เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก เฟซบุ๊ก หลวงปู่สุภา กันตสีโล
กองปราบฯ เล็งสอบเงิน 22 ล้านของหลวงปู่สุภา กันตสีโล ว่าหายไปไหน หลังหลวงปู่สุภา มรณภาพ ด้าน ผอ.พุทธศาสนา ภูเก็ต ชี้ น่าจะเป็นการปล่อยข่าวเรื่องเงินของผู้ไม่หวังดี เพราะการใช้เงินนี้มีการตรวจสอบอย่างใกล้ชิด
หลังจากที่ หลวงปู่สุภา กันตสีโล เกจิชื่อดัง 5 แผ่นดินที่มรณภาพด้วยโรคชรา สิริอายุ 119 ปี ตั้งแต่วันที่ 2 กันยายน 2556 ที่ผ่านมา ล่าสุด เมื่อวันที่ 4 กันยายน 2556 ได้มีพระสงฆ์และพุทธศาสนิกชนร่วมสรงน้ำศพหลวงปู่สุภา ก่อนที่ในเวลา 17.30 น. วันเดียวกัน จะมีพิธีถวายน้ำหลวงสรงศพ ซึ่งมีนายบุญส่ง เตชะมณีสถิต ผู้ว่าราชการจังหวัดสกลนคร เป็นประธาน จากนั้นก็จะนำศพหลวงปู่บรรจุไว้ในโลงแก้ว เก็บไว้ที่ศาลากลางน้ำ วัดคอนสวรรค์ บ้านค้อเขียว ต.ค้อเขียว อ.วาริชภูมิ จ.สกลนคร ต่อไป
ด้านลูกศิษย์ผู้ใกล้ชิดหลวงปู่สุภา เปิดเผยว่า จากการสอบถามหลาย ๆ ฝ่าย น่าจะเก็บสังขารหลวงปู่ไว้ก่อน จนกว่าจะเสร็จสิ้นฤดูการทำนาหรือออกพรรษาไปแล้ว เพราะในช่วงเวลานี้จะเกิดปัญหาเรื่องการเดินทางมาวัดและที่จอดรถได้ อาจส่งผลกระทบถึงชาวนาและนาข้าว เนื่องจากวัดตั้งอยู่ในพื้นที่ทุ่งนาชาวบ้าน
ขณะเดียวกัน ความคืบหน้ากรณีพระปลัดวิชาญ ปวโร ลูกศิษย์ผู้ใกล้ชิดหลวงปู่สุภา ได้เข้าไปแจ้งความเพื่อให้กองปราบปรามเข้าตรวจสอบทรัพย์สินต่าง ๆ ของหลวงปู่ ตั้งแต่วันที่ 30 สิงหาคมที่ผ่านมา โดยเฉพาะการเน้นตรวจไปที่เงินฝากในธนาคารจำนวน 22 ล้านบาท ซึ่งถูกถอนออกจากบัญชีจนหมด ทาง พ.ต.อ.เอนก เตาสุภาพ พนักงานสอบสวนผู้ทรงคุณวุฒิ เปิดเผยว่า การแจ้งความดังกล่าว พระปลัดวิชาญได้นำหนังสือรับมอบอำนาจจากหลวงปู่สุภา มีลายนิ้วมือแทนการลงนามอยู่ในหนังสือมอบหมายเรียบร้อย
ทั้งนี้ พ.ต.อ.เอนก เปิดเผยอีกว่า พระปลัดวิชาญ ระบุว่า หลังจากที่หลวงปู่เริ่มอาพาธประมาณ 2 ปีที่แล้ว ได้ย้ายจากวัดสิริสีลสุภาราม จ.ภูเก็ต ไปจำวัดที่วัดคอนสวรรค์ บ้านเกิด ส่วนวัดที่ จ.ภูเก็ต ก็มีเจ้าอาวาสรูปใหม่ พร้อมกับกรรมการบริหารวัดชุดใหม่เข้ามาจัดการ โดยที่เดือนเมษายนที่ผ่านมา หลังจากที่ได้ตรวจสอบทรัพย์สินต่าง ๆ ของหลวงปู่ พบว่า เงินในบัญชีธนาคารกสิกรไทย สาขาภูเก็ต จำนวน 2 เล่ม ยอดเงินกว่า 22 ล้านบาท, รถยนต์โตโยต้า อัลพาร์ด และพระเครื่องจำนวนหนึ่ง ได้ถูกยักย้ายออกไป และเมื่อเจ้าหน้าที่ตรวจสอบก็พบว่า บัญชีดังกล่าวถูกปิดไปแล้ว ดังนั้นเจ้าหน้าที่ต้องตรวจสอบว่าการใช้จ่ายดังกล่าวถูกต้องหรือไม่ ใครเป็นผู้รับผิดชอบ ซึ่งถ้าหากพบว่าเงินที่ไหลออกไป ไปเข้าบุคคลอื่นหรือใช้จ่ายผิดวัตถุประสงค์ ก็ต้องดำเนินคดี
ด้านนายฉัฎฐ์ปวิชญ์ จินาพงศ์ ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนา จ.ภูเก็ต เปิดเผยถึงเงิน 22 ล้านบาทของหลวงปู่สุภาว่า จากการตรวจสอบเบื้องต้นของพระมหาทวีศักดิ์ นันทธัมโม เจ้าอาวาสวัดสิริสีลสุภาราม พบว่า เงินดังกล่าวได้นำมาสร้างเจดีย์ภายในวัด ซึ่งสร้างเสร็จไปแล้วเกินกว่าครึ่งหนึ่ง และเรื่องดังกล่าวก็มีคณะกรรมการวัดคอยตรวจสอบอยู่เสมอ ด้วยเหตุนี้ตนจึงเชื่อว่า ข่าวลือที่เกิดขึ้นน่าจะเป็นการปล่อยข่าวเสียมากกว่า
นอกจากนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่วัดสิริสีบสุภาราม ซึ่งเป็นวัดสุดท้ายที่หลวงปู่สุภาสร้างขึ้น มีประชาชนสนใจรถโตโยต้า อัลพาร์ด สีบรอนซ์เงิน ป้ายทะเบียน กท 2438 ภูเก็ต เป็นจำนวนมาก เพราะเป็นรถยนต์ประจำตัวหลวงปู่ที่ใช้เดินทางตลอด
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก
