เครื่องบินหาย mh370 นายกฯ มาเลย์ ไม่ฟันธง เครื่องบินถูกจี้ แต่จงใจบินนอกเส้นทาง

เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก เฟซบุ๊ก Zaharie Ahmad Shah, MANAN VATSYAYANA / AFP

          นายกฯ มาเลเซียแถลงไม่ฟันธง MH370 ถูกจี้ อาจมุ่งหน้าไปยังคาซัคสถาน หรือเติร์กเมนิสถาน หรือมหาสมุทรอินเดีย แต่เชื่อมีการจงใจบินออกนอกเส้นทาง พร้อมสั่งสอบประวัติลูกเรือ-ผู้โดยสารทุกคน ยุติการค้นหาฝั่งทะเลจีนใต้ ขณะที่ตำรวจบุกค้นบ้านกัปตันแล้ว

           เมื่อเวลาประมาณ 12.30 น. วันที่ 15 มีนาคม 2556 เว็บไซต์เดอะมาเลย์เมลออนไลน์ มีรายงานว่า ฝ่ายสืบสวนมาเลเซียฟันธงแล้ว ว่าเครื่องบินเที่ยวบินที่ MH370 สายการบิน มาเลยเซีย แอร์ไลน์ส ถูกก่อวินาศกรรมจี้เครื่องบิน อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ยังคงไม่ทราบถึงสาเหตุที่ทำให้เครื่องบินที่มุ่งหน้าไปยังปักกิ่ง พร้อมกับผู้โดยสาร 239 คนถูกจี้ไปหลังออกจากท่าอากาศยานนานาชาติกัวลาลัมเปอร์ เมื่อวันที่ 8 มีนาคมที่ผ่านมา

          ด้านหนังสือพิมพ์เซาท์ไชน่ามอร์นิ่งโพสต์ สื่อฮ่องกง รายงานว่า ผู้ก่อวินาศกรรมอาจเป็น 1 ในนักบิน หรืออย่างน้อยก็ต้องเป็นคนที่มีประสบการณ์ในด้านการบิน

           สำหรับรายงานดังกล่าวมีขึ้นหลังสำนักข่าวเอเอฟพีได้อ้างคำพูดของเจ้าหน้าที่ทหารอาวุโสของมาเลเซีย ระบุ เป็นที่เชื่อในขณะนี้ว่า MH370 น่าจะจงใจปกปิดเส้นทางการบินที่มุ่งหน้าไปยังมหาสมุทรอินเดีย โดยใครสักคนที่มีความรู้เรื่องเครื่องส่งสัญญาณบอกพิกัดของเครื่องบิน ขณะที่วอลล์สตรีทเจอร์นัล ยังชี้ให้เห็นว่าการปิดระบบสื่อสารของ MH370 จะต้องอาศัยความเชี่ยวชาญด้านเทคนิก และอาจเกิดจากฝีมือคนบนเครื่อง

          ขณะที่เมื่อเวลา 13.19 น. ตามเวลาประเทศไทย นายนาจิบ ราซะก์ นายกรัฐมนตรีมาเลเซียได้ขึ้นเวทีแถลงการณ์ เพื่อแสดงความเสียใจต่อครอบครัวของผู้โดยสารและลูกเรือบน MH370 โดยยืนยันว่ามาเลเซียจะสืบเสาะค้นหาเครื่องบิน MH370 อย่างสุดความสามารถ เข้าใจทุกคนต้องการข่าวสาร แต่ต้องขอยืนยันให้ชัดเจนก่อน

          โดย นายนาจิบ ราซะก์ ระบุว่า ทางมาเลเซียได้เริ่มค้นหาเครื่องบิน MH370 ในจุดที่ขาดการติดต่อก่อน จากนั้นเมื่อได้รับข้อมูลเรดาห์ทหารจึงได้เริ่มขยายพื้นที่ค้นหามาสู่มะละกาและทะเลอันดามัน ขณะที่จากข้อมูลล่าสุดเช้าวันนี้ (15 มีนาคม) เชื่อว่าเครื่องบินจงใจเปลี่ยนทิศทางบินไปทางตะวันตกเป็นเวลา 6 ชั่วโมง โดยมีข้อสงสัยในขณะนี้ว่าเครื่อง MH370 อาจมุ่งหน้าขึ้นไปยังชายแดนคาซัคสถาน หรือเติร์กเมนิสถาน หรืออาจมุ่งหน้าลงไปยังตอนใต้ของมหาสมุทรอินเดีย ซึ่งยังไม่ทราบชัด โดยครั้งสุดท้ายที่สัญญาณด้าวเทียมติดต่อ MH370 ได้คือเมื่อเวลา 08.11 น. วันที่ 8 มีนาคม ตามเวลาท้องถิ่นมาเลเซีย โดยขณะนี้มีปลายทางที่ต้องสงสัยว่า MH370 บินไป 2 ทาง คือ แนวชายแดนคาซัคสถาน ถึงทางตอนเหนือของไทย และอินโดนีเซีย ถึงตอนใต้มหาสมุทรอินเดีย

          ทั้งนี้ นายนาจิบ ราซะก์ ได้ประกาศสิ้นสุดการค้นหา MH370 ในฝั่งทะเลจีนใต้ และจะลุยสืบหาเป้าหมายที่ปลายทาง โดยเดินหน้าให้กระทรวงต่างประเทศเร่งประสานนานาประเทศเพื่อหาเบาะแสต่อไป อย่างไรก็ตาม นายนาจิบ ราซะก์ ไม่ขอยืนยันว่า MH370 ถูกปล้นกลางอากาศ โดยจะเร่งสืบทุกประเด็น และเดินหน้าสอบประวัติลูกเรือกับผู้โดยสารทุกคน

          ในเวลาต่อมา มีรายงานด้วยว่า ภายหลังที่นายกรัฐมนตรีมาเลเซียแถลงข่าวว่า เที่ยวบิน MH370 จงใจบินออกนอกเส้นทางนั้น ทางตำรวจมาเลเซียก็ได้เข้าตรวจค้นบ้านของกัปตัน ซาฮารี อาหมัด ซาห์ วัย 53 ปี นักบินของเที่ยวบิน MH370 สายการบิน มาเลเซีย แอร์ไลน์ส ที่หายไปทันที 

          สำหรับ กัปตัน ซาฮารี อาหมัด ซาห์ ได้เข้ามาทำงานให้กับสายการบิน มาเลเซีย แอร์ไลน์ส ตั้งแต่ปี 2524 และยังได้รับการรับรองจากกรมการบินพลเรือนของมาเลเซีย ให้เป็นผู้ตรวจสอบการทดสอบการบินจากเครื่องซิมูเลเตอร์ หรือเครื่องจำลองการบินด้วย โดยมีรายงานว่าเขายังมีเครื่องจำลองการบินนี้ไว้ที่บ้านของเขา


          ขณะที่ อันนัด จัวฮาริ ยาห์ยา ซีอีโอของ มาเลเซีย แอร์ไลน์ส ได้เผยว่าทางสายการบินไม่มีนโยบายห้ามพนักงานเป็นเจ้าของเทคโนโลยีดังกล่าว และกัปตันซาฮารี ก็ได้รับอนุญาตให้ดำเนินการงานอดิเรกของเขา รวมทั้งยังมีนักบินคนอื่น ๆ อีกหลายคนที่มีเครื่องจำลองการบินอยู่ที่้บ้านของพวกเขาเช่นกัน