เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ภาพประกอบไม่เกี่ยวข้องกับข้อมูล
ศิวดล ถาวงศ์ พนักงานธนาคารกสิกรไทย ถูกจับ หลัง ศิวดล ถาวงศ์ ปลอมลายเซ็น ยักยอกเงินลูกค้า 15 ล้าน เจ้าตัวเผย ก่อเหตุคนเดียวเพราะเห็นช่องทางยักยอกได้ ตำรวจยังไม่ปักใจเชื่อ
จากกรณีที่ กรรมการผู้มีอำนาจของ บจก.โปรเช็กฟิลต์ ประกอบธุรกิจผลิตและจำหน่ายเคมีภัณฑ์ทางการเกษตร เข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวนสน.โชคชัย ว่า ถูกยักยอกเงินสด 15 ล้านบาทไปจากบัญชีธนาคารกสิกรไทย สาขาสี่แยกวังหิน เมื่อวันที่ 19 มิถุนายนที่ผ่านมา ล่าสุดเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ติดตามตัวคนร้ายและจับกุมตัว นายศิวดล หรืออาร์ม ถาวงศ์ อายุ 23 ปี อยู่บ้านเลขที่ 70/6 หมู่ 6 ต.วรนคร อ.ปัว จ.น่าน ในข้อหาร่วมกันปลอมเอกสารสิทธิ และใช้เอกสารสิทธิปลอมและลักทรัพย์ที่เป็นของนายจ้าง หรืออยู่ในความครอบครองของนายจ้างโดยร่วมกันกระทำความผิดตั้งแต่ 2 คนขึ้นไป
โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมผู้ต้องหาได้ในห้องพักเลขที่ 205 ไลท์อิมเมจคอนโดมิเนียม ซอยเสือใหญ่อุทิศ 36 แขวงจอมพล เขตจตุจักร กรุงเทพฯ พร้อมของกลางเงินสด 5,900,000 บาท บรรจุในกระเป๋า 2 ใบซุกซ่อนไว้ในห้องพัก รถยนต์ยี่ห้อ เรนจ์โรเวอร์ สีดำ ทะเบียนป้ายแดง ต 0031 กรุงเทพมหานคร นาฬิกาข้อมือ 2 เรือน สมุดบัญชีเงินฝาก 3 เล่ม มียอดเงินรวมกัน 2,840,000 บาท สลากออมสิน จำนวนเงิน 500,000 บาท 1 ฉบับ และแหวนทอง สร้อยคอทองคำรูปพรรณ
ทั้งนี้ พ.ต.อ.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ ผกก.3 บก.สส.บช.น. เผยในการแถลงข่าวจับกุม นายศิวดล ถาวงศ์ เมื่อวานนี้ (29 มิถุนายน 2556) ว่า หลังจากได้รับแจ้งจากผู้เสียหาย ทางชุดคลี่คลายคดีของ บก.สส.บช.น. ก็ร่วมกันกับตำรวจ สน.โชคชัย และผู้บริหารธนาคารกสิกรไทย ตรวจสอบเส้นทางการเงินอย่างละเอียด พบหลักฐานชัดเจนทำให้เชื่อว่า นายศิวดล ผู้ต้องหาซึ่งเป็นพนักงานประจำเคาน์เตอร์รับฝาก-ถอนของธนาคารกสิกรไทย ที่เพิ่งทำงานมาได้ประมาณ 9 เดือน น่าจะเกี่ยวข้องกับการยักยอกเงิน จึงรวบรวมพยานหลักฐานและขออนุมัติหมายจับจากศาลอาญา และบุกเข้าจับกุมตัวไว้ได้พร้อมของกลางทั้งหมดที่ห้องพัก ในขณะที่นายศิวดลกำลังพักผ่อนอยู่ในห้องดังกล่าว
สำหรับข้อมูลจากการสอบสวน นายศิวดล ให้การว่า เพิ่งเรียนจบคณะบริหารทรัพยากรมนุษย์ จากมหาวิทยาลัยราชภัฏแห่งหนึ่งในปีการศึกษาล่าสุด โดยสมัครเข้าทำงานตำแหน่งบริการและงานขายของธนาคารกสิกรไทย สาขาสี่แยกวังหิน ตั้งแต่จบใหม่ ๆ และเริ่มจากการเป็นพนักงานทดลองงาน 4 เดือน ก่อนจะบรรจุเป็นพนักงานประจำ อีก 5 เดือน พร้อมทั้งยอมรับว่าเป็นผู้ก่อเหตุยักยอกเงินทั้งหมดจากลูกค้าบริษัทดังกล่าวจริง หลังพบว่ามีเงินอยู่ในบัญชีจำนวนมาก และพบช่องโหว่ที่ยักยอกออกมาได้ จึงดำเนินการโดยวางแผนล่วงหน้าประมาณ 1 เดือน
ด้านนายศิวดล ถาวงศ์ เผยว่า จุดเริ่มต้นมาจากการที่เขาเจอบัตรประชาชนของนายชยุตม์ (ขอสงวนนามสกุล) ซึ่งไม่เคยรู้จักกันมาก่อน ตกอยู่ที่พื้น จึงใช้เป็นเอกสารขอเปิดบัญชีกับธนาคารสาขาที่ตนเองทำงานอยู่ จากนั้นจึงปลอมลายเซ็นของกรรมการผู้มีอำนาจของบริษัทผู้เสียหาย สั่งซื้อเช็ค และสั่งจ่ายเงิน 15 ล้านบาท แล้วจึงจ้างมอเตอร์ไซค์รับจ้างให้ไปเบิกเงินดังกล่าวนำเข้าบัญชีนายชยุตม์ที่เปิดรอไว้แล้ว เมื่อธนาคารอนุมัติเงินก็นัดหมายไปเอาสมุดบัญชี จ่ายค่าจ้าง 5,000 บาท ก่อนจะแยกย้ายกันไป
นอกจากนี้ นายศิวดล ยังเผยว่า ตนเองไม่ได้ติดยาเสพติด ไม่เคยเป็นหนี้ และไม่ได้เล่นการพนัน เพียงแค่พบช่องทางที่จะยักยอกเงินได้จึงตัดสินใจวางแผนก่อเหตุเพียงลำพัง ส่วนเงินที่ได้ก็นำไปเข้าบัญชีส่วนตัว บัญชีของแฟนสาว และซื้อรถป้ายแดง บางส่วนก็นำไปซื้อเครื่องประดับและสลากออมสินเก็บไว้
อย่างไรก็ตาม ทางเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมยังไม่ปักใจเชื่อคำให้การของผู้ต้องหามากนัก เนื่องจากยอดเงินสูญหายยังไม่ปรากฏว่านำไปใช้จ่ายในเรื่องใดอีกเป็นจำนวนมาก ประกอบกับต้องตรวจสอบประวัติของผู้เกี่ยวข้องทั้งหมดก่อน โดยเฉพาะแฟนสาว และเจ้าของบัตรประชาชนที่ถูกนำมาเปิดบัญชี รวมถึงตามตัวมอเตอร์ไซค์รับจ้างที่ร่วมมือด้วยมาสอบสวนโดยละเอียดอีกครั้ง และหากพบว่ามีการทำผิดร่วมกัน ก็จะจับกุมส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก