เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก ข่าวสด
นักวิชาการหนุนเลือกตั้งวันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2557 แต่ควรมีการปฏิรูปการเลือกตั้งให้บริสุทธิ์ก่อน พร้อมวอนทุกฝ่ายเคารพกติกา
เมื่อวันที่ 15 ธันวาคม 2556 มีการเปิดเวทีเสวนาในหัวข้อ ประเทศไทยของเราจะไปทางไหน ที่จัดขึ้นโดยรัฐบาล โดยมีแกนนำจากพรรคการเมือง ตัวแทนประชาชน ตัวแทนข้าราชการพลเรือน ตัวแทนกองทัพ และตัวแทนนักวิชาการ และยังมีตัวแทนจากพรรคประชาธิปัตย์และตัวแทนจากกลุ่ม กปปส. อีกด้วย
โดย นายประเสริฐ ประคุณศึกษาพันธุ์ ส.ว. ขอนแก่น กล่าวว่า ส่วนตัวเสนอให้แก้ไขรัฐธรรมนูญมาตรา 291 เพื่อการแก้ไขรัฐธรรมนูญทั้งฉบับ เพราะข้อเสนอจากหลายฝ่ายเป็นข้อเสนอกันคนละแนวทาง และสิ่งที่จะทำให้ประเทศดีขึ้นคือ การทำหน้าที่ของสื่อแบบไม่เลือกข้าง อีกทั้งตนยังสนับสนุนให้มีการเลือกตั้งในวันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2557
ด้านนายเกชา ศักดิ์สมบูรณ์ ส.ว. ราชบุรี กล่าวว่า เสนอให้เลื่อนการเลือกตั้งออกไปก่อน 1 ปี เพื่อปฏิรูปประเทศให้เสร็จก่อน เพราะหากจัดการเลือกตั้งแล้วพรรคใหญ่บางพรรคไม่ลงเลือกตั้ง อาจจะเกิดปัญหาได้ ดังนั้น จึงควรมีการปฏิรูปการเลือกตั้งก่อน
ขณะที่ นายโสภณ ซารัมย์ กล่าวว่า กล่าวว่า พรรคภูมิใจไทยเองเห็นด้วยกับการเลือกตั้ง แต่ไม่เห็นด้วยกับการเลือกตั้งบนความขัดแย้ง จึงเสนอให้สร้างกติกาที่ทุกฝ่ายยอมรับก่อนที่จะมีการเลือกตั้ง และอยากให้ผู้มีอำนาจตระหนักว่า ถึงเวลาแล้วหรือยังที่เราต้องช่วยชาติพ้นวิกฤติ ส่วนที่ควรปฏิรูปโดยเร็วคือนักการเมือง เพราะนักการเมืองสร้างความขัดแย้งต้องช่วยกันดับ
ส่วน พล.อ.นิพัทธ์กล่าวว่า กระทรวงกลาโหมคือผู้พิทักษ์รัฐธรรมนูญและการปกครองระบอบประชาธิปไตย ผบ.สส. เองก็ยืนยันให้ปฏิบัติในกรอบของรัฐธรรมนูญ และผบ.สส. แสดงเจตนารมณ์ที่จะให้กองทัพรับใช้และพิทักษ์รัฐธรรมนูญ กองทัพเองก็หนุนให้มีการเลือกตั้งในวันที่ 2 พฤศจิกายนนี้ และ ผบ.สส. มีทหารกว่า 4 แสนนาย หากการเลือกตั้งไม่บริสุทธิ์ก็ให้ส่งสัญญาณในทำนองว่าพร้อมที่จะร่วมมือทำให้การเลือกตั้งมีความบริสุทธิ์และยุติธรรม
นายเจษฏ์ โทณะวณิก คณบดีบัณฑิตวิทยาลัย สาขานิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยสยาม กล่าวว่า น่าเสียดายที่มีการเรียกร้องให้ยุบสภา ซึ่งตนไม่เห็นด้วย และไม่เห็นด้วยกับการรัฐประหาร ประชาธิปไตยที่คนไม่เข้าใจก็ไม่ใช่สิ่งที่ดี เราควรหาทางออกร่วมกันก่อนที่จะกำหนดวันเลือกตั้งเป็นวันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2557 แล้วมาดูบ้างว่าประเด็นใดที่ทำไม่ได้ตามรัฐธรรมนูญ หากทำไม่ได้ต้องแก้ไข และต้องทำความเข้าใจร่วมกันด้วย
ด้านนายวีรพัฒน์ ปริยวงศ์ นักกฎหมายอิสระ กล่าวว่า การเลือกตั้งต้องสุจริต ซึ่งจะสามารถนำไปสู้การเลือกตั้งวันที่ 2 กุมภาพันธ์ได้ และสามารถทำได้ในตอนนี้ โดยแบ่งเป็น 3 ระยะ คือ ให้นักการเมืองร่วมลงสัตยาบันให้การเลือกตั้งวันที่ 2 ก.พ. เป็นการเลือกตั้งเฉพาะกิจ ไม่ว่าพรรคไหนได้เป็นต้องยุบสภาใน 2 ปี และเริ่มการปฏิรูปประเทศอย่างเป็นรูปธรรม ทาง กปปส. เองยังสามารถมาสมัครเลือกตั้งทันหากมองว่าการเลือกตั้งไม่บริสุทธิ์ อีกทั้ง กกต. ยังมีอำนาจเข้มงวดกว่าทุกครั้ง และมีมาตรา 25 ที่ให้เอกชนร่วมสังเกตการณ์การเลือกตั้งด้วย
นายโคทม อารียา ผอ.สถาบันสิทธิมนุษยชนและศึกษาพัฒนาสันติวิธีมหาวิทยาลัยมหิดล กล่าวว่า การปฏิรูปการเมืองต้องต่อเนื่อง เป็นกระบวนการที่ให้ประชาชนร่วมแสดงความคิดเห็นและต้องเป็นรูปธรรมว่าจะปฏิรูปอย่างไร อะไรที่ทำได้ก่อนก็ควรทำ อะไรที่ทำได้ช้าหน่อยก็เริ่มตั้งแต่วันนี้ อย่าทำตัวเป็นจ่าเฉยซื้อเวลา ทำเหมือนเหตุการณ์เป็นปกติ พรรคประชาธิปัตย์ก็อย่าบอยคอตการเลือกตั้งในครั้งนี้ด้วย
ด้านนายสมบัติ บุญงามอนงค์ หรือ บก.ลายจุด กล่าวว่า ตลอดเวลา 2 เดือนที่ผ่านมา รัฐบาลทำสิ่งที่ผิดพลาด แต่คนที่ออกมาตำหนิรัฐบาลก็ผิดพลาดเช่นกัน การเมืองต่อสู้อย่างดุเดือด ประชาธิปไตยลดประสิทธิภาพลง แต่ประชาชนกลับตื่นตัวทางการเมืองมากขึ้น โดยเฉพาะคนต่างจังหวัดที่สนใจการเมืองมากกว่าคนกรุงเทพฯ คนกรุงเทพเองไม่มีปฏิสัมพันธ์กับคนเหล่านั้น ไม่รู้ว่าพวกเขาวิวัฒนาการทางการเมืองไปถึงไหนแล้ว แต่ทั้งประชาชนต้องพัฒนาไปพร้อมกัน พรรคการเมืองต้องไม่ใช่ของนายทุน เปิดช่องให้รับฟังปัญหาของประชาชนได้
ส่วนนายวีระกานต์ มุสิกพงษ์ แกนนำกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) กล่าวว่า ก่อนปฏิรูปการเมืองต้องรักษากฎหมาย คนที่ออกมาชุมนุมเป็นเพียงคนส่วนหนึ่ง เทียบไม่ได้กับคนส่วนใหญ่ของประเทศ หากปฏิรูปประเทศทุกฝ่ายก็ต้องเคารพกติกาด้วย
ขณะที่ นางผาสุก พงษ์ไพจิตร อาจารย์ประจำคณะเศรษฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ตัวแทนกลุ่มสมัชชาปกป้องประชาธิปไตย (สปป.) กล่าวว่า หลังจากที่ยุบสภา ต้องมีการเลือกตั้งทั่วไปในวันที่ 2 กุมภาพันธ์นี้ ไม่ควรมีการขัดขวางหรือเลื่อนการเลือกตั้ง การตั้งสภาประชาชนหรือปฏิรูปการเลือกตั้งนั้น ล้วนแต่เป็นกลลวงที่ไม่อยากให้เลือกตั้งตามวันเวลาที่กำหนด การปฏิรูปประเทศถือเป็นอำนาจของประชาชนทั้งหมด กลุ่มบุคคลใดจะผูกขาดอำนาจไว้เพียงคนเดียวไม่ได้ อีกทั้งการปฏิรูปการเมืองยังควรเป็นการปฏิรูปกองทัพ ศาล องค์กรอิสระ สถาบันทางการเมือง และควรดำเนินไปอย่างชอบธรรม แสวงหาฉันทามติของคนในชาติ และทางออกคือ การออกคะแนนเสียงเลือกตั้ง
นายสมพร เทพสิทธา กรรมการสภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ กล่าวว่า มีการประชุมกันแล้วว่าเหตุการณ์นี้รุนแรงที่สุดในประวัติศาสตร์ หากปล่อยไปอาจทำให้เศรษฐกิจและสังคมพัง ทุกคนควรอยู่ในกติกา กฎหมาย และคุณธรรม ทุกพรรคควรสร้างกติกาการเลือกตั้งให้บริสุทธิ์ ยุติธรรม
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก
