พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก
เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอมพล.ต.อ.ประชา พรหมนอก ยืนยัน ทหารไม่เคยช่วย อริสมันต์ พงษ์เรืองรอง หลบหนีการจับกุมช่วงสลายการชุมนุมกลุ่ม นปช. เมื่อปี 2553
สืบเนื่องจากกรณีการสลายการชุมนุมกลุ่มคนเสื้อแดง ปี 2553 ซึ่ง กี้ อริสมันต์ พงษ์เรืองรอง สามารถหลุดรอดจากการถูกควบคุมตัวของฝ่ายรัฐบาล โดยสามารถออกนอกประเทศได้อย่างทันท่วงที ทำให้หลายฝ่ายกังขาว่ามีใครอยู่เบื้องหลังคอยช่วยเหลือหรือไม่นั้น
ล่าสุดเมื่อวันที่ 19 พฤศจิกายน 2556 สำนักข่าวอิศรารายงานว่า ราชกิจจานุเบกษา ได้เผยแพร่คำตอบกระทู้สดของ พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก รองนายกรัฐมนตรี ภายหลังจากที่ นายวัชระ เพชรทอง สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พรรคประชาธิปัตย์ ตั้งกระทู้ถามว่า จากกรณีที่นายอริสมันต์ พงษ์เรืองรอง แกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ที่ตกเป็นผู้ต้องหาก่อการร้าย และกระทำความผิดตามพระราชบัญญัติบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน โดยถูกกล่าวหาว่า ได้ร่วมกันกับพวก ยุยง ปลุกปั่นประชาชนทั่วราชอาณาจักรไทยให้เข้าร่วมชุมนุมและทำกิจกรรม
โดยมุ่งหมายที่จะต่อต้านรัฐบาลและบังคับขู่เข็ญ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรีขณะนั้น ให้ประกาศยุบสภา เพื่อให้จัดการเลือกตั้งใหม่ จัดให้มีการชุมนุมกลุ่มคนเสื้อแดงหลายหมื่นคนบริเวณสะพานผ่านฟ้าลีลาศ ตามแนวถนนราชดำเนินไปจนถึงสี่แยกคอกวัว และแยกราชประสงค์มีการเดินขบวนและเคลื่อนย้ายประชาชนไปปิดล้อมสถานที่ต่าง ๆ
รวมถึงมีการใช้อาวุธเครื่องยิงลูกระเบิดใส่บ้านพักประชาชน และใช้เครื่องยิงจรวดอาร์พีจียิงใส่กระทรวงกลาโหม ใช้เครื่องยิงลูกระเบิด ยิงใส่กระทรวงสาธารณสุข และยิงใส่กองบัญชาการศูนย์อำนวยการรักษาความสงบเรียบร้อย (กอ.รมน.) จนมีทหารได้รับบาดเจ็บ และยังบุกตรวจค้นโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ รวมถึงสถานที่อื่นอีกหลายแห่ง แต่กลับสามารถหลบหนีการจับกุมของเจ้าหน้าที่ เมื่อวันที่ 19 พฤษภาคม 2552 ได้ก่อนผู้กระทำผิดรายอื่น ๆ จึงมีการคาดเดาว่า จะมีเจ้าหน้าที่ตำรวจหรือเจ้าหน้าที่ทหารบางนายที่ร่วมมือกับกลุ่ม นปช. ให้ความช่วยเหลือและอำนวยความสะดวกให้นายอริสมันต์ หลบหนีการจับกุมไปได้นั้น
นายวัชระ จึงตั้งกระทู้สดถามรายละเอียดของเหตุการณ์ดังกล่าว ว่า
1. กระทรวงกลาโหมได้มีการตรวจสอบข้อเท็จจริง หรือตั้งคณะกรรมการสอบสวนการกระทำของเจ้าหน้าที่ผู้ถูกกล่าวหาว่า อาจมีส่วนเกี่ยวข้องในการให้ความช่วยเหลือในการหลบหนีการจับกุมของ นายอริสมันต์ พงษ์เรืองรอง หรือไม่ อย่างไร และการสอบข้อเท็จจริงดังกล่าวได้เริ่มดำเนินการเมื่อใดจะแล้วเสร็จเมื่อใด ขอทราบรายละเอียด 2. หากได้มีการดำเนินการสอบข้อเท็จจริงตามข้อ 1 แล้ว ผลการดำเนินการเป็นประการใดและเคยมีการลงโทษเจ้าหน้าที่ซึ่งมีส่วนเกี่ยวข้องกับการกระทำดังกล่าวหรือไม่ ขอทราบรายละเอียด 3. หากยังไม่มีการดำเนินการสอบข้อเท็จจริงกรณีดังกล่าวแล้ว จะมีแนวทางในการดำเนินการเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวหรือไม่ รวมทั้งหน่วยงานใดจะเป็นผู้รับผิดชอบ ขอทราบรายละเอียดขอให้ตอบในราชกิจจานุเบกษาในเวลาต่อมา พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก รองนายกรัฐมนตรี ได้รับมอบหมายจากนายกรัฐมนตรีให้เป็นผู้ตอบกระทู้ถาม เรื่องนี้ โดยตอบกระทู้ ข้อที่ 1 ข้อที่ 2 และข้อที่ 3 ว่า กระทรวงกลาโหมมีการตรวจสอบข้อเท็จจริงแล้ว ไม่ปรากฏว่ามีเจ้าหน้าที่ทหารร่วมมือกับกลุ่ม นปช. เพื่อให้ความช่วยเหลือ นายอริสมันต์ ดังนั้น กระทรวงกลาโหมจึงไม่มีการแต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนหรือดำเนินการสอบสวนข้อเท็จจริงในเรื่องนี้แต่อย่างใด
นายอริสมันต์ พงษ์เรืองรอง
ซึ่งในช่วงการสลายการชุมนุมกลุ่มคนเสื้อแดง มีกระแสข่าวว่า นายอริสมันต์ ได้หนีไปหลบซ่อนอยู่ที่ประเทศเพื่อนบ้าน ก่อนจะเข้ามอบตัวที่ศาลพัทยาวันที่ 7 ธันวาคม พ.ศ. 2554 และถูกคุมขังจนกระทั่ง 28 ธันวาคม พ.ศ. 2554 ศาลอุทธรณ์ได้พิจารณาให้ปล่อยชั่วคราว นายอริสมันต์ ด้วยวงเงินประกัน 6 ล้านบาท และนัดพิจารณาคดี วันที่ 6 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555
นอกจากนี้ นายอริสมันต์ยังเคยโรยตัวหนีการจับกุมที่โรงแรม เอสซี ปาร์ค โดย นายอริสมันต์ ได้กล่าวกับรายการ Voice TV เมื่อวันที่ 16 พฤษภาคม พ.ศ. 2556 ถึงเหตุการณ์นี้ว่า การกระทำดังกล่าว เป็นการหนีเอาตัวรอด เนื่องจากตำรวจบุกบ้าน โดยไม่มีการให้สัญญาณ แถมยังมีการใช้ระเบิดและอาวุธ ซึ่งในวันนั้นได้มีบุคคล 2 คน ให้การช่วยเหลือนายอริสมันต์
ส่วนกรณีการหลบหนีออกนอกประเทศนั้น นายอริสมันต์เคยให้สัมภาษณ์ทางโมเดิร์นเรดิโอ เอฟเอ็ม 100.5 เมกะเฮิรตซ์ ช่วงเช้าวันที่ 7 ธันวาคม พ.ศ. 2556 ว่า การเดินทางไปต่างประเทศในครั้งนั้น เป็นไปตามรายงานข่าวของสื่อมวลชนเเละหนังสือพิมพ์ คือ เดินทางไปกัมพูชาเพื่อปลูกอ้อย ส่วนน้ำหนักตัวที่ลดลง เพราะต้องการฟิตร่างกายให้กลับเป็นอริสมันต์คนก่อน ส่วนเหตุที่หลบหนีคดีเเละไม่มามอบตัว เป็นเพราะไม่เชื่อมั่นในความเป็นธรรม
เนื่องจากเจ้าหน้าที่ตำรวจใช้วิธีที่รุนเเรงเกินไป เช่น การไล่ล่า การซุ่มทำร้าย ความพยายามอุ้มในสถานที่ต่าง ๆ จึงคิดว่าควรหลบออกนอกประเทศไปก่อน
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก
