จารุพงศ์ เรืองสุวรรณ
เรียบเรียงข้อมูลดดยกระปุกดอทคอมขอขอบคุณภาพประกอบจาก เฟซบุ๊ก จารุพงศ์ เรืองสุวรรณ
เพื่อไทย แถลงการณ์ 9 ข้อ ชี้ มีแนวคิดจ้องล้มประชาธิปไตยหลายรูปแบบทั้งการขวางเลือกตั้งหรือตุลาการภิวัฒน์ พร้อมบอกประชาชนคัดค้านรักษาระบอบเอาไว้
วันนี้ (4 กุมภาพันธ์ 2557) นายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ได้อ่านแถลงการณ์พรรคเพื่อไทย เรื่องขบวนการทำลายประชาธิปไตยและการปล้นสิทธิของประชาชนว่า การเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร เมื่อวันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2557 ได้ผ่านพ้นไปแล้ว และประชาชนก็ได้ตื่นตัวกับการใช้สิทธิเลือกตั้งครั้งนี้อย่างมาก แสดงให้เห็นถึงความหวงแหนในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข แต่ก็นับว่าน่าเสียดายที่มีกระบวนการทำลายประชาธิปไตยและสิทธิของประชาชนอยู่ ดังนั้นพรรคเพื่อไทยจึงขอแถลงการณ์ต่อประชาชนจำนวน 9 ข้อ ดังนี้
1. สิทธิประชาชนที่สำคัญที่สุดคือ สิทธิการเลือกตั้ง แต่ก็มีกระบวนการทำลายและปล้นสิทธิอยู่ ตั้งแต่การที่มีกลุ่มอนาธิปไตยปิดถนนในกรุงเทพฯ ขวางการเลือกตั้ง รวมถึงกลุ่มการเมืองและองค์กรต่าง ๆ ด้วย
2. การเคลื่อนไหวของกลุ่มดังกล่าว จ้องทำลายรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งของประชาชน ซึ่งมีวิธีการอยู่ 2 แนวทาง ได้แก่ การรัฐประหาร หรือการให้องค์กรอิสระที่ก่อตั้งขึ้นปี 2549 ซึ่งเกี่ยวข้องกับการรัฐประหาร ขวางการทำงานทุกด้านของพรรค พร้อมกับชี้มูลการทุจริต
3. หากต้องการให้แนวทางนี้เป็นไปได้ จะต้องใช้เวลาประมาณ 2-4 เดือน ดังนั้นจึงต้องขวางการเลือกตั้งทุกทาง เพื่อให้ประชาชนเริ่มกลัวและเบื่อหน่ายต่อระบอบประชาธิปไตย ป้ายสีทุกรูปแบบให้ประชาชนคลางแคลงต่อพรรคเพื่อไทย
4. หลังจากที่จัดการกับพรรคเพื่อไทย หรือคาดว่าน่าจะจัดการได้อย่างเบ็ดเสร็จแล้ว ก็จะมีการเลือกตั้งใหม่ และปิดโอกาสพรรคเพื่อไทยไม่ให้ชนะการเลือกตั้งได้อีกต่อไป
5. อย่างไรก็ตาม ในช่วงที่จัดการกับพรรคเพื่อไทยอยู่นั้น อาจจะมีการใช้วิธีนอกรัฐธรรมนูญและนอกกฎหมายจัดการ และพยายามเรียกร้องนายกรัฐมนตรีที่ไม่ได้มาจากการเลือกตั้ง
6. มีความพยายามทำให้สิทธิการเลือกตั้งของประชาชนเป็นโมฆะ จากการไปร้องศาลรัฐธรรมนูญตามมาตรา 68 ที่พรรคประชาธิปัตย์และฝ่ายแนวคิดเผด็จการชอบทำ โดยอ้างว่า การเลือกตั้งที่ผ่านมาไม่เป็นไปตามรัฐธรรมนูญ เพราะมีอีก 28 เขตที่ไม่มีผู้สมัครและหลายหน่วยเลือกตั้งก็ลงคะแนนไม่ได้ หรืออาจจะมากกว่านั้นก็คือ ศาลรัฐธรรมนูญเห็นว่าเลื่อนเลือกตั้งได้ แต่รัฐบาลก็เดินการเลือกตั้งต่อไป เป็นต้น
7. การยุบสภาฯ และคืนอำนาจให้แก่ประชาชน ถือเป็นสิ่งที่เป็นไปตามระบอบประชาธิปไตย แต่ว่าการขัดขวางการเลือกตั้งทำให้ไม่มีผู้สมัครนั้น หากกลายเป็นปัจจัยที่ทำให้การเลือกตั้งเป็นโมฆะ ก็จะเป็นบรรทัดฐานที่ไม่ดีในอนาคต เพราะเพียงแค่ไม่มีผู้สมัครหรือประชาชนลงคะแนนไม่ได้เพียง 1 เขต ก็จะไม่มีโอกาสได้เลือกตั้งอีกเลย
8. นอกจากนี้ยังมีวิธีอื่น ๆ อีก ที่ใช้จัดการกับพรรคเพื่อไทย คือ ตุลาการภิวัฒน์ ได้แก่ การยื่นฟ้องศาลปกครองดังเช่นที่เคยทำในปี 2549 มาแล้ว การกระทำเช่นนี้ อาจจะสร้างความขัดแย้งมากยิ่งขึ้น
9. พรรคเพื่อไทย ขอให้ประชาชนตระหนักและติดตามการเคลื่อนไหวของคนกลุ่มนี้อย่างต่อเนื่อง พร้อมกับคัดค้านการต่อสู้ที่ไม่เป็นไปตามระบอบประชาธิปไตย เพื่อดำรงระบอบประชาธิปไตยไว้ต่อไป
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก