เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
นายกรัฐมนตรี แถลงข่าวยืนยัน รัฐบาลและพรรคเพื่อไทยน้อมรับมติสภาหากคว่ำนิรโทษกรรม และจะไม่มีการใช้ความรุนแรงปราบม็อบดังข่าวลือ
เมื่อเวลา 17.15 น. ของวานนี้ (6 พฤศจิกายน 2556) ที่ทำการพรรคเพื่อไทย จ.จันทบุรี น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม แถลงข่าวพร้อมด้วย นายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ รมว.มหาดไทย ในฐานะหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ว่า เพื่อให้เกิดความชัดเจนในจุดยืนของรัฐบาล หลังจากแถลงข่าวไปเมื่อวันที่ 5 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา
ทั้งนี้ รัฐบาลขอยืนยันว่า มีจุดยืนที่อยากจะเห็นความปรองดองของพี่น้องประชาชนและพยายามที่จะประสานงานด้วยความอดทนมุ่งมั่น เพราะอยากเห็นความสงบ ความปรองดองของชาติ ซึ่งเป็นจุดมุ่งหมายเดิมของรัฐบาล ดังนั้น ไม่ว่าวุฒิสภาจะมีมติเป็นอย่างไร รัฐบาลก็พร้อมที่จะยอมรับข้อมติต่าง ๆ และอยากให้เกิดความชัดเจนว่า ในขั้นตอนตามกฎหมายนั้น หัวหน้าของฝ่ายบริหารหรือรัฐบาลไม่สามารถก้าวล่วงในส่วนของนิติบัญญัติได้
โดยตอนนี้เริ่มเกิดความชัดเจนมากขึ้น หลังจากวุฒิสภาชิกแถลงจุดยืนเรื่องไม่รับหลักการ พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ขณะที่ในส่วนของวิปรัฐบาลเอง ก็มีมติสนับสนุนที่จะไม่รับหลักการ พ.ร.บ. ฉบับนี้ ซึ่งหากวุฒิสภาไม่รับหลักการ ร่างกฎหมายนั้นจะต้องทิ้งไว้ 180 วัน แต่รัฐบาลจะไม่ฝืนความรู้สึกของประชาชน โดยพรรคเพื่อไทยจะไม่หยิบเรื่องนี้ขึ้นมาพิจารณาอีก เพราะต้องยึดเสียงส่วนใหญ่และรับฟังประชาชนตามเจตนารมณ์เดิม
น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวอีกว่า ที่วันนี้จำเป็นต้องออกมาแถลงข่าว เพราะมีข่าวลือต่าง ๆ มากมายว่า รัฐบาลจะมีการใช้กำลังรุนแรงทั้งในและนอกระบบ รัฐบาลยืนยันว่า จะไม่ใช้กำลังรุนแรงกับประชาชนโดยเด็ดขาด เพราะเรามาโดยประชาชน มาด้วยระบอบประชาธิปไตย เรายึดข้อกฎหมาย เรายึดรัฐธรรมนูญ เรายึดสันติภาพและเสรีภาพของประชาชนเป็นเรื่องใหญ่
ดังนั้น ขอความเป็นธรรมให้กับรัฐบาลด้วย ขอให้ประชาชนนำจุดยืนเหล่านี้ไปพิจารณา เพราะฝ่ายต่าง ๆ ที่ออกมาเคลื่อนไหวก็มีความต้องการเดียวกัน คือ อยากเห็นบ้านเมืองสงบ ซึ่งเป็นจุดยืนเดียวกันกับรัฐบาล ส.ส. และ ส.ว. ทุกท่าน ดังนั้นจึงไม่อยากให้เหตุการณ์เป็นเช่นนี้ต่อไปเรื่อย ๆ ไม่อย่างนั้นก็อาจกลับเข้าไปสู่วงจรความขัดแย้งอีก ทั้งที่เหตุการณ์ในอดีตน่าจะเป็นบทเรียนเพียงพอแล้ว รัฐบาลขอยืนยันอีกว่า จะไม่ใช้ความรุนแรงกับประชาชน แม้แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจก็กำชับไปแล้วว่า อย่าใช้อาวุธกับประชาชน
นอกจากนี้ รัฐบาลยังไม่มีแนวคิดว่า ถ้าร่าง พ.ร.บ. ฉบับดังกล่าวไม่ผ่าน จะออกเป็น พ.ร.ก. หรือไม่ ตอนนี้แค่อยากช่วยเหลือประชาชนที่เดือดร้อนและคืนความเป็นธรรมให้กับประชาชนก่อน แม้จะมีข่าวว่า ฝ่ายค้านอาจจะตั้งแง่กับรัฐบาล แต่การที่รัฐบาลแถลงจุดยืนชัดเจนว่า จะทำตามความคิดเห็นของประชาชนเช่นนี้ ก็เชื่อว่าฝ่ายค้านที่มาจากการเลือกตั้งน่าจะเห็นด้วยว่า ควรใช้เวทีในสภาเป็นกลไกในการแก้ปัญหา
น.ส.ยิ่งลักษณ์ ยังฝากข้อความถึงผู้ชุมนุมว่า อยากขอความร่วมมือเพื่อสร้างความเชื่อมั่นและการพัฒนาเศรษฐกิจให้เดินหน้าต่อไป โดยรอให้เวลาเป็นเครื่องพิสูจน์ความจริงใจ และไม่จำเป็นต้องออกมาชุมนุม เพราะจะทำให้เกิดความหวาดกลัวและความตกใจ ซึ่งก็จะกลับมากระทบกับความเชื่อมั่นของประเทศ ที่รัฐบาลกำลังพยายามกู้กลับมา ดังนั้นขอเวลาให้ทุกฝ่ายได้ทำงานตามเจตนารมณ์ทั้งหมด
เมื่อผู้ข่าวถาม น.ส.ยิ่งลักษณ์ ว่า จะขอให้ ส.ส.เพื่อไทย ในสมัยรัฐบาลนี้ แสดงความชัดเจนว่า จะไม่หยิบเรื่องนิรโทษกรรมขึ้นมาอีกได้หรือไม่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า ในส่วนของพรรคมีมติที่จะยอมรับผลการพิจารณาของวุฒิสภา ฉะนั้นเชื่อว่า ในสถานการณ์ความขัดแย้ง จะไม่มี ส.ส. หยิบร่างกฎหมายนี้ขึ้นมาอีก
ในส่วนที่มีข้อกล่าวหาว่า ส.ส.รัฐบาล มีการล็อบบี้ ส.ว. เพื่อยกมือหนุนร่างนิรโทษกรรมนั้น น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชี้แจงว่า วุฒิสมาชิกล้วนมีเอกสิทธิ์ของตน และเชื่อว่า วุฒิสมาชิกไม่สามารถก้าวก่ายได้ ทั้งกลุ่มที่มาจากการเลือกตั้งและแต่งตั้ง เชื่อว่าทุกท่านจะใช้วิจารณญาณของตนเองในการตัดสินใจ
อย่างไรก็ตาม แม้การพิจารณา ร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม จะออกมาในรูปแบบไหน ก็ต้องคุยกันว่า ยังมีอีกหลายวิธีในการช่วยเหลือประชาชน โดยรัฐบาลจะพยายามทำในสิ่งที่ทำได้อย่างเต็มที่ แต่ยุบสภาคงไม่ใช่ทางออก ทั้งนี้ ก็หวังว่าจะประชาชนจะให้โอกาสรัฐบาลอยู่จนครบวาระ 4 ปี และถึงแม้นายพิชัย รัตตกุล จะลาออกจากกรรมการปฏิรูปประเทศไปแล้ว แต่เรื่องนี้ก็ควรเดินหน้าต่อไป เพราะเวทีดังกล่าวไม่ได้รับฟังแค่สมาชิกที่เข้าร่วมประชุม แต่เป็นการรับฟังความคิดเห็นจากทุกกลุ่ม
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก
