เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก ครอบครัวข่าว 3
ดีเอสไอบุกตรวจสาขาสำนักสงฆ์ขันติธรรม พบกุฏิแต่งหรูหราแต่ปิดล็อกไว้อย่างแน่นหนา-พบหลักฐานซื้อรถเพิ่ม มอบให้เจ้าคณะจังหวัด-อำเภอ ด้านยายของเมีย เณรคำ เปลี่ยนใจไม่แจ้งความ อ้างจะไปฟ้องศาลเองหวังค่าเลี้ยงดู 30-40 ล้านบาท
สืบเนื่องจากเมื่อวานนี้ (10 กรกฎาคม 2556) เจ้าหน้าที่จากดีเอสไอและสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ลงพื้นที่เก็บตัวอย่างเนื้อเยื่อจากสองแม่ลูก ซึ่งอ้างว่าเป็นลูกและเมียของเณรคำเพื่อนำมาเปรียบเทียบกับดีเอ็นเอของพ่อและแม่ของเณรคำ แต่ปรากฏว่าพ่อและแม่ของเณรคำไม่ยอมให้ตรวจนั้น
ล่าสุด วันนี้ (11 กรกฎาคม 2556) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่ดีเอสไอจะเข้าสอบปากคำพ่อและแม่ของเณรคำอีกครั้งหนึ่ง หลังจากที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่ไม่ได้รับความร่วมมือ พร้อมกับประสานตำรวจ สภ.พิบูลมังสาหาร จ.อุบลราชธานี นำกำลังบุกเข้าค้นสำนักสงฆ์วัดขันติธรรมบารมี สาขา 1 ถนนพิบูล-โขงเจียม ซึ่งอยู่ห่างจากบ้านของพ่อและแม่เณรคำประมาณ 1 กิโลเมตร โดยสำนักสงฆ์ดังกล่าว ตั้งอยู่บนเนื้อที่ 20 ไร่ ล้อมรั้วสูงแน่นหนา ภายในมีกุฏิสงฆ์ ศาลาขนาดใหญ่ และยังพบบ้านน็อคดาว 5 ห้อง ตกแต่งด้วยเฟอร์นิเจอร์หรูหรา เพื่อใช้รับรองแขกวีไอพีของเณรคำ อย่างไรก็ดี เจ้าหน้าที่จะขอหมายศาลกลับมาตรวจค้นสำนักสงฆ์วัดขันติธรรมบารมี สาขา 1 อย่างละเอียดอีกครั้ง
ส่วนทางด้านตำรวจกองปราบปรามได้เข้าค้นที่พักสงฆ์วัดป่าขันติธรรม อ.กันทรารมย์ จ.ศรีสะเกษ เพื่อตรวจสอบและหาข้อมูลเพิ่มเติมนำมาประกอบการพิจารณาข้อเท็จจริงเกี่ยวข้องกับรูปคดีของเณรคำ ปรากฏว่าบริเวณกุฏิสงฆ์ภายในที่พักสงฆ์ถูกล็อกประตูไว้ รวมทั้งกุฏิของพระวิรพลก็ถูกปิดล็อกไว้อย่างแน่นหนา ซึ่งวันนี้เจ้าหน้าที่จะประสานเจ้าคณะจังหวัดศรีสะเกษ ฝ่ายธรรมยุติ เข้าตรวจค้นอีกครั้ง
นอกจากนี้ นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ยังได้เปิดเผยความคืบหน้าคดีเณรคำว่า ภายหลังจากการลงพื้นที่ตรวจสอบความเกี่ยวข้องระหว่างหลวงปู่เณรคำกับรถหรูว่ามีการฟอกเงินหรือไม่ พบว่ามีการสั่งซื้อรถยนต์อีก 35 คัน รวมมูลค่ากว่า 12 ล้านบาท เป็นรถยนต์โตโยต้า รุ่นคัมรี่ ป้ายแดง 2 คัน จดทะเบียนในชื่อเจ้าคณะจังหวัดและเจ้าคณะอำเภอ ซึ่งเป็นพระเถระชั้นผู้ใหญ่
นางเผย สีหะวงษ์
ขณะเดียวกัน ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า ที่บ้านโนนจาน ต.โพธิ์ อ.เมือง จ.ศรีสะเกษ นางเผย สีหะวงษ์ อายุ 82 ปี ยายของหญิงสาวที่อ้างว่าเป็นภรรยา ของ พระวิรพล สุขผล หรือ พระเณรคำ ฉัตติโก ประธานสำนักสงฆ์ขันติธรรม ตั้งแต่อายุ 14 ปี ตัดสินใจไม่เดินทางไปแจ้งความเอาผิด พระวิรพล ที่ สภ.เมืองศรีสะเกษ
ซึ่งต่อมาได้รับการเปิดเผยทางโทรศัพท์จากชายที่อ้างว่าเป็นน้าชายของหญิงผู้เสียหาย ระบุว่า น.ส.เอ (นามสมมติ) และญาติพี่น้องจะพา นางเผยไปยื่นฟ้องต่อศาลจังหวัดศรีสะเกษเอง เนื่องจากว่าหากให้เจ้าหน้าที่ของทางราชการนำไปแจ้งความต่อพนักงานสอบสวน น.ส.เอ จะไม่ได้เงินค่าเสียหายและค่าเลี้ยงดูจากพระวิรพล ดังนั้น น.ส.เอ จึงจะให้ทนายความยื่นฟ้องต่อศาลด้วยตนเอง เพื่อหวังว่าจะได้เงินค่าเลี้ยงดูและค่าเสียหายจากพระวิรพล โดยเบื้องต้นจะเรียกร้องค่าเสียหายและค่าเลี้ยงดูประมาณ 30-40 ล้านบาท
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก
