เร่งดับไฟป่าลามจาก สปป.ลาว ขึ้นภูชี้ฟ้า ใช้เวลานานกว่า 5 ชั่วโมงจึงควบคุมสถานการณ์ได้ พร้อมเฝ้าระวัง 24 ชั่วโมง ด้านผู้ว่าฯ เชียงรายสั่ง ห้ามชาวบ้านจุดไฟเผาป่าเด็ดขาด
เมื่อวันที่ 22 มีนาคม 2559 ได้มีการเผยแพร่ภาพไฟป่าที่ลุกลามขึ้นยอดภูชี้ฟ้า บริเวณชายแดนไทย-สปป.ลาว โดย นายสราวุธ ค้อมคำพันธ์ หน้าสถานีควบคุมไฟป่าภูชี้ฟ้า สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 15 ได้นำกำลังเจ้าหน้าที่ร่วมกับหน่วยจัดการต้นน้ำหงาวงาว วนอุทยานแห่งชาติภูชี้ฟ้า รวมทั้งชาวบ้านจากบ้านร่มฟ้าไทย ต.ตับเต่า อ.เทิง และบ้านห้วยหานบ้านร่มฟ้าทอง ต.ปออ.เวียงแก่น ร่วมกันดับไฟป่าที่เกิดขึ้นจากฝั่ง สปป.ลาว แล้วลุกลามเข้ามายังภูชี้ฟ้า เป็นแนวยาวเกือบ 1 กิโลเมตร โดยได้มีการควบคุมตามแนวกันไฟที่ได้ดำเนินการจัดทำไว้ก่อนหน้านี้ ใช้เวลานานกว่า 5 ชั่วโมง จึงสามารถควบคุมสถานการณ์ได้ พร้อมติดตามเฝ้าระวังตลอด 24 ชั่วโมง และเช้าวันรุ่งขึ้น (23 มีนาคม) จะมีการสำรวจความเสียหายอีกครั้ง เบื้องต้นเจ้าหน้าที่แจ้งว่า ป่าฝั่งไทยยังถือว่าปกติไม่เกิดความเสียจากไฟป่า
มีรายงานเพิ่มเติมว่า สำหรับภาพที่มีชาวเน็ตบางส่วนแชร์ส่งต่อกัน โดยเห็นภาพทางไฟยาว ๆ ลุกไหม้อยู่บนภูชี้ฟ้า พร้อมกับบอกว่าเกิดจากฝีมือชาวบ้านเผาป่าเพื่อทำไร่ข้าวโพด จากการตรวจสอบพบว่า ข้อมูลดังกล่าวไม่ถูกต้อง แต่แนวไฟดังกล่าว ทางเจ้าหน้าที่ได้วางแผนและจุดขึ้นเพื่อใช้เป็น "แนวกันไฟ" ไม่ได้เกิดจากฝีมือชาวไร่ข้าวโพดตามที่แชร์กัน
ทั้งนี้นายบุญส่งยังได้เผยข้อมูลการเกิดไฟป่า พบว่าโดยเฉลี่ยใน 1 วันจะเกิดเหตุไฟป่าทั้งสิ้น 25 ครั้ง แบ่งเป็นพื้นที่ในเขตป่าอนุรักษ์ 8 ครั้ง พื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ 14 ครั้ง และพื้นที่เกษตรกรรม 3 ครั้ง ขณะที่ค่าฝุ่นละอองในอากาศจากการตรวจวัดของกรมควบคุมมลพิษ ผ่านเครื่องตรวจวัดอัตโนมัติที่ อ.แม่สาย วัดได้ 293 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ซึ่งมีปริมาณเพิ่มขึ้น ขณะที่ใน อ.เมืองเชียงราย ค่าฝุ่นละอองลดลงเพราะมีลมพัดตลอดทั้งวัน วัดค่าได้ 129 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร แต่ก็ยังถือว่าอยู่ในเกณฑ์เกินค่ามาตรฐานอยู่ดี
ภาพจาก เฟซบุ๊ก หัสดินทร์ธร สองสมุทร
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก