อุ๊บ วิริยะ ลุยฟ้อง ลุงพล อ้างชื่อรับบริจาค เป็นผู้ชายแต่กลับตอแหล ไล่ไปเอาผ้าถุงมาคลุมหัว เดือดเจ้าตัวกับยูทูบเบอร์สายเลียพาดพิงไม่หยุด ถามต่อยกูไหมจะได้จบ
วันที่ 19 มกราคม 2564 รายการ ถามสุดซอย ได้สัมภาษณ์ อุ๊บ วิริยะ นักปั้นมือทอง ถึงเรื่องราวดราม่ากับ นายไชย์พล วิภา หรือ ลุงพล ที่จากเคยเข้าไปช่วยเหลือดูแลเรื่องงาน แต่ปัจจุบันกลับมาถึงจุดแตกหักกันแล้ว
การรับเงินบริจาคของลุงพลเริ่มตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2563 มันผ่านมาหลายเดือนแล้ว ทำไมอยู่ดี ๆ คิดจะมาฟ้องตอนนี้ ?
ก่อนหน้านั้นเขาเอารูปมาก็ไม่ได้ว่าอะไร ?
อุ๊บ
วิริยะ : ไม่ได้ว่าอะไร เพราะสมานฉันท์ รักกันอยู่ ดูแลซึ่งกันและกัน
เราไม่คิดว่างูจะแว้งฉกเรานี่คะ ตอนนี้ฉกเจ็บ เจ็บมาก ๆ เสียความรู้สึก
เหมือนเราทุ่มเททั้งกาย จิตใจ และวิญญาณ เราแทบดูแลยิ่งกว่าลูกหลาน
เราเทิดทูน แต่สิ่งที่เราได้รับมันชีช้ำกะหล่ำปลีดอง เจ็บ
แล้วทำกับคนที่เรารักด้วย จากเหตุการณ์ครั้งที่หนึ่ง เทงาน
เขาบอกว่าผมไม่ได้เทงานนะ
แต่ขอเบรกงานทุกอย่างของคุณอุ๊บเพื่อให้กำลังใจน้องนักข่าวคนหนึ่ง
ซึ่งเรามีปัญหากับนักข่าวคนนั้น แต่เราเคลียร์กันเรียบร้อยแล้ว
เขาไม่แยกแยะเรื่องส่วนตัวกับเรื่องงาน ไม่มืออาชีพเลย ไม่โปรเฟสชั่นแนล
ถ้าเป็นเมืองนอกนะฟ้องร้องกันตาย
หลังจากวันนั้นยกเลิกงานมีการเคลียร์กันไหม ?
อุ๊บ วิริยะ : เขาอัดเสียงพี่ค่ะ ซึ่งตามหลักไม่ควรจะอัด สาบานเลยนะคะ 62 ปี ดิฉันไม่เคยอัดเสียงใครเลยในโทรศัพท์ และไม่เคยคิดจะทำด้วย การอัดเสียงมันส่อถึงสันดาน พฤติกรรมที่คิดว่าไม่ควรจะทำ เขาอัดเพื่ออะไร แล้วดิฉันโชคดีมาก เป็นนางเอกกินน้ำส้มค่ะ ปกติจะปรี๊ด วีน เหวี่ยง เขาอาจจะเอาไปเป็นหลักฐานถ้าเราด่าเขามั้ง แล้วคลิปนี้เราได้มา ซึ่งไม่ควรจะทำ นี่คือเรื่องแรก หมอปลากับคุณน้ำฟ้าก็เป็นกาวใจ แต่หลังจากนั้นไม่หยุด
ไม่หยุดเรื่องอะไร ?
อุ๊บ
วิริยะ : มาด่าดิฉันว่าอีกะเทยป่วยจิต มันก็เหยียดเพศสภาพ เขาพูดจริงค่ะ
มีหลักฐานเป็นคลิปเสียงค่ะ ครั้งที่สาม มีการล้อเลียนการเดินแบบ
ซึ่งเราสอนให้เขาเดินเป็นผู้ชาย ไม่ได้สอนให้เขาเดินตูดเบี้ยว ครั้งที่สี่
มีการโพสต์ว่าเรื่องกุญแจคอนโด เป็นของคุณน้ำฟ้า
เวลาอีตาคนนี้กับนังเมียมาก็จะมาพักที่นี่
พอมีเรื่องราวเขาก็อยากได้กุญแจคืน
อีนี่ก็รับหน้าที่ทวงกุญแจในหน้าเพจไม่ได้รุนแรงอะไร แต่เขาก็ล้อเลียนกัน
แล้วบอกว่าไปคุยกับทางเจ้าของกุญแจ ไม่ได้ล้อเลียนคุณนะ แต่ล้อเลียนพี่อุ๊บ
ล่าสุดบอกไลฟ์ว่ามีบ้านหรือยัง มีที่พักหรือยัง คุณไม่ควรพูดแบบนี้
ฉันจะอยู่ตรงไหนก็เรื่องของฉัน เงินฉันก็มี มันเป็นความสุขส่วนตัว
ตอนนั้นมีปัญหาเพราะเลี้ยงแมวเยอะ เจ้าของห้องจะเอาบ้านคืน
แต่ตอนนี้เคลียร์กันเรียบร้อยไม่มีปัญหาอะไร ซึ่งมันไม่ควร
ประมาณ 4-5 เรื่อง มันสุม ๆ กันมา ก็เลยรวบตึงทีเดียว
เอาเรื่องที่เอารูปดิฉันไปใช้โดยไม่ได้รับอนุญาต เราปรึกษาทนายหลายคน
เขาบอกว่าเราดำเนินการได้ตามกฎหมายเพราะละเมิดสิทธิ์ และเราไม่ได้อนุญาต
บ้านเมืองมีขื่อมีแปมีกฎหมายนะ
เขาเอารูปไปใช้โดยไม่ได้รับอนุญาต ตอนนี้ยอดบริจาคเท่าไหร่ ?
อุ๊บ วิริยะ : 8.8 แสน เกือบล้านนะคะ ถ้าไม่ปิดก็เกินล้านแน่ค่ะ เขาบอกว่าจะเอาไปทำศาลาวัดที่กกกอก แต่เราไม่ไปยุ่งเกี่ยว เห็นเขาใส่ขาว ห่มขาว นั่งไหว้พระตลอดเวลา คิดว่าอีตานี่จิตใจดี ธรรมะธัมโม เราก็หลงเลย จิตใจดี พ่อพระ เข้าวัดเข้าวา ไหว้พระทุกวัน มโนหมด อยากเขกกะโหลกตัวเองในตอนนั้น คิดว่าการที่เขารับบริจาคเป็นการทำบุญที่แท้จริง แต่เพิ่งรู้ทีหลังว่าเงินไม่ได้ถึงวัดเลย พระออกมาแฉแล้วค่ะ ทุกวันนี้พระยังไม่ได้สักบาท
ภายใน 3 วันต้องปิดรับบริจาค ?
อุ๊บ
วิริยะ : เพราะว่าหมอปลาสายบุญตัวจริง ยืนกรานแอนตี้ต่อต้านคนรับบริจาค หมอปลาไม่เคยรับบริจาคเลย
พี่อุ๊บสงสัยลุงพล ?
อุ๊บ วิริยะ : ไม่ใช่พี่คนเดียว ทั้งประเทศไทยแหละค่ะ ไม่ว่าจะสื่อไหน ไม่ว่าจะเป็นเอฟซีที่ตอนนี้หูตาสว่างกันเยอะ บางคนโอนไปก็แหกหูแหกตาดูบ้าง ตาสว่างกันนะจ๊ะ กินข้าวกันนะจ๊ะ เอาเวลานั้นไปหาเงินเลี้ยงลูกเลี้ยงผัวดีกว่า คุณรักใครบูชาใครก็เรื่องของคุณ ไม่ใช่ว่าด่า ๆ ฉัน
ลุงพลมีการออกมาเคลียร์หรือยัง ?
อุ๊บ วิริยะ : เขายังไม่ออกมาพูด ดูสิว่าจะพูดยังไง คนเราพอถึงสูงสุดแล้วก็จะตกต่ำ เป็นวิบากกรรม
เคยรักกันมา แตกเพราะอะไร ?
อุ๊บ
วิริยะ : นายคนนี้ทำตัวเอง ไม่ใช่ทำกับพี่คนเดียว
แต่เขาทำกับคนรอบข้าง เมื่อก่อนเราช่วยด้วยใจ ไม่ได้หวังอะไร กกกอกเราก็ไป
ไม่ได้ไปโหนกระแสนะคะ ก็ถูกคนด่าเหมือนกัน ว่าไปเกาะเขาดัง ไปโหนกระแส
ก็โหนจริง ฉันก็ไปเงินฉันเอง ทำไมล่ะ บอกตรง ๆ ว่าโหน
โหนได้ตังค์ฉันก็โหนมา
แล้วที่พูดบ่อย ๆ ว่าเขาทำกับคนอื่นด้วย ทำกับใคร ?
อุ๊บ วิริยะ : รูปทั้งหมดทั้งมวลที่เอาไปขอรับบริจาค คุณทำพฤติกรรมเยี่ยงนี้ไม่สมควรอยู่ในวงการ ไม่ควรอยู่ในประเทศไทย
หรือเขาไม่เคยอยู่ในวงการ เลยวางตัวไม่ถูก ?
อุ๊บ
วิริยะ : พี่อุ๊บสอนตลอดเวลาค่ะ สอนทุกอย่าง อย่าเปลี่ยนแปลงตัวเอง
ให้เสมอต้นเสมอปลาย ออกรายการไหน สอนตลอด พี่ว่าไม่ใช่นิสัยแล้วมั้ง
เพราะเขาไม่เคยเปลี่ยน มันเป็นสันดานเดิม เคยคุยกันดี ๆ ก็ยังเหมือนเดิม
ให้อภัยครั้งแล้วครั้งเล่ามันไม่ไหวนะคะ แล้วการที่คุณมาเหยียดเพศสภาพ
ดูถูกมากนะ สังคมนี้ไม่ต้อนรับ ตอนนี้เขา #เซฟอุ๊บวิริยะ แบนคนเหยียดเพศ
ไม่ว่าจะมาทางไหนก็กลับลงหลุมฝังไปเลย
กับหมอปลา อะไรเป็นตัวชุดชนวน ?
อุ๊บ วิริยะ : พี่สงสารหมอปลา เขาปากร้ายแต่จริงใจ เขาให้ใจและทำอะไรมากกว่าพี่อีก พี่ไม่เคยให้เงินแต่หางานให้เขา แต่หมอปลาทุกสิ่งทุกอย่าง เปิดใจดูพฤติกรรมหมอปลา เขามาด้วยใจ เอฟซีบางคนมาด่า และยูทูบเบอร์หลายคนมาด่าพี่และหมอปลา กำลังเก็บรวบตึงทีเดียวเลยนะคะ นายว่าขี้ข้าพลอย จะสั่งสอน เอาให้จุก โกรธ (หัวเราะ)
หายโกรธได้ไหม ถ้านัดคุยกัน ?
อุ๊บ วิริยะ : ไม่ได้แล้ว มันเยอะ เขาเอาตัวเองให้รอดก่อนค่ะ พี่ไม่ไหวแล้ว เราไม่เคยเจอ มาเจอคนนี้ฉันยอม ถ้าเป็นชะนี กะเทย ถ้าตอแหล ก็ไม่รังเกียจ แต่ถ้าผู้ชายแมน ๆ อกสามศอกแบบนี้ มีพฤติกรรมตอแหลขนาดนี้ เอากระโปรง ผ้าถุง มาคลุมหัวซะ
อุ๊บ วิริยะ : ได้ยินมาจากหลายเพจ เห็นเขาเรียกกันไอ้ นน. (หนองใน) ก็ไม่รู้ว่าเป็นใครนะคะ แต่อีตาคนนี้เห็นเขาเขียนว่าไอ้หนองใน ก็ไม่มีการตอบโต้ ไม่มีการชี้แจง คิดดูว่าจริงไม่จริง ถ้าบางเรื่องเราโดน ไม่จริง เรื่องแรง เราก็ต้องตอบโต้เป็นเรื่องปกติ เราต้องปกป้องชื่อเสียงศักดิ์ศรีของเรา
ทนายโนบิตะ กฤษฎา โลหิตดี อยู่ในสาย ทำไมถึงประกาศแยกทางลุงพล เกิดอะไรขึ้น ?
ทนายโนบิตะ : เหตุผลที่ยุติบทบาทเป็นที่ปรึกษา ให้คำแนะนำด้านกฎหมาย มีอยู่ 3 ข้อ หนึ่ง ผมหมดกำลังใจ เนื่องจากบรรดาเอฟซีลุงพลเข้ามาด่าและใส่ความว่าผมเป็นนกสองหัว นิสัยไม่ดี เข้ามาสืบความลับลุงพลไปให้หมอปลา พี่อุ๊บ จนเกิดความท้อใจและเสียใจ เหตุผลหลัก ๆ ทำให้ตัดสินใจยุติบทบาทของผม คือถ้าย้อนกลับไปวันที่ 9 ผมได้เดินทางไปบ้านกกกอก พาน้องโอ๊ต น้องมน ไปพบพนักงานสอบสวนเพื่อเก็บวัตถุพยานเพิ่มเติม วันดังกล่าวมีการพูดคุยกับลุงพลว่าเข้าเครื่องจับเท็จมาเป็นยังไงบ้าง จนลุงพลเปิดใจว่ากรณีลุงพลเกิดความไม่ไว้ใจตัวหมอปลา น้ำฟ้า และทีมงาน เนื่องจากลุงพลเจอเครื่องดักฟังที่เกิดขึ้นบนรถ ทำให้เสียใจและไม่ไว้ใจ มีการสั่งให้เอากล้องวงจรปิดบนรถและถอดกล้องวงจรปิดที่บ้านออก
ทีนี้ผมให้คำแนะนำไปว่าเรื่องนี้ยังไม่มีการตรวจสอบ
เอาซิมการ์ดไปตรวจสอบได้ เพื่อให้ความเป็นธรรม หมอปลา พี่น้ำฟ้า และป๊อบปี้
ที่เอากล้องไปติด ผมก็บอกว่าทุกอย่างตรวจสอบก่อน
เอางี้ไหมเพื่อความสบายใจ ให้ไปคุยกันที่เพชรบุรีเป็นการส่วนตัว มีลุงพล
ป้าแต๋น หมอปลา พี่น้ำฟ้า คุยกันเป็นการส่วนตัว
อะไรติดอยู่ในใจจะได้เคลียร์ สามัคคีกัน
ซึ่งปรากฏว่าลุงพลไม่ปฏิบัติตามคำแนะนำ ลุงพลเพิกเฉย และวันที่ 11 ช่วงเช้า
ลุงพลดันไปให้สัมภาษณ์สื่อและผ่านช่องยูทูบเบอร์หลายช่องว่าพบเครื่องดักฟังบนรถ
ซึ่งมันผ่านมาเป็นเดือนแล้ว เมื่อคำแนะนำที่ปรึกษากฎหมาย ลุงพลเพิกเฉย
ผมก็เลยไม่สามารถทำหน้าที่ต่อไปได้ ผมจึงตัดสินใจยุติหน้าที่ตรงนั้น
เครื่องดักฟังมาจากใคร ?
ทนายโนบิตะ : อยู่ระหว่างตรวจสอบ พอทราบเรื่องก็ถามหมอปลาแล้ว ก็ปฏิเสธว่าไม่ใช่ คุณป๊อบปี้ยืนยันว่าไม่ได้เป็นคนติดตั้ง พี่น้ำฟ้าก็ยืนยันว่าจะทำไปทำไม ผมก็เลยติดต่อไปหาป้าแต๋น เพื่อประสานอธิบายเรื่องที่เกิดขึ้น ปรากฏว่าโทร. ไปช่วงเที่ยง ป้าแต๋นไม่ได้รับสาย ผมจึงไลน์ไปบอกว่าคุยกับทุกคนแล้ว ทุกคนบอกว่าไม่ได้เป็นคนทำ ก็ให้ป้าแต๋นไปแจ้งความ หรือพูดคุยกับหมอปลา แล้วหลังจากนั้นก็ไม่ได้รับการติดต่อจากลุงพลหรือป้าแต๋นใด ๆ ทั้งสิ้น เมื่อผมติดต่อไปแล้วไม่ยอมติดต่อกลับมา ผมถือว่าผมหมดหน้าที่แล้ว การประสานของผมไม่เป็นผล ผมก็ขอถอนตัว และประกาศตามหาเจ้าของจีพีเอสตัวจริงมาให้ได้ว่าเป็นใคร
เขาดักฟังทำไม ?
ทนายโนบิตะ : ผมว่าไม่ใช่เครื่องดักฟังนะ เป็นการเอามาดูเป็นรูปภาพที่เปิดจากกูเกิล เป็นจีพีเอส ถ้าตามความเห็นผม ซึ่งดูแล้วเป็นการใช้ติดตามการเคลื่อนไหวสามี กรณีจะฟ้องหย่า ผมบอกอย่างนี้ ลุงยังหัวเราะอยู่เลย
ก่อนยุติได้คุยกับลุงพลก่อนไหม ?
ทนายโนบิตะ : เราไม่ได้พูดคุยกันก่อน แต่เราเสียใจ
เนื่องจากเอฟซีมารุมด่า พอช่วยก็ด่า พอถอนตัวก็รุมด่า
อีกอย่างลุงเริ่มไม่ไว้ใจแล้ว จุดแตกหักคือผมประสานให้พูดคุยกันแล้ว
แจ้งข้อเท็จจริงกันแล้ว ลุงอ่านแต่ไม่ตอบ ไม่โทร. กลับมา
มันผิดวิสัยการเป็นทนายความและลูกความกัน
สรุปเครื่องดักฟังเป็นจีพีเอส ?
ทนายโนบิตะ : เป็นจีพีเอสครับ
ประเด็นลุงพลเข้าเครื่องจับเท็จ เป็นยังไงบ้าง ?
ทนายโนบิตะ : เป็นการเข้าเครื่องจับเท็จทุก ๆ คนที่พนักงานสอบสวนคิดว่าจะมีความเกี่ยวข้องในคดี มีการให้การในฐานะพยานจำนวนมาก คำให้การมีความขัดแย้งกันหลายประเด็น ผมคิดว่าพนักงานสอบสวนเลยเอาเครื่องจับเท็จมาช่วยวิเคราะห์ในเรื่องความน่าเชื่อถือ จำกันได้ไหม ผบ.ตร. แถลงว่ามีการทำลายความน่าเชื่อถือของพยาน มีการให้การในวันนี้ แล้วมีการปล่อยข่าวทำลายความน่าเชื่อถือ เหมือนพยานพูดกลับไปกลับมา ทำให้พยานกลุ่มนั้นขาดความน่าเชื่อถือไประดับหนึ่ง การดึงน้ำหนักพยานกลับมาได้ ต้องอาศัยเครื่องจับเท็จ และคำถามที่จะนำมาซึ่งน้ำหนักในการออกหมายจับหรือลงโทษจำเลยได้ จึงเอาความเห็นผู้เชี่ยวชาญมาประกอบ โดยลำพังเครื่องจับเท็จไม่สามารถนำมาลงโทษจำเลยได้ แต่เอามาประกอบกับพยานหลักฐานอื่นเพื่อให้ลงโทษจำเลยได้
ตัวทนายโนบิตะคิดว่าลุงพลเป็นผู้บริสุทธิ์ไหม ?
ทนายโนบิตะ : ผมยืนยันมาตลอดว่าลุงพลเป็นผู้บริสุทธิ์ จากสัญชาตญาณการลงพื้นที่และหมอปลา แม้วันนี้เราไม่ได้อยู่เคียงข้างลุงพล แต่ยังเชื่อมั่นในความบริสุทธิ์ลุงพล ไม่ว่าหวยจะออกลุงพลหรือเปล่า แต่เชื่อว่าลุงพลจะต่อสู้และเอาความบริสุทธิ์กลับมาได้ อย่าลืมว่าหมายจับเป็นแค่จุดเริ่มต้นต่อสู้คดี ถ้าหมายจับออกลุงพล นั่นไม่ได้หมายความว่าลุงพลเป็นผู้กระทำความผิดนะ ตราบใดที่ศาลไม่มีคำพิพากษาถึงที่สุด ลุงพลก็ยังเป็นผู้บริสุทธิ์อยู่ ดังนั้นต้องมีการต่อสู้ในกระบวนการพิจารณาคดีในชั้นศาลต่อไป
ถ้าลุงพลมาติดต่อให้กลับไปช่วยเรื่องคดี ?
ทนายโนบิตะ : ลุงพลมีคนรักและช่วยเหลืออีกมาก
ผมคิดว่าไม่น่าให้เด็กกะโปโลอย่างผมไปช่วยแล้ว
ลุงคงให้คนมีความรู้ความสามารถที่มากกว่าผม และพร้อมช่วยเหลือมากกว่าผม
ซึ่งยังมีอีกเยอะ
อุ๊บ วิริยะ : ก็ 50:50 ไม่อยากปรักปรำใคร แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น บางคนอาจเจอข้อหาสมรู้ร่วมคิด ไม่ต่างกันเท่าไหร่
ตอนแรกพี่อุ๊บอยากให้ลุงพลรอด ถ้าวันนี้ ?
อุ๊บ วิริยะ : อยู่ที่เวรกรรมอยู่ที่บุญของเขา วันนี้ถึงเราเทกัน เลิกรักกัน แต่เรารู้สึกว่า 50:50 ดีกว่า ไม่อยากเผื่อใจมากไปกว่านี้
ถ้าวันหนึ่งลุงพลมาขอโทษพี่อุ๊บ ?
อุ๊บ
วิริยะ : ให้อภัย แต่ไม่สุงสิง ไม่คบค้าสมาคม จบ ไม่อยู่ทีมลุงพลแล้ว
ก็อยากฝากว่าคนเราการห่มขาว นุ่งขาว ไหว้พระทุกวัน
ไม่ได้ช่วยขัดเกลาจิตใจขึ้นเลย อย่าลืมนะบาปบุญนรกสวรรค์มีจริง
อุ๊บ วิริยะ : ไม่ได้เป็นผัวพี่ เสียใจทำไม เสียความรู้สึกนิดหน่อย ผ่านมาแล้วก็ผ่านไป
หลายคนบอกว่าพี่อุ๊บด่าลุงพลหนักมาก ?
อุ๊บ วิริยะ : ถ้าตาคนนั้นหยุดพาดพิงพี่ รวมทั้งยูทูบเบอร์สายเลียทั้งหลาย ถ้าหยุดเราก็หยุด โอเค มาต่อยกันไหม ท้าต่อยในรายการเลย มาต่อยกับกูไหม จะได้จบ ๆ สักที
อยากฝากอะไรถึงลุงพล ?
อุ๊บ วิริยะ : ทุกคนกินข้าวกันนะ ค. ว. ย. คิด วิเคราะห์ แยกแยะ แหกหูแหกตา แต่ก็ขอบคุณเอฟซี ที่ตอนแรกอยู่ฝั่งตาคนนั้น ตอนนี้กลับตัวกลับใจ แต่ก่อนด่าพี่ ตอนนี้คอมเมนต์มาขอโทษ ก็ให้ทุกคนเคารพการตัดสินใจของแต่ละคน คุณรักใครก็ไม่ควรจูงมาเป็นวัวเป็นควาย ที่สำคัญไม่ได้ขอข้าวคุณกิน ไม่ได้นั่งอึบนหัวใคร ก็ฝากเอฟซีให้เข้าใจ เอาเวลาไปทำมาหากิน เลี้ยงลูกเลี้ยงผัวดีกว่า
รายการ ถามสุดซอย
ออกอากาศวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 10.10-11.00 น. ทางเนชั่น ช่อง 22
ดำเนินรายการโดย "ธัญญ่า ธัญญาเรศ เองตระกูล"