เร้าสัญชาตญาณความแรงไปกับคาสตรอลและ อนันดา
ที่การแข่งขัน MotoGP สนามเซปังเซอร์กิต
มาเลเซีย
ถือว่าเป็นทริปพิเศษที่น่าจดจำที่สุดครั้งหนึ่งของอนันดา เอเวอริ่งแฮม กับการบินลัดฟ้าไปเมืองกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย เพื่อไปชมการแข่งขันMotoGP 2013 ซึ่งเปรียบเหมือนฟอร์มูล่าวันของแวดวงรถจักรยานยนต์เพราะนอกจากอนันดาจะเป็นแบรนแอมบาสเดอร์ของ คาสตรอล สปอนเซอร์ใหญ่ของทีมฮอนด้า เกรซินี่ ทีมแข่งรถจักรยานยนต์ทีมสำคัญที่ลงแข่งขันในรายการนี้แล้ว
ตัวอนันดาเองยังเป็นสิงห์นักบิดตัวจริงที่หลงใหลในการขี่มอเตอร์ไซด์อย่างจริงจังมานานการได้มาดูโมโตจีพีถึงขอบสนามสำหรับอนันดาจึงถือว่าพีค!
ทริปนี้คาสตรอลชวนอนันดาแวะไปกัวลาลัมเปอร์เป็นเวลา
3 วันเต็มของการแข่งขันโมโตจีพี โดยในวันแรก
พอล้อเครื่องบินแตะพื้นรันเวย์ของสนามบิน KLIA ปุ๊บ
อนันดาก็มุ่งหน้าไปยังสนามเซปัง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิตที่เดินทางแค่ครึ่งชั่วโมงจากสนามบินก็ถึงในทันที
เพราะถึงแม้การแข่งขันจะยังไม่เริ่ม แต่นักแข่งทุกคนก็มาลงสนามฝึกซ้อมในรอบ free
practice กันแล้ว
ที่สำคัญยังเป็นโอกาสให้อนันดาและทุกคนในทริปเข้าไปล้วงลึกถึงgarage ของทีม พูดคุยกับผู้จัดการทีมฮอนด้า เกรซินี่ กระทบไหล่นักแข่ง และสังเกตการณ์การทำงานเป็นทีมของทีมแข่งมอเตอร์ไซด์ระดับโลกอย่างใกล้ชิดซึ่งอนันดาดูจะมีคำถามมากมายตามประสาสิงห์นักบิดมาคอยถามตอบโต้กับสมาชิกของทีมอยู่ไม่ขาดโดยเฉพาะเรื่องน้ำมันหล่อลื่นที่รถแข่งแต่ละคันใช้ ซึ่งสำหรับทีมนี้ แน่นอนว่าเพราะมีคาสตรอลเป็นสปอนเซอร์ใหญ่ น้ำมันหล่อลื่นที่ใช้ก็ต้องเป็น คาสตรอล เพาเวอร์ วัน สูตรพิเศษที่ได้รับการพัฒนาขึ้นสำหรับรถจักรยานยนต์ 4 จังหวะเพื่อให้เร่งความเร็วได้เต็มสมรรถนะ แน่นอนที่สุด
วันที่ 2 ของทริปเป็นช่วงเวลาพักผ่อนก่อนที่บิ๊กเดย์จะมาถึงในวันรุ่งขึ้น อนันดาเลยขอแอบแว้บไปเที่ยวในตัวเมืองกัวลาลัมเปอร์สักหน่อยนอกจากการแวะไปเดินเล่นชมเมืองซื้อของที่ระลึกและหาอะไรอร่อยๆ ทานกันในกัวลาลัมเปอร์ อีกหนึ่งอย่างที่อนันดาและทุกคนต้องทำก็คือการไปถ่ายภาพคู่กับแลนมาร์คสำคัญของมาเลเซียนั่นคือตึกเปโตรนาสอาคารแฝดที่สูงที่สุดในโลกซึ่งอนันดาบอกว่าถ่ายเท่าไหร่ก็ไม่มีเบื่อ
มาถึงวันสุดท้ายของทริปซึ่งเป็นวันแข่งขันโมโตจีพี 2013 ความตื่นเต้นเริ่มขึ้นตั้งแต่เดินเข้าไปในสนามเพราะฝูงมหาชนทั้งชาวมาเลเซียและชาวต่างชาติระดมกันมาที่สนามเซปังจนแน่นขนัดไปหมด
แต่อนันดายังคงสนุกกับการมาสนามเซปังครั้งนี้อยู่เพราะบรรยากาศของวันแข่งขันมันสนุกเร้าใจกว่าวันแรกที่มาถึงมาก
พอถึงช่วงเวลาแข่งขันอนันดาดูจะตื่นเต้นกว่าใครๆ เพราะนอกจากจะได้เข้าไปชมการแข่งขันจริงบนอัฒจันทร์แล้ว
คาสตรอลยังจัดหาบัตรผ่านแบบเอ็กซ์คลูซีฟให้อนันดาเข้าไปชมการแข่งขันแบบเกาะขอบสนามด้วย
เรียกว่าเห็นกันจะๆ ชัดๆ เวลาที่นักแข่งบิดแซงไม่ว่าจะในทางตรง
หรือตอนเข้าโค้งซ้ายหรือขวาแบบตัวเกือบจะแนบกับพื้นถนน
อนันดาในฐานะคนที่ชอบขับมอเตอร์ไซด์ ไม่ตื่นเต้นก็ไม่รู้จะว่ายังไงแล้ว!
หลังจบการแข่งขันและทุกคนในทีม Honda
Gresini แสดงว่าความยินดีกับอัลวาโร เบาติสตา นักแข่งของทีมฮอนด้า เกรซินี่ที่สามารถบิดเข้าเส้นชัยในอันดับที่ 5
ได้แม้ว่าจะต้องเจอปัญหากับเบรคหน้าจนทำให้เสียเวลาในช่วงแรกไปพักหนึ่งก็ได้เวลาที่อนันดาและทุกคนจากเมืองไทยจะโบกมือลาเมืองกัวลาลัมเปอร์มุ่งหน้ากลับกรุงเทพฯ
โดยก่อนขึ้นบิน ทีมคาสตรอลยังพาอนันดาและทุกคนไปส่งท้ายด้วยอาหารจีนมื้ออร่อยเป็นการส่งท้ายทริปและประสบการณ์แบบCome Alive ครั้งพิเศษครั้งนี้จากคาสตรอลสำหรับทุกคนอย่างน่าประทับใจ
**************************