x close

จับคลินิกเถื่อนเสริมความงาม พบนักศึกษาสาว ปี 2 แอบอ้างเป็นแพทย์

คลินิกเถื่อน

คลินิกเถื่อน

คลินิกเถื่อน


เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก รายการคลุกวงข่าว โพสต์โดย คุณ CiNNtv3 สมาชิกเว็บไซต์ยูทูบดอทคอม

          ดีเอสไอและแพทยสภา ร่วมกันจับกุม นักศึกษาหญิง ชั้นปีที่ 2 ของมหาวิทยาลัยเอกชนชื่อดังแห่งหนึ่ง หลังเช่าสถานที่เปิดคลินิกเถื่อนให้บริการเสริมความงามโดยไม่ได้รับอนุญาตและไม่มีความรู้ 

          เมื่อวันที่ 13 พฤศจิกายน 2556 นายชัยเกษม นิติสิริ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม พร้อมด้วย นพ.ประดิษฐ สินธวณรงค์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข นพ.บุญเรือง ไตรเรืองวรวัฒน์ อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ นพ.สัมพันธ์ คมฤทธิ์ เลขาธิการแพทยสภา และนายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีดีเอสไอ ร่วมแถลงผลการจับกุมสถานพยาบาลและแพทย์เถื่อน หลังเจ้าหน้าที่นำหมายค้นศาลอาญา เข้าตรวจค้นคลินิก ชื่อ "Pulchala Clinic" เลขที่ 18/97 หมู่บ้านเทอเรซ ซอยรามอินทรา 65 ถนนรามอินทรา แขวงอนุสาวรีย์ เขตบางเขน กรุงเทพฯ 

          โดย น.ส.ณัฐชานันท์ พิทักษ์ชัยกร อายุ 22 ปี ได้เช่าสถานที่ดังกล่าวเพื่อเปิดคลินิกเถื่อน จึงควบคุมตัวนำมาสอบสวน และแจ้งข้อหานำข้อมูลอันเป็นเท็จเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ โดยประการที่น่าจะก่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้อื่น และเผยแพร่ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์โดยรู้อยู่แล้วว่าเป็นข้อมูลอันเป็นเท็จ รวมถึงข้อหาฉ้อโกงและฉ้อโกงประชาชน อันเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา และ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์


          ทั้งนี้ จากการสืบสวนพบว่า น.ส.ณัฐชานันท์ ได้โพสต์ข้อความลงในเว็บไซต์ โดยอ้างว่า เป็นแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านความงาม ทั้งที่ไม่ได้เป็นแพทย์จริง และมีการใช้ใบปริญญาบัตรและใบอนุญาตประกอบวิชาชีพปลอมเพื่อสร้างความน่าเชื่อถือ ทั้งที่ในความเป็นจริง น.ส.ณัฐชานันท์ เป็นเพียงนักศึกษาชั้นปีที่ 2 ของมหาวิทยาลัยเอกชนชื่อดังแห่งหนึ่ง



คลินิกเถื่อน

คลินิกเถื่อน


          นพ.ประดิษฐ กล่าวว่า ที่ผ่านมาพบว่ามีบริษัทหรือสถานพยาบาลเอกชนที่ไม่ได้รับอนุญาต หรือไม่ใช่ผู้ประกอบวิชาชีพจริง มาแอบอ้างพร้อมหลอกลวงเรื่องการให้บริการ สำหรับสถิติระหว่างเดือน ตุลาคม 2555 - กันยายน 2556 พบว่ามีการร้องเรียนคลินิกเถื่อนแล้ว 30 แห่ง โดยกรณีของคลินิกเถื่อนหากฝ่าฝืนจะมีโทษฐานฝ่าฝืน พ.ร.บ.สถานพยาบาล มาตรา 16 และมาตรา 24 จำคุกไม่เกิน 3 ปี ปรับไม่เกิน 30,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

          กรณีหมอเถื่อน ถือเป็นการกระทำเข้าข่ายฝ่าฝืน พ.ร.บ.วิชาชีพเวชกรรม มาตรา 26 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี ปรับไม่เกิน 30,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ส่วนกรณีการปลอมแปลงเอกสาร ใบปริญญา และใบอนุญาตประกอบวิชาชีพเวชกรรม จะมีความผิดตามกฎหมายอาญา เข้าข่ายต้องโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี ปรับไม่เกิน 6,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

          ถึงแม้จะเปิดสถานประกอบการถูกต้อง แต่หากมีการจ้างแพทย์ที่ไม่มีใบประกอบวิชาชีพ ผู้ประกอบการก็ต้องรับผิดชอบด้วย ดังนั้น ก่อนเข้ารับบริการด้านการแพทย์ ควรตรวจสอบประวัติผู้ทำการรักษาอย่างรอบคอบ โดยสามารถตรวจสอบสถานประกอบการและแพทย์ผู้ได้รับอนุญาตได้จากเว็บไซต์ของกระทรวงสาธารณสุข  www.hss.moph.go.th หรือเว็บไชต์ของแพทยสภา www.tmc.or.th

          นอกจากนี้ ผู้สื่อข่าวได้รายงานเพิ่มเติมว่า ขณะแถลงข่าวเจ้าหน้าที่ไม่สามารถนำตัวผู้ต้องหา คือ น.ส.ณัฐชานันท์ ลงมาร่วมแถลงได้ เนื่องจากเกิดอาการช็อกและเครียดจัด โดยต้องจัดเจ้าหน้าที่คอยดูแลอย่างใกล้ชิด อย่างไรก็ตาม เบื้องต้นจากการสอบปากคำทราบว่า ผู้ต้องหารายนี้มีปัญหาครอบครัว ต้องหาเงินเรียนเอง จึงไปศึกษาวิธีการฉีดน้ำยาต่าง ๆ ให้กับเหยื่อทางเว็บไซต์ ก่อนหันมาเปิดคลินิกเถื่อน เพราะเห็นว่ารายได้ดี คือ ครั้งละประมาณ 10,000 บาท ซึ่งที่ผ่านมา ทำมาแล้วไม่ต่ำกว่า 10 ราย จนกระทั่งมาถูกจับในครั้งนี้






อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก





เรื่องที่คุณอาจสนใจ
จับคลินิกเถื่อนเสริมความงาม พบนักศึกษาสาว ปี 2 แอบอ้างเป็นแพทย์ อัปเดตล่าสุด 14 พฤศจิกายน 2556 เวลา 14:15:57 22,958 อ่าน
TOP