พิชัย รัตตกุล ยื่นจดหมายลาออกจากคณะกรรมการปฏิรูปการเมือง ต่อยิ่งลักษณ์ ชี้ รัฐบาลไม่มีแนวโน้มสู่เป้าหมายดังกล่าว แถม พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ทำให้สถานการณ์แย่ลง
วันนี้ (5 พฤศจิกายน 2556) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายพิชัย รัตตกุล อดีตหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ได้ยื่นจดหมายลาออกจากตำแหน่งคณะกรรมการปฏิรูปการเมือง ต่อนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี โดยที่จดหมายฉบับนี้ มีเนื้อหายาวถึง 2 หน้ากระดาษ สามารถสรุปใจความได้ว่า การที่แต่งตั้งคณะกรรมการปฏิรูป ประชาชนคาดหวังให้ประเทศไทยเกิดการปรองดอง แต่ในช่วง 2-3 เดือนที่ผ่านมา ไม่มีแนวโน้มที่ไปสู่เป้าหมายดังกล่าว แถม พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ยิ่งทำให้สถานการณ์ย่ำแย่เข้าไปอีก ด้วยเหตุนี้ ตนจึงไม่สามารถเข้าร่วมการปฏิรูปการเมืองต่อไปได้ และขอลาออกจากตำแหน่งคณะกรรมการฯ ตั้งแต่บัดนี้
สำหรับข้อความในจดหมายทั้งหมดของนายพิชัย มีดังนี้
"ตามที่ท่านได้แต่งตั้งให้ผมเป็นกรรมการคนหนึ่งของคณะกรรมการปฏิรูปการเมือง โดยมีเป้าหมายที่น่าชมเชย คือการนำประเทศไปสู่ความปรองดองนั้น บัดนี้ ปรากฏว่าเหตุการณ์ของบ้านเมือง ในระยะ 2-3 เดือนที่ผ่านมานี้ ไม่มีแนวโน้มที่จะนำไปสู่เป้าหมายที่คนไทยทุกคนต่างมุ่งหวังให้เกิดสัมฤทธิ์ผลขึ้นได้ ตรงกันข้ามกลับมีปรากฏการณ์ บวกพฤติกรรมที่ทำให้เกิดความขัดแย้ง การเผชิญหน้า และเหนือสิ่งอื่นใด การแตกแยกความสามัคคีระหว่างคนไทยด้วยกัน
ความปรองดองที่ทุกคนอยากเห็น ที่จะนำไปสู่การปฏิรูปบ้านเมืองให้เป็นรูปธรรมนั้นสูญหายหมด ทั้งนี้ก็เพราะเป็นผลแห่งการกระทำ ในการพิจารณา พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ซึ่งผิดทั้งในเรื่องการไม่เคารพ "หลักการ" ของกฎหมายฉบับนี้ ทั้งๆ ที่สภาได้รับหลักการในวาระที่หนึ่งไปแล้ว โดยเฉพาะอย่างยิ่งการแก้ไขในวาระ 2 และ 3 นั้น นำไปสู่การก้าวก่ายของการปฏิบัติของฝ่ายตุลาการ ซึ่งคดีถึงที่สุดแล้ว และการนิรโทษกรรมให้แก่บุคคลที่ศาลได้ตัดสินแล้วว่าผู้นั้นต้องโทษตามคำพิพากษา
พ.ร.บ.นิรโทษกรรมนี้ ไม่มีใครคัดค้านเลย ถ้าเป็นการนิรโทษกรรมให้แก่ประชาชนบริสุทธิ์ ที่ต้องถูกพลอยฟ้าพลอยฝนไปด้วย ทั้ง ๆ ที่ไม่ได้ทำผิดกฎหมาย เพียงแต่ไปนั่งฟังการปราศรัย แต่ก็ถูกใช้ความรุนแรงถึงกับล้มตายเป็นร้อย พวกที่ไม่ถึงแก่ชีวิตก็ต้องถูกจับคุมขัง จนบัดนี้ประชาชนเหล่านี้ต่างหากที่ควรได้รับการนิรโทษกรรม
ถ้าจะมีการดำเนินไปจนประกาศเป็นกฎหมายแล้วไซร้ ก็จะเป็นการผิดหลักนิติธรรมอย่างเถียงไม่ได้ เพราะเป็นผลประโยชน์แอบแฝงซ้อนเร้น กฎหมายนิรโทษกรรมเฉพาะเจาะจง
เมื่อเป็นเช่นนี้ เราจะหวังให้เกิดการปรองดองได้อย่างไร ถ้าเราไม่เคารพความยุติธรรมและนิติธรรม
ด้วยเหตุดังกล่าวเมื่อวัตถุประสงค์ของท่านที่จะปฏิรูปการเมืองและนำมาซึ่งความปรองดอง จะไม่สามารถบรรลุถึงเป้าหมายเป็นความสำเร็จ ผมจึงไม่สามารถร่วมงานกับการปฏิรูปการเมืองต่อไปได้
จึงขอลาออกจากกรรมการปฏิรูปการเมือง ตั้งแต่บัดนี้ และขอสนับสนุนให้ท่านได้หาทางออกโดยคำนึงถึงบ้านเมืองส่วนรวมเป็นหลัก"
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก