กองปราบปราม บุกตรวจค้นสำนักงานแก๊งแอปฯ เงินกู้รายใหญ่ 3 จุด ใน จ.นนทบุรี พบพนักงานและผู้ที่เกี่ยวข้องกว่า 50 คน และอุปกรณ์คอมพิวเตอร์กว่า 200 เครื่อง
วันที่ 30 มิถุนายน 2564 พล.ต.ต. สุวัฒน์ แสงนุ่ม ผู้บังคับการกองปราบปราม นำหมายค้นศาลอาญาพร้อมกำลังตำรวจกองปราบปราม กว่า 20 นาย เข้าตรวจค้นอาคารทาวน์โฮม 3 หลัง ในพื้นที่ ต.บางกระสอ อ.เมือง จ.นนทบุรี ตั้งอยู่ภายในหมู่บ้านจัดสรร ซอยรัตนาธิเบศร์ 28 หลังสืบทราบว่ามีการลักลอบเปิดใช้เป็นสำนักของเครือข่ายเงินกู้ออนไลน์ แอปพลิเคชัน "ช้างเผือก, ช้างมืออาชีพ เงินกู้ดีที่สุด"
โดยจากการเข้าตรวจค้นอาคารทั้ง 3 จุด ที่ใช้ก่อเหตุพบเครื่องคอมพิวเตอร์กว่า 200 เครื่อง และพนักงานอีกกว่า 50 คน ขณะกำลังให้บริการเงินกู้ออนไลน์ โดยคิดอัตราดอกเบี้ยเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด พร้อมยึดสมุดบัญชีธนาคาร เอกสารรายชื่อลูกค้ากว่า 2,000 ราย จากการตรวจสอบพบว่า ชั้นที่ 1 ถูกจัดวางด้วยเครื่องคอมพิวเตอร์ และโต๊ะทำงาน ส่วนชั้น 2 และ 3 ตบแต่งเป็นโซนอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ สำหรับไว้สอนงานให้กับพนักงานใหม่ และชั้น 4 จะมีอุปกรณ์คอมพิวเตอร์และพนักงานทั้งชายและหญิง 7-8 คน ที่มีความชำนาญในการทวงหนี้กับลูกค้า
จากการสอบถามพนักงาน ระบุว่า ตนเองมีหน้าที่ในการทวงถามเงินกับลูกหนี้ที่มีการกู้ผ่านแอปพลิเคชันจากบริษัท ถึงความพร้อมในการชำระเมื่อครบกำหนด โดยยืนยันว่าไม่มีการข่มขู่หรือใช้ความรุนแรงเพราะปัจจุบันส่วนใหญ่ไม่สามารถติดต่อลูกหนี้ได้ ขณะที่พนักงานอีกคน ระบุว่า ยังอยู่ในระหว่างฝึกงานติดตามทวงถามเงินจากลูกหนี้ โดยจะได้ค่าจ้างเดือนละ 10,000 บาท โดยเพิ่งมาทำงานได้เพียง 1 เดือน และไม่ทราบว่างานที่ทำผิดกฎหมาย
พล.ต.ต. สุวัฒน์ กล่าวว่า ตำรวจกองปราบปรามได้ติดตามพฤติกรรมของแก๊งปล่อยเงินกู้ดอกเบี้ยโหดที่มีนายทุนเป็นชาวจีน มานานกว่า 1 เดือน โดยได้เช่าสถานที่และเปิดรับพนักงานคนไทยมาทำหน้าที่ปล่อยเงินกู้ผ่านแอปพลิเคชัน และทวงหนี้ หากรายไหนไม่ชำระหนี้ตามกำหนดหรือผิดเงื่อนไข ก็จะมีการประจานข้อมูลลูกค้าให้กับคนใกล้ชิดรับรู้เพื่อให้เกิดความอับอาย หรือบางครั้งก็จะใช้ความรุนแรงด้วยการส่งข้อความไปข่มขู่กับญาติ หรือคนรู้จัก เนื่องจากบริษัทจะมีข้อมูลพื้นฐานของผู้กู้เงิน และรายชื่อบุคคลในโทรศัพท์ของลูกหนี้ โดยการปล่อยกู้ดังกล่าวมีหลักฐานชัดเจนว่าคิดดอกเบี้ยเกินกว่ากฎหมายกำหนด ซึ่งเข้าข่ายความผิดตามกฎหมายฐานคิดดอกเบี้ยเกินอัตราที่กฎหมายกำหนดไว้
อย่างไรก็ตาม จากการตรวจสอบประวัติของนายทุนชาวจีนรายนี้ พบว่าจะตระเวนเช่าสถานที่ในจังหวัดชลบุรี, เชียงราย เพื่อกระทำผิดมาก่อนหน้านี้แล้ว โดยได้มาเช่าพื้นที่จังหวัดนนทบุรีเมื่อ 2 เดือนที่ผ่านมา หลังจากนี้ตำรวจจะตรวจสอบเส้นทางการเงิน รวมทั้งประสานสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน หรือ ปปง. เพื่อตรวจสอบและดำเนินคดีฐานฟอกเงินด้วย