เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบุคณภาพประกอบจาก รายการเรื่องเล่าเช้านี้ โพสต์โดยคุณ LAKORNHD ThaiTV สมาชิกเว็บไซต์ยูทูปดอทคอม
ลุงของน้องฟลุค เหยื่อกระสุนยิงสกัดรถจับแก๊งค้ายาหน้าโรงหนังปารีส เมื่อปี 2552 ยอมถอนอุทธรณ์ หลัง 3 ตำรวจขอเจรจาชดใช้ค่าเสียหาย เป็นเงิน 1 ล้านบาท
เมื่อเวลา 10.00 น. ของวันที่ 27 สิงหาคม 2556 ที่ห้องพิจารณา 912 ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก ศาลนัดฟังคำสั่งศาลอุทธรณ์ กรณีศาลชั้นต้นมีคำพิพากษาในคดีที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีพิเศษ 4 และนายสถาพร ศรีสะอาด จำเลยคดียาเสพติด ซึ่งเป็นบิดาของ ด.ช.จักรพันธ์ ศรีสะอาด หรือน้องฟลุค ร่วมกันเป็นโจทก์ยื่นฟ้องอดีตเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.บางชัน 3 นาย เมื่อวันที่ 15 กันยายน 2552 เป็นจำเลยในความผิดฐานร่วมกันฆ่าผู้อื่นและร่วมกันพยายามฆ่าผู้อื่น ประกอบด้วย
- ด.ต.พิพรรธ แสนอินทร์ อายุ 46 ปี
- จ.ส.ต.ภานุมาศ ชนะขำ อายุ 41 ปี
- ส.ต.อ.อนุสรณ์ แท่นสุวรรณ อายุ 41 ปี
ทั้งนี้ โจทก์ได้ระบุว่า เมื่อวันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2546 เวลาประมาณ 19.30 น. ขณะนั้นจำเลยทั้งสาม ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวน สน.บางชัน ร่วมกันใช้อาวุธปืนยิงโดยมีเจตนาฆ่า น.ส.พรวิภา เกิดบุญเรือง ขณะขับรถยนต์ฮอนด้า แอคคอร์ด ทะเบียน อม 6176 กทม.
โดยกระสุนทะลุตัวถังรถถูกร่างของ น้องฟลุค อายุ 9 ปีเศษ บุตรชาย น.ส.พรทิวา และนายสถาพร ที่นอนหลับอยู่ที่เบาะหลัง จำนวน 2 นัด บริเวณหลังและอกด้านขวา เป็นเหตุให้เสียชีวิตในเวลาต่อมา ส่วน น.ส.พรทิวาไม่ถูกกระสุน จึงไม่ถึงแก่ความตาย เหตุเกิดที่หน้าโรงหนังปารีส ตลาดสะพานขาว แขวงมหานาค เขตดุสิต กทม. ซึ่งในชั้นสอบสวนและชั้นพิจารณาคดี จำเลยทั้งสามให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา
อย่างไรก็ตาม ศาลชั้นต้นได้พิพากษาเมื่อวันที่ 28 กรกฎาคม 2554 ว่า การกระทำของพวกจำเลยไม่เป็นความผิดฐานเจตนาฆ่า หรือพยายามฆ่าผู้อื่น แต่การปฏิบัติหน้าที่ย่อมต้องมีความระมัดระวังในการใช้อาวุธปืน จำเลยทั้งสามจึงมีความผิดฐานกระทำประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย พิพากษาจำคุกคนละ 2 ปี ปรับคนละ 10,000 บาท แต่เมื่อพิเคราะห์พฤติการณ์แล้วเห็นว่า จำเลยทั้งสามกำลังปฏิบัติหน้าที่และไม่เคยได้รับโทษจำคุกมาก่อน จึงให้รอลงอาญาเป็นเวลา 2 ปี
หลังจากนั้นอัยการโจทก์พิจารณาแล้วไม่อุทธรณ์ต่อ แต่นายสมชาย ลุงของน้องฟลุค ซึ่งเป็นโจทก์ร่วม มีความติดใจ จึงทำการยื่นอุทธรณ์ ต่อมาทางทนายของจำเลยทั้งสาม ได้ติดต่อขอประนีประนอมข้อพิพาทเข้าสู่กระบวนการไกล่เกลี่ย โดยได้ตกลงจะชดใช้ค่าเสียหายต่อโจทก์เป็นเงินจำนวน 1 ล้านบาท ซึ่งโจทก์ร่วมได้ตกลงไกล่เกลี่ยและถอนการยื่นอุทธรณ์คดี ทำให้คดีจึงเป็นที่สิ้นสุด
ภายหลัง นายสมชาย กล่าวว่า ในเมื่อศาลได้มีคำสั่งแล้วว่า น้องฟลุคได้เสียชีวิตจากการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ที่ได้ทำตามคำสั่งของผู้บังคับบัญชา และเมื่อมีการตกลงไกล่เกลี่ยชดใช้ค่าเสียหาย ตนจึงได้ถอนการยื่นอุทธรณ์ ส่วนที่ว่าจะยื่นฟ้องร้องต่อสำนักงานตำรวจแห่งชาติต่อไปหรือไม่นั้น คงต้องปรึกษาข้อกฎหมายจากสภาทนายความ และกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติที่คอยช่วยเหลือในคดีนี้ก่อน
ขณะที่ ด.ต.พิพรรธ กล่าวว่า ขอขอบคุณลุงของน้องฟลุค ที่เข้าในการทำงานของตำรวจชั้นผู้น้อย และยอมถอนฟ้องในคดีนี้ ซึ่งคดีอาญาก็ถือว่าสิ้นสุดแล้ว เนื่องจากศาลชั้นต้นพิพากษาจำคุก 2 ปี แต่โทษจำคุกให้รอลงอาญา 2 ปี โดยญาติผู้เสียหายที่เป็นโจทก์ร่วมได้ถอนอุทธรณ์แล้ว เพราะไม่ติดใจเอาความแต่อย่างใด
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก
