เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
พ.ต.ท.รัฐวิทย์ แสนทวีสุข บุคคลในจดหมาย เอ็กซ์ จักรกฤษณ์ ถึงสรยุทธ ยืนยันบริสุทธิ์ใจ ไม่ได้หวังฮุบสมบัตินักแม่นปืนผู้ล่วงลับ ชี้ทำไปเพราะความหวังดี เผยรู้จักกันมา 6 ปี เพราะภรรยาของตัวเองและหมอนิ่มสนิทกัน พยายามช่วยเอ็กซ์ให้เลิกยา แต่เอ็กซ์ไม่พอใจเลยไม่ชอบตัวเองและเขียนชื่อพาดพิงดังกล่าว ด้านตำรวจตัดประเด็นวงการพระเครื่องและสมาคมยิงปืนออก ชี้ไม่นำพาไปสู่ประเด็นการสังหาร
กลายเป็นประเด็นร้อนที่สังคมจับตามองอย่างมาก สำหรับกรณีที่ เอ็กซ์ จักรกฤษณ์ พณิชย์ผาติกรรม ได้เขียนจดหมายถึง นายสรยุทธ สุทัศนะจินดา พิธีกรข่าวชื่อดัง ระบายความรู้สึกและเผยถึงเรื่องราวบาดหมาง โดยในจดหมายได้ระบุชื่อของ พ.ต.ท. นายหนึ่ง ซึ่งเป็นเพื่อนสนิท สร้างเรื่องใส่ร้ายตัวเองเพื่อหวังเอาทรัพย์สิน ตามที่ได้นำเสนอข่าวไปแล้วนั้น
ความคืบหน้าล่าสุด ช่วงเย็นวานนี้ (24 ตุลาคม 2556) มีรายงานว่า พ.ต.ท.รัฐวิทย์ แสนทวีสุข หรือ "สารวัตรหนุ่ม" ช่วยราชการสำนักงาน ผบก.ปคม. นายตำรวจที่มีชื่อในจดหมายดังกล่าว ได้ออกมาเปิดเผยถึงเรื่องราวดังกล่าวว่า ตนรู้จักกับเอ็กซ์มาประมาณ 6 ปี เนื่องจากภรรยาของตนสนิทกับ "หมอนิ่ม" หรือ พญ.นิธิวดี ภู่เจริญยศ และเอ็กซ์เคยมาร่วมงานวันเกิดของตนเลยรู้จักกัน หลังจากนั้นก็คบหากินเที่ยวกันมาตลอดจนสนิทสนม และเวลาที่เอ็กซ์มีปัญหาอะไรก็มักโทรศัพท์มาหาตนเสมอ
พ.ต.ท.รัฐวิทย์ กล่าวต่อว่า ก่อนหน้าที่เอ็กซ์จะเดินทางไปแข่งกีฬาโอลิมปิกไม่นาน ช่วงนั้นเอ็กซ์มีอาการทางจิต เป็นคนสองบุคลิก หรือที่เรียกว่า "ไบโพลาร์" เอ็กซ์เลยไปหาหมอเพื่อรักษาอาการดังกล่าวและรับยามากิน แต่เนื่องจากเมื่อกินยาแล้วจะทำให้ซ้อมยิงปืนไม่ได้ เอ็กซ์เลยต้องหยุดยาไป ต่อมาเอ็กซ์ก็เดินทางไปแข่งโอลิมปิก แต่ผลงานไม่ได้ตามที่หวัง เอ็กซ์จึงรู้สึกเสียใจมาก ตอนนั้นตนทราบว่าเอ็กซ์เริ่มใช้ยาเสพติด ตนเลยบอกให้เอ็กซ์เลิก ซึ่งเอ็กซ์ก็รับปาก แต่สุดท้ายเอ็กซ์ก็ไม่เลิก จนช่วงหลังเอ็กซ์เริ่มมีอาการหงุดหงิดง่ายและทำร้ายหมอนิ่มบ่อย ๆ จนหมอนิ่มกลัวไม่กล้าเข้าใกล้
สารวัตรหนุ่ม ยังกล่าวอีกว่า ทุกครั้งที่ครอบครัวเอ็กซ์มีปัญหา หมอนิ่มก็มักจะโทรมาระบายกับภรรยาของตนและตน ซึ่งนอกจากนี้ตนยังเคยห้ามปรามไม่ให้ทั้งคู่ทะเลาะกันหลายต่อหลายครั้ง จนหมอนิ่มทนไม่ไหวก็ขอให้ช่วยพาเอ็กซ์ไปรักษาอาการติดยาและอาการทางจิต โดยครั้งแรกได้วางแผนหลอกเอ็กซ์ว่าจะพาไปรับประทานอาหารที่รามอินทรา แต่พอรถวิ่งออกนอกเส้นทาง เอ็กซ์เขารู้และก็โกรธมาก จึงพยายามจะกระโดดลงจากรถ จนตนต้องพาเอ็กซ์กลับบ้าน หลังจากนั้นจึงมีเรื่องมีราวขึ้นโรงพัก
สำหรับจดหมายที่เอ็กซ์ระบุว่าไม่ชอบตน คงเป็นเพราะตนหลอกให้เขาไปบำบัดยาและจับเด็กเดินยาที่มาส่งให้เอ็กซ์ แต่ที่ตนทำก็เพราะความปรารถนาดี ซึ่งตนเองก็ไม่อยากยุ่งกับเรื่องของครอบครัวอื่น แต่ที่ทำลงไปเพราะความสงสารเอ็กซ์และหมอนิ่ม ส่วนล่าสุดตอนที่เอ็กซ์ติดคุกตนก็ไปเยี่ยม เมื่อภรรยาตนเห็นเอ็กซ์ถูกล่ามตรวนก็ถึงกับร้องไห้ ตนเลยอยากจะช่วยจึงไปหาทนายมาให้และนำโฉนดบ้านเป็นหลักทรัพย์เพื่อขอประกัน แต่เอ็กซ์ปฏิเสธและบอกว่าไม่ต้องมายุ่ง อีกทั้งยังไล่ให้ตนไปดูแลครอบครัวของตนและอย่ามายุ่งกับครอบครัวของเอ็กซ์อีก จากนั้นตนเลยไม่ยุ่ง แต่พอเอ็กซ์ออกมาจากคุกก็ได้ทราบความจริง จึงสำนึกผิดและให้เลขาฯ ส่วนตัวโทรมาบอกว่าจะมากราบขอโทษ แต่ตนปฏิเสธไปบอกว่ายกโทษให้แล้ว หลังจากนั้นไม่นานก็ทราบข่าวว่าเอ็กซ์ถูกยิงเสียชีวิต
พ.ต.ท.รัฐวิทย์ กล่าวต่อว่า หลังจากที่เกิดเหตุ พล.ต.ต.ฐิติราช หนองหารพิทักษ์ รอง ผบช.น. และ พล.ต.ต.ประยนต์ ลาเสือ ผบก.สส.บช.น. ได้เรียกตนไปสอบถามข้อเท็จจริงแล้ว และตนก็เล่าให้ท่านฟังถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นทั้งหมดว่าข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร ส่วนเรื่องที่เอ็กซ์คิดว่าตนไปกิ๊กกับหมอนิ่มและหวังฮุบสมบัตินั้น ตนก็ไม่รู้ว่าเหมือนกันว่ามันเป็นเพราะอะไร
ขณะเดียวกัน ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ผบช.น. ได้เชิญเซียนวงการพระเครื่องหลายแห่ง ทั้งท่าพระจันทร์ พันทิพย์ และที่นครปฐม เกือบ 10 คน ที่เคยเช่าพระกับเอ็กซ์ จักรกฤษณ์ รวมถึงเซียนอ๊อด นครปฐม หรือ นายสุนทร บุญญะทวีวัฒน์ เซียนพระที่สนิทสนมมากที่สุด มาพูดคุยหาข้อมูลทั้งวันเพื่อหาเบาะแส
ซึ่ง พล.ต.ท.คำรณวิทย์ เผยว่า หลังจากที่เอ็กซ์ออกจากเรือนจำก็ได้ไปอยู่ที่นครปฐมเกือบเดือน และได้คลุกคลีอยู่ในวงการพระเครื่อง ทั้งเช่าพระ ปล่อยพระ และเอาเงินมาแบ่งกันในบรรดาเซียนพระ เลยเชิญเซียนพระมาสอบถามว่ามีประเด็นขัดแย้งในเรื่องของส่วนแบ่งหรือพระปลอมหรือไม่ ปรากฏว่าไม่พบประเด็นนี้และไม่พบว่าจะนำพาไปสู่ประเด็นสังหาร อีกทั้งคนที่เคยเช่าพระก็ออกมาให้ข้อมูลหมด เลยตัดประเด็นนี้ทิ้งไป
ด้านเซียนอ๊อด บอกว่า หลังจากที่เอ็กซ์ออกจากเรือนจำก็ได้มาอาศัยอยู่กับตนประมาณ 3 สัปดาห์ และเคยบอกกับตนว่ามีปัญหาเรื่องความปลอดภัย เรื่องการหวาดระแวงจากคนใกล้ชิดที่ทำให้ติดคุก พอออกจากคุกมาเลยใช้ชีวิตอย่างระมัดระวัง และทุกครั้งเมื่อจะออกไปไหนมาไหนในตัวเมืองก็จะใช้รถของตนตลอดไม่ยอมใช้รถของตนเอง และถ้าออกจากนครปฐมเมื่อไรก็จะมีคนติดตามไปด้วยตลอด ส่วนวันเกิดเหตุเอ็กซ์เดินทางไปหาภรรยาเพื่อทานข้าวกัน และตนเคยได้ยินเอ็กซ์ทะเลาะกับญาติภรรยา แต่ตนก็ไม่ทราบว่าทะเลาะเรื่องอะไรกัน
ส่วนความขัดแย้งกับสมาคมยิงปืนนั้น เซียนอ๊อด บอกว่า ก็น่าจะตัดออกไปได้ เพราะก่อนหน้าที่เอ็กซ์จะถูกยิง ก็มีการเดินทางไปพูดคุยถึงเรื่องราวต่าง ๆ แล้ว และกำลังจะเก็บตัวเพื่อเดินทางไปแข่งในทีมชาติต่อไป
