ฮัสซัน ตอยิบ หายตัว ลือสะพัดถูกรัฐบาลมาเลเซียคุมตัว ขณะที่คนใกล้ชิด ยัน หายตัวจริง แต่ไม่เกี่ยวกับรัฐบาลมาเลเซียแน่นอน
วันนี้ (22 มกราคม 2557) สำนักข่าวอิศรา รายงานว่า หลังจากที่ นายฮัสซัน ตอยิบ หัวหน้าคณะพูดคุยสันติภาพฝ่ายบีอาร์เอ็น ได้ปรากฏตัวเองในวิดีโอคลิป เมื่อวันที่ 1 ธันวาคม 2556 ผ่านเว็บไซต์ยูทูบ เพื่อย้ำในข้อเรียกร้อง 5 ข้อต่อรัฐบาลไทย ให้รัฐบาลไทยยอมรับในหลักการ และรัฐสภาไทยต้องเห็นชอบในการพูดคุยสันติภาพนั้น ต่อมาก็มีกระแสข่าวลือออกมาว่านายฮัสซันได้หายตัวไป
ทั้งนี้ คนใกล้ชิดของนายฮัสซัน เปิดเผยว่า นายฮัสซันหายตัวไปจริง ๆ เพื่อน ๆ ไม่สามารถติดต่อได้เป็นระยะเวลาหนึ่งแล้ว ส่วนหน่วยงานด้านความมั่นคงของไทย เปิดเผยว่า นายฮัสซันหายตัวไปจริง คาดว่าอาจจะถูกเจ้าหน้าที่ทางการของมาเลเซียควบคุมตัวเอาไว้ อย่างไรก็ตาม ข่าวนี้ไม่ได้รับการยืนยันจากเจ้าหน้าที่มาเลเซียในทุกระดับ
ขณะเดียวกัน ทางสำนักข่าวก็ได้ตรวจสอบจากแหล่งข่าวที่มีความใกล้ชิดกับนายฮัสซัน ก็ได้รับการยืนยันว่า นายฮัสซันได้หายตัวไปจริง แต่ไม่ได้ถูกจับตัวจากทางการมาเลเซียแน่นอน ซึ่งในการพบกับนายฮัสซันครั้งสุดท้าย เกิดขึ้นเมื่อปลายเดือน พฤศจิกายน 2556 และในเดือนธันวาคม 2556 ก็มีการนัดหารือกับนายฮัสซัน เรื่องเอกสารตอบข้อเรียกร้องบีอาร์เอ็น 5 ข้อ ทว่าก่อนหน้าที่จะมีการพูดคุยไม่กี่วัน นายฮัสซันก็จะไม่เข้าร่วมการประชุม และไม่มีใครติดต่อได้อีกเลยหลังจากนั้น
แหล่งข่าวคนดังกล่าว ยังย้ำอีกว่า นายฮัสซันไม่น่าถูกควบคุมตัวจากทางการมาเลเซียแน่นอน เพราะมีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน และเจ้าหน้าที่ของมาเลเซียก็ยืนยันว่าไม่มีการควบคุมตัว พร้อมยืนยันว่า นายฮัสซันอยู่ในความดูแลของบีอาร์เอ็น ซึ่งน่าจะเป็นสภาองค์กรนำ หรือดีพีพี
นอกจากนี้ ก่อนหน้านี้มีข่าวว่าสมาชิกของดีพีพี ไม่เห็นด้วยกับผลการเจรจากับรัฐบาลไทย เนื่องจากกลุ่มเคลื่อนไหวสายพิราบของขบวนการหลายคนถูกสังหารในช่วงที่มีข้อตกลงสงบศึกกับรัฐบาลไทย ช่วงเดือนรอมฎอน 2556 ทำให้ภายในขบวนการเกิดความขัดแย้ง ดังนั้นจึงต้องควบคุมตัวนายฮัสซันเอาไว้ เพื่อปิดโอกาสความขัดแย้งขยายตัว
ด้านฝ่ายความมั่นคงของไทย ประเมินว่า หากมีการเปลี่ยนตัวหัวหน้าการพูดคุยสินติภาพจากนายฮัสซันไปคนอื่นจริง รัฐบาลไทยจะพบกับความยากลำบากในการเจรจามากขึ้น เพราะนายฮัสซันเป็นคนคุยง่าย และทัศนคติเปิดกว้าง เข้าใจปัญหามากกว่าแกนนำบีอาร์เอ็นคนอื่น ๆ
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก
