เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก Julie Larsen Maher
นักสำรวจพบเห็นกวางแคชเมียร์ หรือ กวางเขี้ยวดาบ อีกครั้ง ในพื้นที่ป่าของอัฟกานิสถาน หลังไม่มีใครพบเห็นมานานแล้วกว่า 60 ปี เป็นกวางพันธุ์เล็กใกล้สูญพันธุ์ มีเขี้ยวงอกยาวเหมือนแวมไพร์
รายงานจากเว็บไซต์ livescience เผยเมื่อวันที่ 3 พฤศจิกายน 2557 ว่า กลุ่มนักสำรวจได้เผยแพร่บทความการค้นพบกวางแคชเมียร์อีกครั้ง ในวารสาร Oryx ฉบับเดือนพฤศจิกายน โดยทีมได้เข้าไปสำรวจพื้นที่ป่าในเขตจังหวัดนูริสถาน ของประเทศอัฟกานิสถาน เมื่อช่วงปี 2551-2552 และได้พบเห็นกวางแคชเมียร์อีกครั้ง ถือเป็นการค้นพบที่น่าตื่นเต้นมาก เนื่องจากยังไม่มีใครได้พบเห็นกวางชนิดนี้อีกเลยนับแต่ปี 2491 เป็นต้นมา หรือกว่า 60 ปีมาแล้ว
ทั้งนี้กวางแแคชเมียร์ อยู่ในวงศ์เดียวกับกวางชะมด (Musk deer) ซึ่งมีลักษณะพิเศษคือจะมีเขี้ยวงอกยาวออกมาดูโดดเด่นกว่ากวางทั่ว ๆ ไป คล้ายแวมไพร์ จึงเป็นที่รู้จักในอีกชื่อหนึ่งว่า กวางเขี้ยวดาบ โดยตัวผู้จะมีเขี้ยวยาวกว่าตัวเมียและจะใช้ต่อสู้กันเพื่อแย่งตัวเมียในฤดูผสมพันธุ์
กวางเขี้ยวดาบแคชเมียร์มีถิ่นอาศัยอยู่แถบเทือกเขาหิมาลัยทางตอนเหนือของอินเดีย ทางตอนเหนือของอัฟกานิสถาน ตลอดจนพื้นที่เขตแคชเมียร์ของอัฟกานิสถาน ซึ่งมันได้รับการขึ้นทะเบียนจากสหภาพนานาชาติเพื่อการอนุรักษ์ธรรมชาติและทรัพยากร ให้เป็นสัตว์กลุ่มบัญชีแดง หรือสัตว์ที่ใกล้สูญพันธุ์แล้วนั่นเอง
สาเหตุของการลดจำนวนลงของกวางเขี้ยวดาบนั้นเนื่องมาจาก การถูกรุกล้ำถิ่นที่อยู่และการถูกล่า โดยเฉพาะในประการหลังนั้น คนนิยมล่ากันมากเพื่อนำต่อมผลิตกลิ่นของมันมาขาย เนื่องจากกวางเขี้ยวดาบมีลักษณะพิเศษคือมีต่อมผลิตกลิ่นเฉพาะตัว (musk) และกลายเป็นสินค้าซึ่งเป็นที่ต้องการมากในตลาดมืด ราคาต่อน้ำหนักของต่อมกลิ่นของกวางเขี้ยวดาบนั้นเมื่อเทียบกับทองคำแล้วยังมีมูลค่ามากกว่าเสียอีก ตกอยู่ที่ 23,511 ปอนด์/กก. (ประมาณ 940,440 บาท)
นอกจากนี้เหตุการณ์สู้รบที่เกิดขึ้นในแคชเมียร์ ยังทำให้เจ้าหน้าที่จากสมาคมอนุรักษ์พันธุ์สัตว์ป่า (Wildlife Conservation Society) ไม่สามารถเข้าไปทำงานในพื้นที่ได้มากว่า 4 ปีแล้ว และคาดหวังว่าการสู้รบจะสงบลงโดยเร็ว เพื่อเจ้าหน้าที่จะได้ลงพื้นที่เพื่อหาทางปกป้องและขยายพันธุ์กวางเขี้ยวดาบแคชเมียร์ต่อไป ก่อนที่มันจะกลายเป็นสัตว์สูญพันธุ์ไปจริง ๆ