เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก รายการเรื่องเล่าเช้านี้ โพสต์โดย คุณ Lakornhd Thaitv สมาชิกเว็บไซต์ยูทูบดอทคอม
นศ.ศรีปทุม ถูกโจรยิงสัญญาณบล็อกรีโมทรถ กวาดกล้องพร้อมอุปกรณ์ 3 ตัว สูญนับ 2 แสนบาท ด้านอาจารย์ลาดกระบังเตือน ล็อกรีโมทแล้วต้องเช็กรถอีกครั้ง
เมื่อวันที่ 23 มิถุนายน 2556 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายภคนนท์ เทศนิสาร นักศึกษาชั้นปีที่ 2 คณะนิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีปทุม จ.ชลบุรี ถูกมิจฉาชีพขโมยทรัพย์สินในรถมูลค่ากว่า 2 แสนบาท โดยไม่ทิ้งร่องรอยงัดแงะใด ๆ ทั้งสิ้น
โดย นายภคนนท์ เล่าว่า เมื่อวันที่ 12 มิถุนายนที่ผ่านมา ช่วงเวลา 18.00 น. ตนได้ขับรถแวะทานข้าวและเดินไปซื้อของกับเพื่อน ๆ ที่ห้างพลัสมอลล์ อมตะนคร โดยจอดไว้ที่ลานจอดรถของห้าง ซึ่งตนได้วางกล้องถ่ายรูปของตนและเพื่อน ๆ เอาไว้ในรถ 1 ตัว และกระโปรงหลังรถ 2 ตัว พร้อมอุปกรณ์กล้องมูลค่ากว่า 2 แสนบาท เพียงแค่ 20 นาทีเท่านั้น จากนั้นก็ขับรถกลับโดยไม่ได้เอะใจอะไร เพราะรถไม่มีร่องรอยการงัดแงะเลยแม้แต่น้อย จนกระทั่งไปส่งเพื่อนที่บ้านถึงรู้ว่าของได้หายไปหมดแล้ว จากนั้นจึงรีบกลับไปที่ห้างเพื่อขอดูกล้องวงจรปิด แต่กลับไม่มีกล้องวงจรปิด จึงได้ไปแจ้งความไว้ ทั้งนี้ ตนมั่นใจว่าได้ล็อครถแล้วด้วยรีโมท และเชื่อว่ามิจฉาชีพได้ส่งสัญญาณรบกวนรีโมท ก่อนเข้าไปขโมยทรัพย์สิน
ขณะที่ทางด้าน อ.ดุสิต สุขสวัสดิ์ ภาควิชาวิศวกรรมไฟฟ้า สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง เปิดเผยว่า มีกรณีการบล็อกสัญญาณรีโมทรถยนต์เพื่อก่ออาชญากรรม โดยคนร้ายมักจะก่อเหตุในตอนกลางวัน สถานที่ที่คนพลุกพล่าน และไม่นึกว่าจะมีโจรทั้งในปั๊มน้ำมัน ห้างสรรพสินค้า ซึ่งดูไม่อันตราย โดยพวกนี้จะแต่งตัวดีมีรถขับและรอจังหวะฉวยของในรถไป ซึ่งเรื่องที่เกิดขึ้นตนไม่ได้หมายความว่าให้ทุกคนเลิกใช้รีโมท แต่อยากให้ทุกคนเช็กรถอีกครั้งว่า การที่กดรีโมทไปแล้ว รถได้ล็อกแล้วจริงหรือไม่เพื่อความปลอดภัยของทรัพย์สินของท่าน
สำหรับวิธีป้องกันภัยจากการถูกคนร้ายบล็อกสัญญาณรีโมท มีดังนี้
1. ระวังตัวในลานจอดรถ ลานจอดรถคือเป้าหมายที่สำคัญของโจรประเภทนี้ โดยมิจฉาชีพจะแอบซุ่มอยู่บริเวณเสาในระยะที่พวกเขาสามารถสกัดสัญญาณได้ ดังนั้น จึงควรสังเกตรอบตัวให้ดี หากมีคนอยู่ในบริเวณดังกล่าว หลังกดรีโมทแล้วควรเช็กให้แน่ใจว่า รถถูกล็อกเรียบร้อยแล้ว 2. จอดในที่พลุกพล่านหรือมีคนผ่านบ่อย คนร้ายจะมาจัดการรถคุณหลังจากที่คุณไปแล้ว ซึ่งหากจอดในที่พลุกพล่าน คนร้ายจะไม่ค่อยกล้าเสี่ยงลงมือเท่าใด และที่สำคัญสถานที่ดังกล่าวควรจะมีกล้องวงจรปิดติดตั้งอยู่ด้วย เพราะหากเกิดเหตุร้ายจะได้มีหลักฐานในการติดตามตัวคนร้ายได้ 3. สังเกตคนมีพิรุธ บางทีการสังเกตช่วยคุณได้มาก ลองสังเกตคนที่ถืออุปกรณ์บางอย่างบ้าง อาจจะมีเสาวิทยุ หรืออาจจะคล้าย ๆ เครื่องปาล์ม แล้วป้วนเปี่ยนไปมา หรือดูว่ามีคนจับจ้องเราทำกิจกรรมหรือไม่ ถ้าใช่อย่าวางใจโดยเด็ดขาด แจ้งหน่วยรักษาความปลอดภัยตรวจสอบดูหน่อยก็ดี 4. เช็กซ้ำ หลายคนวางใจเทคโนโลยีมากเกินไปจนลืมคิดถึงภัยที่ตามมา ความจริงการป้องกันที่ดีเริ่มที่เราเองด้วยการเช็กรถซ้ำว่าล็อกหรือไม่จะช่วยป้องกันได้มากที่สุด หรือหากในกรณีที่เราพบว่ารีโมทไม่ทำงาน ซึ่งอาจจะเพราะโดนโจรกรรมหรือแบตเตอรี่อ่อน ให้คุณใช้วิธีเบสิคที่สุด คือ การล็อกด้วยกุญแจจะสามารถป้องกันการถูกโจรกรรมได้ 5. อย่าวางของมีค่าไว้ในห้องโดยสาร คนส่วนใหญ่มักจะทิ้งของมีค่าไว้ในห้องโดยสารเสมอ ซึ่งเป็นการล่อหูล่อตาโจรอย่างยิ่ง และจะทำให้รถของคุณตกเป็นเป้าหมายของการโจรกรรม ดังนั้น อย่าประมาท แม้จะลงจากรถเพียงชั่วประเดี๋ยวก็ตาม ทางที่ดีควรเก็บไว้ในกระโปรงหลังรถ หรือพกติดตัวไปด้วย
