เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติมีมติ รับพิจารณา 8 คำร้อง ถอดถอน แก้ไขรัฐธรรมนูญ ที่มาสมาชิกวุฒิสภา เตรียมเรียกดำเนินการไต่สวนวันนี้
วานนี้ (12 ธันวาคม 2556) ที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) นายประสาท พงษ์ศิวาภัย กรรมการและรองโฆษก ป.ป.ช. แถลงความคืบหน้าภายหลังการประชุมคณะกรรมการ ป.ป.ช. กรณีมีผู้กล่าวหาการร้องถอดถอนสมาชิกรัฐสภาว่า ที่ประชุมมีมติพิจารณาและลงมติร่างแก้ไขที่มา ส.ว. จากเดิม 5 เรื่อง มาเป็น 8 เรื่อง โดยแบ่งเป็นคดีอาญา 3 เรื่อง คดีถอดถอน 5 เรื่อง ซึ่งมีเรื่องที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ มายื่นถอดถอน ส.ส., ส.ว. ที่มีการเสนอพิจารณาลงมติแก้ไขร่างที่มา ส.ว. จากเดิม 312 คน เป็น 383 คนด้วย
นายประสาท กล่าวต่อว่า ในการประชุมได้ลงนามคำสั่งแจ้งไปยังผู้ถูกกล่าวหาทั้งหมด หลังจากนี้ให้ทางผู้ถูกกล่าวหาได้ชี้แจงแก้ข้อกล่าวหา ขณะเดียวกันจะต้องมีการเชิญผู้ร้องเรียน ประกอบด้วย นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์, นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์, นายถาวร เสนเนียม, นายวันชัย สอนศิริ และนางพรพันธุ์ บุณยรัตพันธุ์ ส.ว.สรรหา มาให้ถ้อยคำเพิ่มเติมด้วย
โดยวันนี้ (13 ธันวาคม 2556) จะเชิญนายเชาวนะ ไตรมาศ เลขาธิการศาลรัฐธรรมนูญ ในฐานะเจ้าของเรื่องมาให้ถ้อยคำเพิ่มเติมและนายวิรัตน์ กัลยาศิริ ในฐานะผู้ยื่นคำร้องมาให้ถ้อยคำเพิ่มเติม หลังจากนั้นจะมีการเชิญข้าราชการรัฐสภา โดยเฉพาะนายสุวิจักขณ์ นาควัชระชัย เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร มาสอบถามเกี่ยวกับกระบวนการขั้นตอนการเสนอร่างกฎหมายและบันทึกการประชุมต่างๆ และจะเร่งพิจารณาให้เสร็จก่อนวันเลือกตั้ง (2 กุมภาพันธ์ 2557) อย่างไรก็ตามมติจะขึ้นอยู่กับพยานหลักฐาน แต่ตามรัฐธรรมนูญระบุไว้ว่า คำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญมีผลผูกพันทุกองค์กร โดยจะต้องดูเอกสารหลักฐานและการไต่สวนก่อน เพราะตามหลักยุติธรรมระบบไต่สวนจะต้องเปิดโอกาสให้ผู้ถูกกล่าวหาได้ชี้แจงก่อนที่จะมีคำวินิจฉัย
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก
