เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ภาพประกอบไม่เกี่ยวข้องกับข้อมูล
เด็กออสเตรเลีย 4 ขวบ เสียชีวิต ด้วยอาการเลือดออกในกระเพาะอาหาร หลังกลืนถ่านกระดุมลงท้อง ด้านผู้เชี่ยวชาญออกมาจัดแคมเปญเตือนผู้ปกครองระวังภัยใกล้ตัวลูก
เมื่อวันที่ 2 กรกฎาคม 2556 เว็บไซต์เดลี่เมลของอังกฤษ มีรายงานว่า เกิดเหตุเด็กหญิงชาวออสเตรเลียวัย 4 ขวบ จากซันไชน์โคสต์ของออสเตรเลีย เสียชีวิตลงด้วยอาการเลือดออกภายใน หลังจากที่เธอได้กลืนถ่านกระดุม ซึ่งเป็นแบตเตอรี่ลิเธียมลงไปในท้อง
รายงานระบุว่า เมื่อวันที่ 30 มิถุนายนที่ผ่านมา เด็กหญิงคนดังกล่าวได้ถูกพามาที่โรงพยาบาลท้องถิ่นอย่างเร่งด่วนจากอาการเลือดออกในกระเพาะอาหาร ก่อนที่เจ้าหน้าที่ของโรงพยาบาลจะรีบส่งตัวเธอเข้ามารับการรักษาต่อจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญที่โรงพยาบาลบริชเบนในทันที แต่ถึงแม้ว่าทีมแพทย์จะพยายามทำการรักษาอย่างสุดความสามารถแล้ว เด็กหญิงตัวน้อยก็เสียชีวิตลงในช่วงบ่ายวันนั้น
หลังเกิดเหตุสลด ซูซาน ทีรด์ส จาก คิดเซฟ ควีนส์แลนด์ ได้ออกมาเตือนผู้ปกครองให้มีความระมัดระวังและต้องเก็บถ่านกระดุมซึ่งใช้กับเครื่องใช้ภายในครัวเรือนหลายอย่าง เช่นของเล่นและรีโมท ออกให้ห่างจากมือเด็ก โดยซูซาน เผยว่า หากเด็กเผลอกลืนถ่านกระดุมลงไป ถ่านกระดุมจะเข้าไปติดอยู่ภายในหลอดอาหารหรือรอบ ๆ กล่องเสียง จากนั้นภายใน 1 ชั่วโมง น้ำลายก็จะทำปฏิกิริยาทางเคมีกับถ่านขึ้น จนถ่านเริ่มเกิดการเผาไหม้ ทำให้หลอดอาหาร และลามไปถึงอวัยวะต่าง ๆ ที่อยู่ใกล้เคียง เช่น เส้นเลือดใหญ่ กระดูกสันหลัง
หรือหากถ่านกระดุมนั้นไม่ติดคอแล้วถูกกลืนลงไปภายในกระเพาะอาหาร สารเคมีในถ่านก็จะเกิดการรั่วซึม ทำปฏิกิริยากับน้ำย่อย จนทำให้เลือดออกภายในกระเพาะอาหารของเด็กอยู่ดี ซึ่งในกระบวนการรักษาหลังจากนั้น เด็กจะต้องได้รับอาหารผ่านสายยาง ใช้ท่อช่วยหายใจ รวมทั้งยังต้องเข้ารับการผ่าตัดอีกหลายครั้ง
นอกจากนี้ ซูซาน ยังได้ประมาณว่า ในทุก ๆ สัปดาห์ จะมีเด็กทั่วประเทศออสเตรเลียถึง 4 คนที่ถูกนำตัวเข้ามายังแผนกฉุกเฉินเนื่องจากอาการไม่สบายที่เกิดจากการกลืนถ่านกระดุมลงไป และนั่นจึงทำให้คิดเซฟได้เปิดตัวแคมเปญควบคุมการวางทิ้งแบตเตอรี่ เพื่อกระตุ้นให้ผู้ปกครองตระหนักถึงอันตรายของแบตเตอรี่ลิเธียม ซึ่งเป็นภัยใกล้ตัวของเด็ก ๆ
