลวงปู่เณรคำ ฉัตติโก ได้ออกมาชี้แจงถึงประเด็นที่สังคมกำลังวิพากษ์วิจารณ์เกี่ยวกับความฟุ้งเฟ้อและร่ำรวยผิดปกติของ หลวงปู่เณรคำ ว่า กรณีภาพต่าง ๆ ที่ปรากฏตามสื่อนั้น ขอชี้แจงว่าเป็นภาพเก่าทั้งหมด โดยภาพเครื่องบินเจ็ทนั้นเป็นเครื่องบินของบริษัท บางกอกเจ็ท ที่เวลาหลวงปู่เณรคำมีกิจนิมนต์เร่งด่วนจะมีญาติโยมเช่าเครื่องบินให้เพื่อใช้เดินทางเป็นประจำ ส่วนเฮลิคอปเตอร์ที่มีภาพสัญลักษณ์ของหลวงปู่เณรคำติดอยู่นั้น ก็เป็นเฮลิคอปเตอร์ของทางโรงพยาบาลแห่งหนึ่ง และมีญาติโยมเช่าให้ใช้เดินทางเวลามีกิจนิมนต์เร่งด่วนเช่นกัน ที่มีรูปหลวงปู่เณรคำติดอยู่นั้นก็มาจากการที่ญาติโยมนำไปติด ยืนยันว่าไม่ใช่เฮลิคอปเตอร์ของหลวงปู่เณรคำแต่อย่างใด
ขณะที่เรื่องเงินบริจาคนั้น ยืนยันว่าไม่เคยมีครั้งใดที่ทางวัดได้เงินบริจาคในครั้งเดียวมากเป็นร้อยล้านบาท และเงินที่ได้มาจากการบริจาคก็จะนำไปสร้างพระแก้วมรกตองค์ใหญ่ที่สุดในโลกต่อให้แล้วเสร็จ รวมทั้งจะนำไปช่วยวัดสาขาต่าง ๆ ด้วย ซึ่งเงินบริจาคจะแบ่งไว้สองบัญชี คือ บัญชีของหลวงปู่เณรคำกับบัญชีของทางมูลนิธิ
นอกจากนี้ กรณีรถนำขบวนที่มีผู้วิพากษ์วิจารณ์กันว่ามีจำนวนมากนั้น ก็ไม่ได้มาจากการร้องขอของหลวงปู่เณรคำ แต่มาจากการที่ พล.ต.อ.วิเชียร พจน์โพธิ์ศรี ปลัดกระทรวงคมนาคมและอดีต ผบ.ตร. อนุมัติให้ เพราะเห็นว่าหลวงปู่เณรคำมีกิจนิมนต์มากและเพื่อความปลอดภัยในการเดินทาง โดยปัจจุบันนี้หากหน่วยงานใดจะนิมนต์จะต้องจองคิวกันข้ามปี อย่างไรก็ตาม เมื่อเกิดข่าวขึ้นมาทางคณะลูกศิษย์ของหลวงปู่เณรคำกำลังอยู่ในระหว่างรวบรวมข้อมูลเพื่อแถลงข่าวชี้แจงทุกประเด็นในเร็ว ๆ นี้
ขณะที่ พระฐกฤต กันตธัมโม โฆษกประจำองค์หลวงปู่เณรคำ และฝ่ายประชาสัมพันธ์ วัดป่าขันติธรรม กล่าวว่า ที่มีการระบุว่าวัดป่าขันติธรรมไม่ได้มีสถานะเป็นวัดนั้น ยอมรับว่าเป็นความจริงและเป็นเจตนาของหลวงปู่เณรคำเอง เนื่องจากท่านต้องการสร้างพระแก้วมรกตองค์ใหญ่ที่สุดในโลกในสถานที่แห่งนี้ และเมื่อสร้างเสร็จแล้วไม่ต้องการให้เป็นสมบัติของวัด แต่จะมอบให้เป็นสมบัติของแผ่นดิน มอบให้สำนักพระราชวังเข้ามาดูแล และเมื่อสร้างพระแก้วมรกตเสร็จแล้ว หลวงปู่เณรคำได้บอกไว้แล้วว่าจะขอละสังขาร รวมทั้งยุบวัดป่าขันติธรรมด้วย ให้เหลือไว้เพียงวิหารและพระแก้วมรกต โดยการดำเนินการสร้างพระแก้วมรกตนั้นขั้นตอนต่อไปจะมีการนำทองคำน้ำหนัก 9 ตัน มาทำเป็นเครื่องทรงตามฤดูต่าง ๆ ด้วย ทั้งนี้การที่สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) ต้องการเข้ามาตรวจสอบเรื่องเงินบริจาคนั้น สามารถเข้ามาตรวจสอบได้ แต่อยากให้คุยกับทางหลวงปู่เณรคำโดยตรงจะดีกว่า
อย่างไรก็ตาม ขณะนี้หลวงปู่เณรคำได้เลื่อนเดินทางกลับไทยออกไปอีก 2-3 วันก่อน จากเดิมกำหนดการกลับถึงไทย เวลา 05.00 น. ของวันที่ 20 มิถุนายน เนื่องจากญาติโยมที่ฝรั่งเศสนิมนต์ให้อยู่ต่อ
จากนั้น ในวันที่ 20 มิถุนายน นายภัทรเดช โสพรรณพาณิชกุล หรือ เสี่ยก้าวหน้า ลูกศิษย์คนสนิทของ หลวงปู่เณรคำ ฉัตติโก ก็ได้ออกมาชี้แจงเรื่องที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์กันในขณะนี้ ว่า เกิดจากการที่มีขบวนการจ้องทำลายหลวงปู่ โดยอดีตลูกศิษย์วัดของหลวงปู่เคยพยายามขอเงินจำนวนหลักล้านจากหลวงปู่ แต่ถูกทางคณะกรรมการวัดปฏิเสธ อดีตลูกศิษย์คนนี้จึงมุ่งเป้าจ้องทำลายหลวงปู่ เท่ากับเป็นการเนรคุณ
ส่วนกรณีที่มีกระแสข่าวว่า ในบัญชีของหลวงปู่เณรคำมีเงินเป็นหลักพันล้านนั้น นายภัทรเดช ยืนยันว่าไม่เป็นความจริง แต่ยอมรับว่า มีการเปิดบัญชีด้วยชื่อของหลวงปู่จริง โดยมีคณะกรรมการคอยดำเนินการจัดการเงินที่มีญาติโยมมาถวาย
ส่วนเรื่องที่ภายในวัดมีการสร้างลานจอดเฮลิคอปเตอร์ไว้นั้น นายภัทรเดช ชี้แจงว่า เกิดจากการที่มีคนใจบุญเข้ามาทำถนนเข้ามาในวัดเท่านั้น ไม่ได้เป็นการสร้างลานจอดโดยเฉพาะ เพียงแต่มีการทำสัญลักษณ์เอาไว้ เนื่องจากบ่อยครั้งที่มีการนิมนต์ไปปฏิบัติ ทางเจ้าภาพที่นิมนต์มักนำเฮลิคอปเตอร์มารับ และขอยืนยันว่าหลวงปู่เณรคำไม่ได้เป็นพระติดหรู ตามที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์