x close

พลังที่ยิ่งใหญ่ของพ่อที่สูญเสียลูก กับรายการ America's Most Wanted



เกริ่นนำโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก คุณเจ้าหญิงน้อยแห่งอันดามัน สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม

             พลังเล็ก ๆ ที่ยิ่งใหญ่ของพ่อที่สูญเสียลูกชาย นำไปสู่การทำรายการ America's Most Wanted ตามล่าหาตัวคนร้ายมาแล้วหลายคดี

             จากคดีสะเทือนขวัญของน้องการ์ตูนที่ถูกนายหนุ่ยฆ่าข่มขืนอย่างโหดเหี้ยม ก็ทำให้สังคมได้ตื่นตัวถึงภัยร้ายใกล้ตัวและหันมาดูแลเอาใจใส่บุตรหลานอย่างใกล้ชิดมากขึ้น และทำให้เกิดพลังของมวลชนเรียกร้องให้ออกมาตรการลงโทษที่รุนแรงและเด็ดขาดกับฆาตกร เพื่อไม่ให้เกิดโศกนาฏกรรมซ้ำรอยเช่นนี้อีก


             จะเห็นได้ว่าคดีเล็ก ๆ มักจะทำให้เกิดพลังที่ยิ่งใหญ่ที่ต้องการจะเปลี่ยนแปลงสังคมเสมอ เช่นเดียวกับเรื่องราวของ จอห์น วอล์ช (John Walsh) พิธีกรชื่อดังจากรายการ "America's Most Wanted" รายการสืบสวนสอบสวนตามล่าหาเบาะแสคนร้าย จนสามารถนำไปสู่การจับกุมคนร้ายมาแล้วมากมายหลายคดี

             แต่ใครจะรู้ว่า แท้จริงแล้วพลังที่ทำให้ จอห์น วอล์ช อุทิศตัวช่วยเหลือสังคมนั้น เกิดจากหัวใจที่แตกสลายจากการสูญเสียลูกชายอันเป็นที่รักของเขา ซึ่งถูกคนร้ายลักพาตัวและฆาตกรรมอย่างเลือดเย็นนั่นเอง ซึ่งเรื่องดังกล่าวนี้ถูกเผยแพร่โดย คุณเจ้าหญิงน้อยแห่งอันดามัน สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม โดยมีเรื่องราวดังนี้


             จากเหตุการณ์ นายติ๊งต่าง คนร้ายลักพาตัวและฆาตกรรมเด็ก
             ทำให้ผมนึกถึงรายการทีวี ที่เคยดูและชื่นชอบมากเลย อยากเขียนครับ

             "อเมริกา โมส วอนเต็ด"

             กะทู้นี้สดุดีความดีแด่ John Walsh

             ในปี 1981

             จุดเริ่มต้นของสิ่งที่ยิ่งใหญ่ เรื่องนึง เริ่มขึ้นมาจาก อดัมส์ วอลช์



             เด็กชายวัย 6 ขวบ ถูกลักพาตัวไป บริเวณ ห้างฮอลลีวูด มอลล์ ในรัฐ ฟลอริด้า และหลังจากผู้เป็นพ่อได้แจ้งความ และออกตามหา

             ในเวลาต่อมา ก็พบศพของลูกชาย ที่ถูกฆ่าโดยคนที่ลักพาตัว ซึ่งสาเหตุที่ลักพาตัวหรือฆ่า ยังไม่แน่ชัดจนปัจจุบัน




             ซึ่งเหตุการณ์นั้นทำให้ผู้เป็นพ่อ John Walsh,  หัวใจสลาย

             เหตุการณ์ในครั้งนั้นถูกออกอากาศเรื่องของการตามหาเด็กสูญหาย ในปี 1984 ซึ่งรายการนั้น มีคนดูถึง 38 ล้านคน

             ซึ่งในเวลาต่อมา ได้เกิดรายการทีวี ที่ยิ่งใหญ่รายการนึงขึ้น นั่นคือ "อเมริกา โมส วอนเต็ด" รายการที่ จะตามล่าคนร้าย ฆ่า ข่มขืน ลักพาตัว ทารุณกรรม ภัยสังคม ทุกรูปแบบ โดยเสนอเบาะแสภาพเหตุการณ์ และขอให้ คนที่ดู ที่รู้ โทรเข้ามาแจ้งทางรายการ โดยทางรายการจะปกปิดข้อมูลของผู้แจ้งอย่างดีที่สุดและไม่ต้องขึ้นศาลในการเป็นพยาน

             ซึ่งทำให้มีคนสนใจดูเป็นจำนวนมาก

             ซึ่งผู้ดำเนินรายการจะเป็นใครไปไม่ได้ นอกจากคนที่เข้าใจความรู้สึกของ พ่อที่ลูกถูกลักพาตัว

             John Walsh, 




             ด้วยประวัติความสูญเสียของเขา ทำให้คนดูรายการเป็นหลักสิบล้านทุกครั้ง และหลายร้อยหลายพันคดี ที่รายการมีส่วนในการตามหาเบาะแสที่ขาดไปในคดี หรือภาพจากกล้องวงจรปิดจากร้านค้าที่เกี่ยวข้อง หรือการแจ้งเบาะแสที่อยู่ของคนร้ายหลบหนี





             JOHN มีท่าทีดำเนินรายการที่มาดมั่น สายตาของเขาเศร้า และเขาสื่อได้ถึงผู้ถูกกระทำทุกคนว่าต้องเจ็บปวดสักเพียงไหน ที่ลูกถูกลักพาตัว หรือ ฆาตกรที่ฆ่าได้แม้แต่เด็กน้อย ยังคงลอยนวลอยู่ อาจจะข้างบ้านเรา




             JOHN จับคนดูได้อยู่หมัด และคนดูมักมีอารมณ์ร่วมในการช่วยสืบไปกับรายการด้วยบ่อยครั้ง

             โดยในปี 1988 รายการประสบความสำเร็จ ในการมีส่วนสำคัญในการ จับกุมตัว David James Roberts ฆาตกรที่ฆ่าล้างครอบครัว แพตทริค 4 ชีวิต และเคยติดคุก 6 ครั้ง

             ทางตำรวจออกแถลงขอบคุณรายการของ JOHN โดยเบาะแสใหญ่คือ มีคนโทรเข้ามาแจ้งว่าพบเห็นคนหน้าตาเหมือนตามรูปพรรณที่รายการนำขึ้นมา

             และตลอดเวลา 20 กว่าปีที่ฉาย รายการสามารถนำไปสู่การจับกุม ฆาตกรที่เป็นที่กล่าวขวัญในสังคมอเมริกัน ดัง ๆ ได้ อาทิ

             John List, the Texas Seven หรือ Brian D. Mitchell , Wanda Ileen Barzee,
the abductors of Elizabeth Smart. และรายล่าสุดก่อนปรับผังรายการ คือ Dwight Smith

             แม้รายการ อเมริกัน โมส วอนเต็ด จะมีการปรับผังสลับเวลา เปลี่ยนเนทเวิร์คที่ฉายอย่างไรในปัจจุบัน

             แต่ต้นกล้าที่เติบโตอย่างยิ่งใหญ่ต้นนี้ ก็ได้มีการแตกหน่อสาขาออกไปมากมาย ในรูปของรายการท้องถิ่นหรือของรัฐ เช่น รายการแบบต้นฉบับ โดยเล็งเฉพาะเหตุในรัฐของต้นเช่น

             "Chicago's Most Wanted"
             "Washington's Most Wanted"
             "Colorado's Most Wanted"
             "Savannah's Most Wanted"
             Oklahoma's Most Wanted"
             "West Michigan's Most Wanted"
             "Indiana's Most Wanted"
             ฯลฯ (ประมาณ 30 รายการ)

             รวมถึงรายการที่เจาะเฉพาะบางรูปแบบคดี เช่น "Crimestoppers" เป็นต้น

             ในปี 1998 มีการบันทึกอย่างเป็นทางการว่า รายการ อเมริกา โมส วอนเต็ด มีส่วนสำคัญในการจับกุมคนร้ายและถูกตัดสินแล้วว่าผิดจริง ครบ 1,000 คน ตั้งแต่ดำเนินรายการมา

             เด็ดดอกไม้สะเทือนถึงดวงดาว หยดน้ำน้อยไหลรวมเป็นมหาสมุทร ผมก็ไม่รู้จะเปรียบเปรยกับคำไหน




             เพราะจุดเริ่มต้นของการสูญเสีย ของพ่อที่หัวใจสลาย หมอบกราบศิโรราบ กับโชคชะตาดั่งตกนรกทั้งเป็น

             แต่เขาไม่ได้ล้มไปตลอด

             เขาเก็บเอาความคับแค้นและสิ้นหวังเปลี่ยนเป็นพลัง และสำนึกที่ดี "ไม่ควรต้องมีใคร รู้สึกสูญเสียแบบที่ผมรู้สึก จะต้องไม่มี" JONH เคยกล่าวไว้ครั้งหนึ่ง

             ความสูญเสีย ของพ่อคนนึง จึงผลักดันให้เกิดความเปลี่ยนแปลงในวงกว้างของ ของผู้คน และวงการสื่อ ในรูปแบบรายการช่วยตำรวจหาผู้ร้าย

             และทำให้คนที่สูญเสีย หรือ ผู้เสียหาย รู้สึกว่า "เราไม่ได้อยู่คนเดียว" เรายังมี เนทเวิร์ค ชาวอเมริกัน ที่จะช่วยจับตามอง ตามล่าหาคนผิดมาลงโทษ

             ซึ่ง แนวคิดนี้ทำให้ คนคิดก่ออาชญากรรมน้อยลงไปด้วย

             บ้านเราก็มีรายการประมาณนี้แล้ว คือ เรื่องจริงผ่านจอ

             ถ้าปรับเปลี่ยน และเพิ่มความร่วมมือกับตำรวจ

             เข้าไป ผมว่ามันน่าจะดีขึ้น นะ ตอนนี้บ้านเราก็มีกล้องมากขึ้น โซเชียลก็ถึงกัน

             เพียงแต่ต้องมีทีมงานที่ คัดกรอง ข้อมูล และหน่วยงานราชการที่จะมาช่วยนำเบาะแสไปสู่การจับกุมให้ไวขึ้น

             ไม่ต้องรอหน่วยราชการเปิดวันจันทร์ หยุดเสาร์อาทิตย์

             เด็กเล็กหายไม่ควรรอ 24 ชั่วโมงแบบผู้ใหญ่เป็นต้น

             ซึ่งกรณี 24 ชั่วโมงควรแก้ที่กฎหมายต่อไป

             ขอสดุดีแด่รายการดี ๆ อเมริกา โมส วอนเต็ด และ JOHN WALSH

             ปล. JOHN มีลูกชายอีก 2 และ ลูกสาว 1 ครับ













เรื่องที่คุณอาจสนใจ
พลังที่ยิ่งใหญ่ของพ่อที่สูญเสียลูก กับรายการ America's Most Wanted อัปเดตล่าสุด 27 ธันวาคม 2556 เวลา 21:39:05 14,259 อ่าน
TOP