สาวร้องทุกข์ ถูกแฟนหนุ่มกัดใบหน้าหวิดเสียโฉม โมโหปมไม่นั่งกินเหล้าด้วย ทำสูญรายได้เพราะเป็นเด็กเอน หวั่นคดีไม่คืบหลังอีกฝ่ายอ้างรู้จัก ตร. - นักการเมือง
วันที่ 23 มกราคม 2566 รายการเที่ยงวันทันเหตุการณ์ ช่อง 3 รายงานเรื่องราวที่หญิงสาวเข้าร้องเรียนกับ กัน จอมพลัง หรือ นายกัณฐัศว์ พงศ์ไพบูลย์เวชย์ ขอให้ช่วยเหลือติดตามคดีที่เธอถูกอดีตแฟนหนุ่มทำร้ายร่างกายด้วยการกัดบริเวณใบหน้า สาเหตุจากโมโหที่เธอนั้นไม่ยอมไปนั่งกินเหล้าเป็นเพื่อนด้วย โดยหลังเกิดเหตุเข้าแจ้งความไว้แต่ตำรวจให้ไกล่เกลี่ยและยังไม่ได้ดำเนินคดี รวมทั้งยังทราบว่าฝ่ายชายมีญาติเป็นตำรวจ จึงเกรงว่าคดีจะไม่ได้รับความคืบหน้า
ด้าน น.ส.เอ (นามสมมติ) ผู้เสียหาย เปิดใจว่า เธอเพิ่งคบหากับอดีตแฟนหนุ่มได้ประมาณ 2 เดือน เธอนั้นทราบเรื่องที่ฝ่ายชายเคยติดคุกในคดีฉ้อโกง แต่ก็ไม่ได้ติดใจเพราะเชื่อว่าเขาคงกลับใจได้แล้ว ระหว่างที่คบหากันนั้นได้นัดพบกันประมาณ 3-4 ครั้ง ก็ปกติดีทุกอย่าง แต่พอครั้งที่ 5 เธอไปที่ห้องแฟน สังเกตว่าฝ่ายชายมีพฤติกรรมประหลาด คล้ายโรคจิต เนื่องจากได้เข้ามาทำร้ายเธอด้วยการกัดจมูกและใบหน้า แต่ครั้งนั้นเธอหนีออกมาได้
ตอนนั้นรู้สึกงง และตกใจกับเรื่องที่เกิดขึ้นอย่างมาก จึงตัดสินใจเข้าไปแจ้งความที่ สภ.พานทอง แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจกลับเป็นญาติของแฟน โดยตำรวจรายดังกล่าวได้ขอร้องว่าให้เธออย่าแจ้งความ บอกว่ามีอะไรค่อย ๆ คุยกัน ครั้งนั้นเธอจึงไม่ได้แจ้งความใด ๆ กับแฟนหนุ่ม ก่อนที่หลังจากนั้นจะมีการปรับความเข้าใจกัน และคิดว่าคงไม่เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นอีกอย่างแน่นอน
กระทั่งวันที่ 2 มกราคม เวลาประมาณ 2 ทุ่ม แฟนชวนเธอไปนั่งดื่มเหล้าที่บ้านเช่าแห่งหนึ่งใน ต.พานทอง แต่เธอปฏิเสธเนื่องจากเหนื่อยจากงาน ทำให้ฝ่ายชายไม่พอใจ ก่อนจะเริ่มมีปากเสียงกัน จากนั้นได้มาผลักเธอเข้าห้องน้ำ ใช้มือบีบคอ ก่อนจะกัดใส่ที่ใบหน้าหลายจุดอย่างแรง โดยเฉพาะบริเวณเบ้าตา เธอใช้มือป้องกันแต่ก็โดนกัดนิ้วไปด้วย พยายามขัดขืนหลายครั้งแต่ไม่สำเร็จ ระหว่างนั้นอาการของฝ่ายชายมีท่าทีสะใจ หลังจากนั้นแฟนหนุ่มก็วิดีโอคอลหาตำรวจ อ้างว่าเป็นญาติกัน และไม่ได้ให้การช่วยเหลือแต่อย่างใด
หลังเกิดเหตุด้วยความกลัวว่าจะไม่ปลอดภัย บวกกับใบหน้าก็เสียโฉม ไม่สามารถไปทำงานหาเลี้ยงชีพได้ จึงเข้าแจ้งความไว้ที่ สภ.พานทอง แต่ผ่านมาหลายวันแล้วกลัวคดีจะไม่คืบหน้า เนื่องจากแฟนหนุ่มเคยขู่ไว้ว่ารู้จักนักการเมืองในพื้นที่ และยังมีญาติเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจด้วย จึงตัดสินใจมาร้องเรียนถึง กัน จอมพลัง ให้ช่วยเหลือ
ด้าน กัน จอมพลัง บอกว่า วันนี้ได้พาผู้เสียหายเข้ามาติดตามคดีที่ สภ.พานทอง เนื่องจากใบหน้าของ น.ส.เอ ถูกฝ่ายชายกัดจนเสียโฉม ซึ่งฝ่ายหญิงประกอบอาชีพเป็นเด็กเอน ต้องใช้ใบหน้าและหน้าตาในการทำงานตอนนี้น้องเองไม่สามารถทำงานหาเลี้ยงชีพได้ ส่วนฝ่ายชายตอนนี้ก็ยังลอยนวลอยู่ ตนจึงปล่อยเรื่องนี้ไว้ไม่ได้ เพราะเกรงว่าฝ่ายชายจะไปก่อเหตุแบบนี้กับผู้หญิงคนอื่นอีก
เกี่ยวกับคดีนี้ พ.ต.ท. อานุภาพ คาดีวี รองผู้กำกับ สอบสวน สภ.พานทอง ยืนยันว่า คดีดังกล่าวไม่ได้ล่าช้า ซึ่งพนักงานสอบสวนได้รับแจ้งความตั้งแต่วันที่ 7 มกราคม ที่ผ่านมา เนื่องจากเป็นคดีทำร้ายร่างกาย เจ้าหน้าที่จึงให้ผู้เสียหายเข้าไปตรวจร่างกายที่โรงพยาบาล เพื่อนำผลจากแพทย์เพื่อนำมาประกอบสำนวนคดี โดยจะวันนี้จะสอบปากคำผู้เสียหายเพื่อจะดำเนินคดีกับผู้ก่อเหตุต่อไป
ขอบคุณข้อมูลจาก เที่ยงวันทันเหตุการณ์
วันที่ 23 มกราคม 2566 รายการเที่ยงวันทันเหตุการณ์ ช่อง 3 รายงานเรื่องราวที่หญิงสาวเข้าร้องเรียนกับ กัน จอมพลัง หรือ นายกัณฐัศว์ พงศ์ไพบูลย์เวชย์ ขอให้ช่วยเหลือติดตามคดีที่เธอถูกอดีตแฟนหนุ่มทำร้ายร่างกายด้วยการกัดบริเวณใบหน้า สาเหตุจากโมโหที่เธอนั้นไม่ยอมไปนั่งกินเหล้าเป็นเพื่อนด้วย โดยหลังเกิดเหตุเข้าแจ้งความไว้แต่ตำรวจให้ไกล่เกลี่ยและยังไม่ได้ดำเนินคดี รวมทั้งยังทราบว่าฝ่ายชายมีญาติเป็นตำรวจ จึงเกรงว่าคดีจะไม่ได้รับความคืบหน้า
ด้าน น.ส.เอ (นามสมมติ) ผู้เสียหาย เปิดใจว่า เธอเพิ่งคบหากับอดีตแฟนหนุ่มได้ประมาณ 2 เดือน เธอนั้นทราบเรื่องที่ฝ่ายชายเคยติดคุกในคดีฉ้อโกง แต่ก็ไม่ได้ติดใจเพราะเชื่อว่าเขาคงกลับใจได้แล้ว ระหว่างที่คบหากันนั้นได้นัดพบกันประมาณ 3-4 ครั้ง ก็ปกติดีทุกอย่าง แต่พอครั้งที่ 5 เธอไปที่ห้องแฟน สังเกตว่าฝ่ายชายมีพฤติกรรมประหลาด คล้ายโรคจิต เนื่องจากได้เข้ามาทำร้ายเธอด้วยการกัดจมูกและใบหน้า แต่ครั้งนั้นเธอหนีออกมาได้
ตอนนั้นรู้สึกงง และตกใจกับเรื่องที่เกิดขึ้นอย่างมาก จึงตัดสินใจเข้าไปแจ้งความที่ สภ.พานทอง แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจกลับเป็นญาติของแฟน โดยตำรวจรายดังกล่าวได้ขอร้องว่าให้เธออย่าแจ้งความ บอกว่ามีอะไรค่อย ๆ คุยกัน ครั้งนั้นเธอจึงไม่ได้แจ้งความใด ๆ กับแฟนหนุ่ม ก่อนที่หลังจากนั้นจะมีการปรับความเข้าใจกัน และคิดว่าคงไม่เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นอีกอย่างแน่นอน
กระทั่งวันที่ 2 มกราคม เวลาประมาณ 2 ทุ่ม แฟนชวนเธอไปนั่งดื่มเหล้าที่บ้านเช่าแห่งหนึ่งใน ต.พานทอง แต่เธอปฏิเสธเนื่องจากเหนื่อยจากงาน ทำให้ฝ่ายชายไม่พอใจ ก่อนจะเริ่มมีปากเสียงกัน จากนั้นได้มาผลักเธอเข้าห้องน้ำ ใช้มือบีบคอ ก่อนจะกัดใส่ที่ใบหน้าหลายจุดอย่างแรง โดยเฉพาะบริเวณเบ้าตา เธอใช้มือป้องกันแต่ก็โดนกัดนิ้วไปด้วย พยายามขัดขืนหลายครั้งแต่ไม่สำเร็จ ระหว่างนั้นอาการของฝ่ายชายมีท่าทีสะใจ หลังจากนั้นแฟนหนุ่มก็วิดีโอคอลหาตำรวจ อ้างว่าเป็นญาติกัน และไม่ได้ให้การช่วยเหลือแต่อย่างใด
หลังเกิดเหตุด้วยความกลัวว่าจะไม่ปลอดภัย บวกกับใบหน้าก็เสียโฉม ไม่สามารถไปทำงานหาเลี้ยงชีพได้ จึงเข้าแจ้งความไว้ที่ สภ.พานทอง แต่ผ่านมาหลายวันแล้วกลัวคดีจะไม่คืบหน้า เนื่องจากแฟนหนุ่มเคยขู่ไว้ว่ารู้จักนักการเมืองในพื้นที่ และยังมีญาติเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจด้วย จึงตัดสินใจมาร้องเรียนถึง กัน จอมพลัง ให้ช่วยเหลือ
ด้าน กัน จอมพลัง บอกว่า วันนี้ได้พาผู้เสียหายเข้ามาติดตามคดีที่ สภ.พานทอง เนื่องจากใบหน้าของ น.ส.เอ ถูกฝ่ายชายกัดจนเสียโฉม ซึ่งฝ่ายหญิงประกอบอาชีพเป็นเด็กเอน ต้องใช้ใบหน้าและหน้าตาในการทำงานตอนนี้น้องเองไม่สามารถทำงานหาเลี้ยงชีพได้ ส่วนฝ่ายชายตอนนี้ก็ยังลอยนวลอยู่ ตนจึงปล่อยเรื่องนี้ไว้ไม่ได้ เพราะเกรงว่าฝ่ายชายจะไปก่อเหตุแบบนี้กับผู้หญิงคนอื่นอีก
เกี่ยวกับคดีนี้ พ.ต.ท. อานุภาพ คาดีวี รองผู้กำกับ สอบสวน สภ.พานทอง ยืนยันว่า คดีดังกล่าวไม่ได้ล่าช้า ซึ่งพนักงานสอบสวนได้รับแจ้งความตั้งแต่วันที่ 7 มกราคม ที่ผ่านมา เนื่องจากเป็นคดีทำร้ายร่างกาย เจ้าหน้าที่จึงให้ผู้เสียหายเข้าไปตรวจร่างกายที่โรงพยาบาล เพื่อนำผลจากแพทย์เพื่อนำมาประกอบสำนวนคดี โดยจะวันนี้จะสอบปากคำผู้เสียหายเพื่อจะดำเนินคดีกับผู้ก่อเหตุต่อไป
ขอบคุณข้อมูลจาก เที่ยงวันทันเหตุการณ์
