เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืนตามศาลชั้นต้น สั่งจำเลยคดีบีบีซีชดใช้เงินคืน 1.5 พันล้าน และจำคุกในความผิดยักยอกทรัพย์ พร้อมจำหน่าย เกริกเกียรติ ชาลีจันทร์ ออกจากสารบบ เพราะเสียชีวิตไปแล้ว
เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา (6 ธันวาคม 2556) ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก ได้อ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ คดีที่พนักงานอัยการฝ่ายเศรษฐกิจ เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นายเกริกเกียรติ ชาลีจันทร์ อดีตกรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงเทพ พาณิชยการ จำกัด (มหาชน) หรือบีบีซี ซึ่งเสียชีวิตแล้วด้วยโรคมะเร็ง กับพวกรวม 5 คน ในความผิดฐานยักยอกทรัพย์ และความผิดตาม พ.ร.บ.หลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ. 2535
สืบเนื่องจากกรณีเมื่อวันที่ 6 ตุลาคม 2537 ถึง 4 มีนาคม 2539 นายเกริกเกียรติ จำเลยที่ 1 กับพวก ได้ร่วมกันทุจริต ปล่อยสินเชื่อ 1 พันล้านบาท ให้กับบริษัท ฟอร์ ฟิฟ ออเรจน์ จำกัด โดยไม่ผ่านมติกรรมการของบีบีซี ภายหลัง ศาลชั้นต้นได้พิพากษาจำคุก นายเกริกเกียรติ เป็นเวลา 130 ปี และปรับเงินกว่า 3 พันล้านบาท แต่ตามกฎหมายสามารถจำคุกได้ 20 ปีเท่านั้น
ขณะที่ บริษัท อเมริกัน สแตนดาร์ด แอ๊พเพรซัล จำกัด จำเลยที่ 4 ก็ถูกสั่งปรับเป็นจำนวน 2 พันล้านบาท ส่วน นายไพโรจน์ ซึ่งศิลป์ จำเลยที่ 5 ศาลได้พิพากษาให้จำคุก 10 ปี และปรับ 2 พันล้านบาท เนื่องจากเป็นผู้สนับสนุนการกระทำความผิด พร้อมกับให้จำเลยที่ 1, 4-5 ร่วมกันชดใช้เงินคืนแก่บีบีซี รวม 1,567,274,175 บาท ก่อนที่จำเลยทั้งสามจะขอยื่นอุทธรณ์
กระทั่งในวันนี้ ศาลอุทธรณ์ได้นัดอ่านคำพิพากษา โดยพิเคราะห์แล้วเห็นพ้องตามศาลชั้นต้น เพราะคำอุทธรณ์ฟังไม่ขึ้น จึงพิพากษายืนตามศาลชั้นต้น และให้จำหน่ายคดี นายเกริกเกียรติ ซึ่งเสียชีวิตแล้วออกจากสารบบ
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก